Authority & Harm

รุมสาปแช่งโจรใจเหี้ยมขโมยผลทุเรียน



ราชบุรี- ชาวบ้านรุมสาปแช่งโจรใจเหี้ยมขโมยผลทุเรียนความหวังของหมู่บ้านหมดต้น

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสวนทุเรียนลุงเสกสรร ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหัวขโมยแอบย่องลักตัดผลทุเรียนหมอนทองต้นแรกของหมู่บ้าน ทำเจ้าของและชาวบ้านที่รู้ข่าวช้ำใจ รุมสาปแช่ง

เมื่อไปถึงพบว่าต้นทุเรียนดังกล่าว ถูกปลูกอยู่ริมถนนในซอยหมู่บ้าน ความสูงประมาณ 3 เมตร ที่กิ่งพบว่าคนร้ายได้ตัดผลทุเรียนไปจำนวน 4 ลูก จนเหลือแต่ขั้วไว้ให้ดูต่างหน้า โดยมีนายเสกสรร สันทอง อายุ 58 ปี เจ้าของต้นทุเรียน พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายเสกสรร เปิดเผยว่า ปกติแล้วตนมีอาชีพทำนา แต่ด้วยความชื่นชอบรับประทานทุเรียนมาก ประกอบกับมีที่ดินว่างเปล่า ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักไปประมาณ 100 เมตร ดังนั้นเมื่อ 4 ปีก่อน ตนจึงเริ่มทำสวนไม้ผลไว้กินในครัวเรือน และที่พลาดไม่ได้คือ ทุเรียน จึงนำเงินไปซื้อกิ่งพันธุ์ทุเรียนหมอนทองจาก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มาปลูก จำนวน 10 ต้น ในราคาต้นละ 300 บาท 

เนื่องจากสภาพโดยทั่วไปของ ต.คุ้งพยอม มีความแตกต่างจากพื้นที่ปลูกทุเรียนในแหล่งอื่นๆ ตนจึงต้องศึกษาและดูแลต้นทุเรียนเป็นพิเศษ แต่ทุเรียนก็ตายไปถึง 7 ต้น กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาต้นทุเรียนที่เหลือเริ่มออกดอก ติดผล สร้างความดีใจให้กับตนเป็นอย่างมาก  โดยตนตั้งใจที่จะนำทุเรียนผลแรกไปทำบุญถวายพระ อุทิศกุศลให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ส่วนที่เหลือจะแบ่งให้กับครอบครัวและญาติมิตรได้ชิม ซึ่งมีกำหนดจะเก็บผลชุดแรกจำนวน 4 ลูก ได้ในเดือนกรกฎาคมนี้

นายเสกสรรบอกต่ออีกว่า ความหวังที่เฝ้ารอมานานกลับพังทลายลง หลังจากคืนวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ออกไปดูแลต้นทุเรียนจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น. พร้อมกับเชยชมผลทุเรียนขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 3 – 4 กิโลกรัม ก่อนกลับมานอนพักที่บ้าน ในเช้าวันต่อมา ตนได้ออกไปดูทุเรียนอีกครั้ง ก็พบว่าผลทุเรียนทั้ง 4 ลูก ได้ถูกคนร้ายขโมยไป สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมาก  จึงรีบเดินสำรวจดูทุเรียนอีกต้นหนึ่ง ซึ่งติดผลอยู่จำนวน 2 ลูก โชคดีที่ผลยังมีขนาดเล็กอยู่ คนร้ายจึงไม่ได้ตัดไปด้วย โดยหลังจากนี้ ตนตั้งใจจะมานอนเฝ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาขโมยได้อีก 

ด้าน นางเสาวลักษณ์ ประภาพัฒนพงษ์ ชาวบ้าน เปิดเผยว่า ในช่วงแรกๆ ที่นายเสกสรรซื้อต้นทุเรียนมาปลูก ทั้งภรรยาของนายเสกสรรและชาวบ้านทุกคนต่างก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะปลูกทุเรียนได้ และยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปลูกไปก็ไม่ได้กินลูก”

แต่ตลอด 4 ปี ไม่ว่าแดดจะร้อน ฝนจะตก หรือลมจะหนาว ทุกวันทั้งเช้า สาย บ่าย เย็น และก่อนนอน นายเสกสรรจะมาคอยรดน้ำ ใส่ปุ๋ย เก็บหนอน และจับแมลง เรียกได้ว่าดูแลเหมือนลูก จนกระทั่งทุเรียนออกผลใหญ่ จากคำสบประมาท กลับกลายมาเป็นคำชมและความหวังของหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนจะได้รู้ว่าเนื้อทุเรียนคุ้งพยอมเป็นอย่างไร จะอร่อยสู้พื้นที่อื่นได้หรือไม่ โจรใจเหี้ยมก็มาขโมยตัดผลทุเรียนไปเสียก่อน และยิ่งเจ็บใจมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ว่าทุเรียนที่ถูกตัดไปยังอ่อนอยู่ จะกินก็ไม่ได้ หรือจะเอาไปขายก็ไม่ได้

ชาวบ้านที่รู้ข่าวถึงกับพากันสาปแช่งโจรด้วยความโกรธแค้น ที่มาทำลายความหวังของหมู่บ้านว่า “ถ้ากินทุเรียนไปแล้ว ขอให้ท้องอืดเป็นร้อนในตาย”

สุจินต์ นฤภัย / ราชบุรี