In Global

เปิดรายงานกลยุทธตราสารทุนสำคัญจาก EquitiesFirst&Institutional Investor



ฮ่องกง-31 พฤษภาคม 2566-EquitiesFirst  ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการให้สินเชื่อแบบมีตราสารทุนค้ำประกัน เปิดเผยรายงานสำคัญร่วมกับทาง Institutional Investor ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ด้าน B2B ในวาระครบรอบ 20 ปี ในฐานะผู้บุกเบิกเงินทุนก้าวหน้า (progressive capital)

รายงานฉบับนี้รวบรวมจากบทสัมภาษณ์ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพที่ดำเนินการในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2566 โดยเผยถึงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐศาสตร์มหัพภาคและภูมิรัฐศาสตร์ของกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกท่ามกลางความผันผวนอย่างมากในตลาดตราสารทุน

ที่น่าสนใจก็คือนักลงทุนทั่วโลกคาดว่าผลตอบแทนจากตราสารทุนจะรีบาวด์ในปี 2566 และกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลท์แคร์จะยังคงเป็นตลาดกระทิง ในระยะกลางผู้ตอบคำถามยังแสดงความมั่นใจในหุ้นเติบโต แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อต่อเนื่องก็ตาม

ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา EquitiesFirst ช่วยให้พันธมิตรได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพในตลาดการเงินหลักทุกแห่งผ่านแนวทางการลงทุนแบบใหม่ที่ปลดล็อกข้อจำกัดการให้สินเชื่อแบบดั้งเดิม รายงานฉบับนี้เป็นความร่วมมือที่อาศัยทั้งความเป็นผู้นำทางความคิดในด้านนวัตกรรมทางการเงินของ EquitiesFirst และความสามารถด้านการศึกษาวิจัยที่ครอบคลุมจาก Custom Research Lab ของ Institutional Investor จนได้เป็นมุมมองจาก CIO, ผู้จัดการพอร์ตการลงทุน ตลอดจนผู้มีอำนาจในการตัดสินใจด้านการลงทุนกว่า 300 คน ทั้งในบริษัทบริหารจัดการสินทรัพย์ มูลนิธิ ระบบบำนาญ และกองทุนพัฒนา ทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก

ข้อมูลสำคัญในรายงานฉบับนี้ประกอบด้วย:

  • มองผลตอบแทนอย่างเข้มแข็งแม้ในภาวะความผันผวน: ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนตราสารทุนจะอยู่ที่ 5.9% ในปีนี้ ฟื้นคืนจากการติดลบสองหลักบางส่วนในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเกือบสามในสี่ของผู้ตอบคำถามเชื่อว่าตลาดที่ตนเองลงทุนจะเกิดความผันผวนมากขึ้นไม่ว่าจะที่ใดก็ตาม
  • เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญ: 63% ระบุว่าปัจจัยทั้งสองถือเป็นแรงผลักดันระดับเศรษฐศาสตร์มหัพภาคที่สำคัญต่อผลตอบแทนของตราสารทุนในช่วง 18 เดือนข้างหน้า นอกจากนั้นยังมีผลจากปัจจัยด้านการดำเนินกิจการอื่นๆ เช่น นโยบายทางการค้า (47%) การใช้จ่ายภาคธุรกิจ (33%) และต้นทุนค่าพลังงาน (25%)
  • ความเสี่ยงระดับภูมิภาคที่ต่างกัน: นักลงทุนตลาดตราสารทุนอเมริกาเหนือเป็นห่วงเรื่องอัตราดอกเบี้ย (84%) และเงินเฟ้อ (79%) มากที่สุด ขณะที่ฟากยุโรปกังวลใจมากในเรื่องต้นทุนและความพร้อมของพลังงาน ทางด้านเอเชียมองว่าปัจจัยหลักอยู่ที่ความสัมพันธ์ทางการค้าและกำแพงภาษีศุลกากร
  • สภาพอากาศขึ้นแท่นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์: การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ (70%) สงครามในยุโรป (65%) และการโจมตีทางไซเบอร์ (52%) เป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญต่อผลประกอบการของตราสารทุน
  • ตลาดกระทิงในกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลท์แคร์: นักลงทุนทั่วโลกราว 69% มองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศยังคงอยู่ในภาวะตลาดกระทิง และราว 64% มองเห็นแนวโน้มขาขึ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ในช่วงสามปีข้างหน้า
  • ตลาดหมีในกลุ่มอสังหาฯ และการเงิน: นักลงทุนส่วนน้อยยังคงมองภาพบวกในกลุ่มธุรกิจที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยสูงและอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และการเงิน
  • สมาร์ตเบตาคือกลยุทธ์เป้าหมาย: การสำรวจทั่วโลกราว 67% มองว่า สมาร์ตเบตา (smart beta) ซึ่งใช้ปัจจัยเชิงปริมาณเพื่อปรับกลยุทธ์ดัชนีตลาดในวงกว้างอย่างละเอียด ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจโดยเฉพาะกับตลาดตราสารทุนที่พัฒนาแล้วและมีสภาพคล่องสูง
  • ESG เพิ่มความได้เปรียบ: นักลงทุนส่วนใหญ่และนักลงทุนราวสองในสามในตลาดพัฒนาแล้วเห็นพ้องอย่างยิ่งว่า การให้ความสำคัญด้าน ESG จะช่วยมอบความได้เปรียบด้านข้อมูลที่มีคุณค่าแก่นักลงทุนที่ต้องการชนะตลาด

อเล็กซานเดอร์ คริสตี้ จูเนียร์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EquitiesFirst กล่าวว่า "เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Institutional Investor ในการจัดทำงานวิจัยเนื่องในวาระครบรอบ 20 ปีของ EquitiesFirst เพื่อแบ่งปันมุมมองเชิงลึกที่ตรงประเด็นจากกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก ผลประกอบการและความมั่นคงของตลาดตราสารทุนทั่วโลกมีความสำคัญต่อความสำเร็จของพันธมิตรของเรา ตลอดจนความสามารถของเราในการดูแลพันธมิตรในฐานะผู้ร่วมลงทุนระยะยาว และเพื่อเป็นการสานต่อแนวทางการลงทุนในความสำเร็จของพันธมิตรที่สืบเนื่องมายาวนานกว่า 20 ปีของ EquitiesFirst เราจึงเดินหน้าทุ่มเทความตั้งใจเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุน"

"หมอกควันแห่งความไม่แน่นอนในตลาดตราสารทุนเริ่มคลี่คลาย ผู้เชี่ยวชาญเริ่มมองหาทิศทางได้ง่ายขึ้น และรายงานฉบับนี้ก็ช่วยถ่ายทอดเสียงจากผู้มีอำนาจในการตัดสินใจตัวจริงของกลุ่มสถาบันทั่วโลก" แซม นอกซ์ กรรมการผู้จัดการฝ่าย Custom Research Lab ของ Institutional Investor กล่าว "เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ EquitiesFirst เพื่อถ่ายทอดความคิดและการคาดการณ์จากมืออาชีพด้านการลงทุนกว่า 300 คน ที่บริหารจัดการสินทรัพย์กลุ่มสถาบันมูลค่า 8.5 ล้านล้านดอลลาร์ ในมิติที่สำคัญต่อการลงทุนในตลาดตราสารทุนในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้"

อ่านรายงานฉบับเต็ม "Global Equity Markets: The Near-Term and Mid-Term Outlook Amid Inflation, Rising Rates, Global Conflict and Pandemic Recovery" หรือ "ตลาดตราสารทุนระดับโลก: ทัศนะระยะใกล้และระยะกลางท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งทะยาน ความขัดแย้งทั่วโลก และการฟื้นตัวจากโรคระบาด" บนเว็บไซต์ EquitiesFirst ได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Equities First Holdings

EquitiesFirst ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 เป็นบริษัทด้านการลงทุนระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดหาเงินทุนโดยมีตราสารทุนค้ำประกันแบบระยะยาว แนวทางของ EquitiesFirst จะสามารถเอาชนะข้อจำกัดแบบเดิม ๆ และทำให้เกิดประสบการณ์ใหม่ในการจัดหาเงินทุน ผ่านทางการเสนอและการเข้าถึงเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับเจ้าของกิจการ ผู้บริหาร และนักลงทุน ที่เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดย ณ เดือนมกราคม 2566 EquitiesFirst มีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อโดยรวมมากกว่า 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

EquitiesFirst มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองอินเดียนาโพลิส สหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานระหว่างประเทศอยู่ถึง 12 แห่งใน 8 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สเปน จีน (ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง) เกาหลีใต้ ไทย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย (ซิดนีย์ เพิร์ท และเมลเบิร์น) โดย EquitiesFirst ได้รับอนุญาตและ/หรือจดทะเบียนในเขตอำนาจศาลทั้งหมดตามที่ข้อบังคับกำหนด

EquitiesFirst คือผู้บุกเบิกเงินทุนก้าวหน้า (Progressive Capital) เป็นแนวทางการร่วมเป็นหุ้นส่วนในการลงทุนซึ่งมีรากฐานและพัฒนามาจากความเคารพ ผลประโยชน์และความเข้าใจที่มีร่วมกันระหว่างเราและลูกค้า โดย EquitiesFirst ส่งมอบแนวทางการแก้ไขเกี่ยวกับการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินที่สำคัญ สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าและขับเคลื่อนความสำเร็จของหุ้นส่วนและลูกค้าของเรา