In Bangkok
'ชัชชาติ'จับมือป.ป.ช.กระจายงบ2แสนบ. สู่ชุมชนสร้างชุมชนเข้มแข็งสุจริตโปร่งใส
กรุงเทพฯ-ผู้ว่าฯชัชชาติจับมือ ป.ป.ช. กระจายงบฯ 2 แสนบาทสู่ชุมชน สร้างชุมชนเข้มแข็ง สุจริต โปร่งใส พร้อมกระจายอำนาจให้ประชาชน
(22 พ.ค. 66) เวลา 13.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแนวทางต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ “โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2566” โดยมีนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธี ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) และผ่านระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Webinar)
สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนดจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนแนวทางต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ “โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2566” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินโครงการอย่างโปร่งใสและป้องปรามความเสี่ยงต่อการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 600 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการอํานวยการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนระดับเขต จำนวน 50 เขต เขตละ 10 คน เข้าร่วมกิจกรรม และผู้แทนชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 2,014 ชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมผ่านระบบการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (Zoom Webinar)
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่สำคัญมาก โดยกทม. ร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในส่วนของโครงการชุมชนเข้มแข็ง เนื่องจากเป็นหัวใจของหนึ่งในนโยบายของกทม.คือ participatory budgeting การให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดงบประมาณที่ลงไปสู่ชุมชน เป็นการกระจายอำนาจลงสู่ชุมชน แต่เมื่อกระจายอำนาจให้ชุมชนแล้วอาจจะมีข้อกังวลเรื่องความโปร่งใส เรื่องระเบียบราชการ เจ้าหน้าที่ก็จะกังวลเรื่องงบประมาณ 200,000 บาท ในการแก้ปัญหาดังกล่าวจึงเลือกโครงการนี้มาเป็นโครงการนำร่องร่วมกับป.ป.ช ทำให้โปร่งใสทั้ง 3 มิติ คือ ประชาชนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ที่กำกับดูแล และเอกชนที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าโครงการนี้หากสามารถทำให้โปร่งใสมีประสิทธิผล 100%
ในอนาคตอาจขยายผลเป็นตัวอย่างให้กับโครงการต่าง ๆ ทั่วประเทศในหลายจังหวัดได้ โครงการเป็นโครงการสำคัญจึงอยากให้เกิดประสิทธิภาพและไร้ข้อครหาต่าง ๆ เพื่อให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องทำงานได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผู้มีอำนาจมาบีบบังคับ เนื่องจากมีระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจน ประชาชนก็จะได้ของที่ดีมีคุณภาพนำไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชุมชน ซึ่งเป็นต้นแบบของการใช้งบประมาณที่มีประสิทธิภาพ ต้องขอขอบคุณป.ป.ช. ที่ทำให้เกิดโครงการที่เป็นก้าวแรกที่สร้างความมั่นใจและมั่นคงต่อไป
แนวทางพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีนโยบายที่จะพัฒนาชุมชนให้เป็นเมืองน่าอยู่ โดยใช้หลักการบริหารจัดการแนวใหม่ คือ หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางในการคิดและดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง โดยมีรัฐให้การสนับสนุน ภาคเอกชนให้การช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด
ด้านสำนักพัฒนาสังคมในฐานะหน่วยงานกลางของกรุงเทพมหานครในด้านการส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานด้านพัฒนาชุมชนฯ ได้เสนอโครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2566 เพื่อให้ชุมชนสามารถจัดทำแผนพัฒนาชุมชนของตนเองได้ โดยโอนงบประมาณให้สำนักงานเขต ชุมชนละ 200,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการจัดทำโครงการ/กิจกรรมตามแผนพัฒนาชุมชนที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการฯ
ป้องกันการทุจริต
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานครดำเนินการเชิงรุกและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน รวมถึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามการต่อต้านการทุจริตของกรุงเทพมหานคร (ศตท.กทม.) ขึ้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของกรุงเทพมหานคร โดยให้ข้าราชการกรุงเทพมหานคร บุคลากรกรุงเทพมหานคร และผู้ปฏิบัติงานในกรุงเทพมหานคร ดำเนินการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันอย่างเข้มงวด จะต้องไม่เฉยเมย ไม่ทำ และไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ การบริหารราชการของกรุงเทพมหานครจะต้องมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและไว้วางใจให้ประชาชน
ทั้งนี้ ศปท.กทม. ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. โดยมีประเด็นสำคัญในการจัดทำแผนการตรวจสอบลงพื้นที่เพื่อป้องกันการทุจริตเชิงรุกร่วมกัน “โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2566”
ขณะเดียวกันก็จัดให้มีการสัมมนาให้ความรู้เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหาพัสดุตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากกรมบัญชีกลางให้ความรู้เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง การให้ความรู้ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเชิญเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาสังคมให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2566 เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครและประชาชนในชุมชนไม่ให้ต้องรับผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใส การใช้จ่ายงบประมาณคุ้มค่า และจะมีการตรวจแนะนำ ซึ่งจะได้จัดทำปฏิทินการดำเนินการลงพื้นที่ตรวจร่วมกันหลังจากการสัมมนาให้ความรู้ต่อไป
กิจกรรมสัมมนาฯ ประกอบด้วย การอภิปรายหัวข้อ “โครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2566” โดย นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อํานวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ “การจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้องและโปร่งใส ภายใต้โครงการชุมชนเข้มแข็ง พัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2566” โดย วิทยากรกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง “การป้องปรามความเสี่ยงต่อการทุจริตในการดำเนินโครงการชุมชนเข้มแข็งพัฒนาตนเองตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ.ศ.2566” โดย นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. และนายเกียรติศักดิ์ พุฒพันธุ์ ผู้อํานวยการสำนักไต่สวนภาคการเมืองและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ สำนักงาน ป.ป.ช.