In Bangkok
กทม.เปิดฟรี1วันนักเรียนใส่ชุดอะไรก็ได้ แจ้งทุกเขตรับทราบแต่23มิ.ย.ที่ผ่านมา
กรุงเทพฯ-นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลัง กรุงเทพมหานครมีหนังสือประกาศเรื่องแนวทางการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร
รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า เรื่องของชุดนักเรียนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของสิทธิเด็ก เรื่องของชุดลูกเสือ เครื่องแบบ และทรงผม มีการหารือกันมานาน มีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องหลายส่วน รวมถึงมีผู้แทนนักเรียนด้วย ขณะนี้คุยไปแล้วหลายรอบและทุกฝ่ายได้ตกผลึกร่วมกัน หัวใจสำคัญคือเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้เด็กได้ไปโรงเรียนอย่างมั่นใจ ถูกสุขอนามัย และเป็นการลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ปัจจุบันโรงเรียนได้เงินอุดหนุนจากรัฐปีละ 2 ชุด เป็นชุดนร. 1 ชุด และชุดพละหรือชุดลูกเสือ 1 ชุด แนวทางที่ออกมา คือ มีอย่างน้อย1วันในสัปดาห์ที่นร.จะใส่ชุดอะไรก็ได้ สิ่งสำคัญคือให้นร.ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยประกาศนี้จะใช้บังคับทุกโรงเรียนของกทม.
ในส่วนของทรงผม หัวใจหลักคือการไม่ริดรอนสิทธิเด็กเช่นเดียวกัน แต่ต้องอยู่ภายใต้ความเรียบร้อย เหมาะสม ทั้งนี้คณะกรรมการโรงเรียนได้พูดคุยร่วมกับ ผู้แทนผู้ปกครอง นักเรียน และทำให้แต่ละโรงเรียนอาจกำหนดไม่เหมือนกันได้ เพราะบางโรงเรียนก็มีการสอนศาสนาด้วย เราไม่ได้ทำเกินสิ่งที่กระทรวงกำหนด แต่เนื่องจากแต่ละโรงเรียนตีความประกาศของกระทรวงไม่เหมือนกัน ดังนั้นกทม.จึงได้ออกประกาศเพื่อกำหนดแนวทางให้โรงเรียนสังกัดกทม.
“เรื่องนี้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยอาจมีแรงต้าน วันนี้เราเอาเรื่องนี้มาคุยบนโต๊ะ ให้เด็กๆได้ร่วมกันตัดสินใจ เรื่องความเหมาะสมคือความเข้าใจที่ตรงกัน” รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าว
ด้าน ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ประกาศนี้สุดท้ายก็จะมีการประเมินผลดีผลเสีย เราไม่ต้องกลัวอะไร ให้กล้าทำในสิ่งต่างจากเดิม ทำอะไรใหม่ๆ ให้เด็กได้มีการคิด ผู้ปกครองได้มีส่วนร่วม แต่ต้องมีกรอบ มีกติกา มีการประเมิน สุดท้ายถ้าไม่ดีก็ต้องปรับเปลี่ยน กทม.ยินดีรับคำติชมทุกอย่าง
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้มีหนังสือเรื่องแนวทางการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร แจ้งไปยังผู้อำนวยการเขตทุกแห่ง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ที่กำหนดให้ สถานศึกษาใดจะกำหนดให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาติ นักศึกษาวิชาทหาร หรือแต่งชุดพื้นเมืองฯลฯ ให้เป็นไปตามที่สถานศึกษากำหนด โดยคำนึงถึงความประหยัดและเหมาะสม เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง กรุงเทพมหานครจึงได้ให้โรงเรียนในสังกัด จัดทำข้อกำหนดให้นักเรียนแต่งกายด้วยชุดใดก็ได้ที่ไม่เป็นการบังคับ อย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ โดยให้นักเรียนเป็น
ผู้มีส่วนร่วมในการกำหนด จากนั้นให้นำไปประชาสัมพันธ์ให้ทราบเป็นการทั่วไปก่อนนำไปประกาศใช้ โดยในกรณีที่มีนักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ ให้เป็นไปตามความประสงค์ของนักเรียนผู้นั้นที่จะสวมชุดนักเรียน ชุดพละ หรือชุดอื่นใดที่โรงเรียนกำหนดให้มีไว้อยู่แล้ว แต่ห้ามไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะที่จะกระทบต่อสิทธิสรีภาพทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งให้คำนึงถึงอัตลักษณ์ ความหลากหลายความเชื่อทางศาสนา และเพศวีถีของนักเรียน