In Bangkok

กทม.จ่อเซ็นประกาศคณะอนุขับเคลื่อน งานสิทธิมนุษยชนลดการละเมิดสิทธิปชช.



กรุงเทพฯ-(8 มิ.ย.66) เวลา 13.30 น. : นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2566 โดยมี ผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม กรมประชาสัมพันธ์ กรมการศาสนา สำนักงานอัยการสูงสุด กองบัญชาการตำรวจนครบาล คณะอนุกรรมการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า)

ในที่ประชุม คณะอนุกรรมการฯ ขอความเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงานสิทธิมนุษยชนกรุงเทพมหานครเรื่อง นโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งอาศัยอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งของคณะกรรมการขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ครั้งที่ 2/2566 ลงวันที่ 3  มกราคม 2566  จึงกำหนดนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและยึดถือปฏิบัติ ประกอบด้วย 1.ให้ความเคารพและปฏิบัติต่อทุกคนตามหลักการสิทธิมนุษยชนอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ในเรื่องเชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมืองหรือความคิดเห็นอื่นใด ชาติหรือสังคมดั้งเดิม ทรัพย์สิน กำเนิดหรือสถานะอื่น 2.สนับสนุนและส่งเสริมการดำเนินการใด ๆ เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 3.ยึดมั่นในกฎหมาย หลักนิติธรรม และรักษาไว้ซึ่งสภาพการทำงานที่ เป็นธรรม เพื่อการป้องกันการกระทำอันอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนผู้รับบริการ 4.มุ่งมั่นที่จะสร้าง และรักษาวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นต่อการเคารพสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็น สะท้อนปัญหาในทุกเรื่องรวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน 5.จัดให้มีช่องทางในการสื่อสาร แจ้งเบาะแส หรือร้องเรียนร้องทุกข์ ที่เหมาะสมกับประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน 6.จัดให้มีการตรวจสอบและคุ้มครองผู้ร้องเรียนร้องทุกข์ รวมถึงจัดให้มีมาตรการบรรเทาแก้ไขผลกระทบ และชดใช้เยียวยาอย่างเป็นธรรมในกรณีที่เกิดความเสียหายขึ้น และ7.จัดให้มีการตรวจสอบสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้านเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนอันเกิดจากการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมกำหนดแนวทางหรือมาตรการในการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยให้ทุกหน่วยงานมีหน้าที่กำกับดูแลและบริหารความเสี่ยงที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามประกาศฯ และจะเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงนาม ก่อนประกาศใช้ต่อไป

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมขอความเห็นชอบ (ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านสิทธิมนุษย์ชนกรุงเทพมหานคร ประจำปีงบประมาณ 2566 ประกอบด้วย ด้านการเมืองการปกครอง กำหนดให้มีจำนวนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเพื่อการเข้าถึงบริการด้านขนส่งโดยเฉพาะกลุ่มคนพิการ และผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น และมีมาตรการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตบนท้องถนน ด้านสาธารณสุข กำหนดให้มีมาตรการและโครงการด้านสาธารณสุขเชิงป้องกันมากขึ้น ด้านการศึกษา กำหนดให้สัดส่วนของนักเรียนและนักศึกษาที่เข้าถึงอุปกรณ์สัญญาณระบบเครือข่ายที่จำเป็นและมีคุณภาพในการเรียนการสอนในระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น และสัดส่วนของบุคลากรที่ได้รับอุปกรณ์และการเข้าถึงอุปกรณ์สัญญาณระบบเครือข่ายที่จำเป็นและมีคุณภาพในการเรียนการสอนในระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น ด้านกลุ่มเด็กและสตรี กำหนดให้มีกลไกและมาตรการสอดส่อง เฝ้าระวังปัญหาการกระทำความรุนแรงในครอบครัว และมีหน่วยงานเฉพาะที่มีความพร้อมด้านทรัพยากรบุคคล หลักวิชาการ และงบประมาณ สำหรับข้อร้องเรียนและรับมือเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิเด็ก ด้านกลุ่มผู้สูงอายุ ให้มีการกำหนดนโยบายหรือมาตรการในการป้องกันและคุ้มครองมิให้มีการกระทำความรุนแรง และละเมิดสิทธิของผู้สูงอายุอย่างเป็นธรรม และมีมาตรการหรือแนวทางเตรียมเพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างเป็นธรรม ด้านกลุ่มผู้เสพยาเสพติด กำหนดให้มีนโยบายลดทอนความเป็นอาชญากรรมของการเสพยาเสพติดเพื่อผลักดันนโยบายผู้เสพเป็นผู้ป่วยอย่างแท้จริง ให้โอกาสผู้เสพยาเข้าถึงการบำบัดรักษาโดยไม่จำกัดและไม่มีเงื่อนไข ด้านกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ กำหนดให้มีกลไกรับข้อร้องเรียนการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มหลากหลายทางเพศที่เหมาะสม ด้านกลุ่มคนพิการ กำหนดให้มีจำนวนการจ้างงานคนพิการในหน่วยงานของรัฐและส่งเสริมการจ้างงานในสถานประกอบการอื่น และจำนวนคนพิการเข้าถึงสวัสดิการ สาธารณูปโภค และข้อมูลข่าวสารเพิ่มขึ้น รวมทั้งจำนวนสถานศึกษา หรือสถาบันการศึกษา หรือองค์กรที่จัดการศึกษาแบบเรียนร่วมตามหลักสูตร สำหรับบุคคลที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ(คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส ผู้มีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้น) และ สัดส่วนของคนพิการที่สามารถเข้าสู่ระบบการศึกษาทุกระดับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกระดับการศึกษา ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการตามแผนต่อไป
——-