In Bangkok
กทม.ยกบริการสุขภาพมาใกล้บ้านครั้ง12 ชุมชนหมู่บ้านพลับพล-วังทองหลาง
กรุงเทพฯ-(22 มิ.ย. 66) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการออกหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ “โครงการกรุงเทพฯ ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ” ณ ชุมชนหมู่บ้านพลับพลา ซอยรามคำแหง 39 เขตวังทองหลาง
กรุงเทพมหานคร มีหน้าที่ดูแลประชาชนอย่างครบวงจรด้วยภารกิจในการให้บริการอันหลากหลาย ทั้งการแพทย์สาธารณสุข การศึกษา การส่งเสริมอาชีพ และด้านอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายให้ชาวกรุงเทพฯ ทุกคนมีชีวิตที่ดี อยู่ในสังคมที่ดี และมีความสุข ทั้งนี้ ตามนโยบาย 9 ด้าน 9 ดี ด้านสุขภาพดี ที่ให้มีบริการสาธารณสุขเคลื่อนที่เชิงรุก Mobile Medical Unit กรุงเทพมหานครโดยสำนักอนามัยจึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดหน่วยบริการสุขภาพเคลื่อนที่ “โครงการกรุงเทพฯ ห่วงใย ใส่ใจสุขภาพ” เพื่อให้บริการเชิงรุกในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเดือนละ 2 ครั้ง ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 12 ซึ่งสำนักอนามัยได้จัดขึ้นร่วมกับสำนักงานเขตวังทองหลาง ประธานชุมชนหมู่บ้านพลับพลา อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และศูนย์บริการสาธารณสุข 15 ลาดพร้าว
สำหรับกิจกรรมประกอบด้วย การตรวจคัดกรองสุขภาพ รักษาโรคเบื้องต้น บริการวัคซีนโควิด 19 การให้บริการรถเคลื่อนที่ ได้แก่ รถคัดกรองมะเร็งสตรี รถตรวจจอประสาทตา รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ รถทันตกรรม รถคลายเครียด หน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ทำหมันสุนัขและแมว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ฝังไมโครชิปสุนัข กิจกรรมเสริมภูมิคุ้มกันให้คำปรึกษาเรื่องยาเสพติด การให้คำแนะนำเรื่องการใช้ยา อาหารเสริม คลินิกลดน้ำหนัก การให้ความรู้ในการเฝ้าระวังโรคติดต่อในพื้นที่ กิจกรรมคลินิกมลพิษ การประเมินภาวะสมองเสื่อม ซึ่งจัดโดยโรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์ การสนับสนุนแว่นสายตายาว จากมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และการจำหน่ายของดีเขตวังทองหลาง โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ เข้าถึงสวัสดิการด้านการตรวจ คัดกรองสุขภาพพื้นฐาน ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย ลดเวลาและภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ยกระดับการเข้าถึงการรักษาพยาบาลคุณภาพดีใกล้บ้านในระดับเส้นเลือดฝอย นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมรายได้ในชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับนโยบายด้านสาธารณสุขและการศึกษามากที่สุด เพราะเมื่อประชาชนสามารถเข้าถึงการสาธารณสุขที่ดีและการศึกษาที่ดี จะทำให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วย
"การสาธารณสุขที่ดีไม่ใช่แค่มีโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานที่สามารถรองรับประชาชนในพื้นที่ได้เท่านั้น แต่หัวใจที่แท้จริงของการทำงานด้านนี้คือการทำให้ประชาชนป่วยน้อยลง ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ดังนั้น เราจึงให้ความสำคัญกับบริการปฐมภูมิมาก ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทางกายภาพ อุปกรณ์ ทรัพยากรของศูนย์บริการสาธารณสุข การมีอัตรากำลังที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ศูนย์บริการสาธารณสุขไม่ได้มีในทุกชุมชน ทุกซอยบ้าน เราจึงต้องจัดให้มีหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่เพื่อเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้น" รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
รองผู้ว่าฯ กล่าวต่อไปว่า กรุงเทพมหานครได้พยายามที่จะเพิ่มจำนวนรถและชนิดของรถบริการสุขภาพ เช่น รถเอกซเรย์ รถตรวจคัดกรอง ฯลฯ ให้มากและหลากหลาย คาดว่าปลายปีนี้ถึงช่วงต้นปีหน้า จะมีรถสำหรับให้บริการด้านสุขภาพขนาดเล็กกว่ารถที่มีในปัจจุบัน เพื่อให้การบริการด้านสุขภาพเข้าถึงชุมชนได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การจะเข้าถึงประชาชนได้ทั่วถึง นอกจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังจำเป็นจะต้องมีอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครด้วย ฉะนั้น หากมีสิ่งใดที่จะสามารถสนับสนุนการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานครได้ ก็จะดำเนินการให้
สำหรับวันนี้ นางทวีพร โชตินุชิต รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายโครงการ เจียมจีรกุล ผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง นพ.ขจิต ชูปัญญา ประธานมูลนิธิช่วยการสาธารณสุขชุมชนในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง คณะผู้บริหารสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ สำนักงานเขตวังทองหลาง สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ประธานชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ร่วมพิธีเปิดและร่วมกิจกรรม