In Bangkok

ผู้ว่าฯสัญจรเขตดุสิตเน้นย้ำ16เรื่องสำคัญ พร้อมลุยงานปีที่2ให้คนกรุงได้ประโยชน์



กรุงเทพฯ-(1ก.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรม "ผู้ว่าฯ สัญจร เขตดุสิต" โดยกิจกรรมช่วงเช้า คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมปลูกต้นไม้ ได้แก่ ต้นมะขาม ต้นทองอุไร เพื่อเป็นร่มเงาให้ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ณ ถนนพระราม 5 หน้าโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งข้อมูลการปลูกต้นไม้ตามนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวและเป็นกำแพงกรองฝุ่น จากเว็บไซต์ tree.bangkok.go.th พบว่าเขตดุสิตได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 10,885 ต้น เป็นไม้ยืนต้น จำนวน 1,000 ต้น  ในขณะที่ภาพรวมการปลูกต้นไม้ทั้งกรุงเทพมหานคร มีการปลูกต้นไม้ไปแล้วจำนวน 477,988 ต้น (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2566)

จากนั้นคณะ เดินทางถึงสำนักงานเขตดุสิต เพื่อร่วมประชุมในกิจกรรมผู้ว่าฯสัญจร ซึ่งในที่ประชุม ผู้อำนวยการเขตดุสิตได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินการตามนโยบายผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผลการดำเนินการ Application Traffy Fondue ณ ห้องประชุมเสมอใจ ชั้น 4 อาคารราชวัตร สำนักงานเขตดุสิต

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า เขตดุสิตเป็นเขตที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ประมาณ 10.66 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 78,090 คน ในเรื่องของ Traffy Fondue เขตดุสิตทำได้ค่อนข้างดี ประชาชนค่อนข้างพอใจกับผลงาน โดยเห็นได้จาก rating ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกทม. วันนี้จึงถือว่าเป็นการมาเน้นย้ำการเข้าปีที่ 2 โดยต้องคิดว่าอีก 1 ปีต่อจากนี้จะมีผลงานอะไรให้ประชาชนเห็น ซึ่งมีเรื่องที่เขตต้องเน้น 16 เรื่อง ได้แก่ ถนนสวย ปลูกต้นไม้ ทางเดินเท้า ไฟแสงสว่าง ไฟริมคลอง ลานกีฬา สวน 15 นาที Hawker Center หาบเร่-แผงลอย จุดเสี่ยงน้ำท่วม จุดฝืดรถติด จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย ปรับปรุงมาตรฐานการให้บริการเพื่อลดระยะเวลาการให้บริการลง งบประมาณซึ่งลงไปที่ชุมชน 200,000 บาท ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ผังชุมชนขึ้น BKK Risk Map เพื่อให้ทราบว่ากลุ่มเปราะบางอยู่ที่ไหน ถังดับเพลิงอยู่ที่ไหน ประปาหัวแดงอยู่ที่ไหน และเรื่องสุดท้ายคือการพัฒนาโครงการตามหลักประกันสุขภาพ ซึ่งทั้ง 16 เรื่อง ทุกเขตจะต้องเร่งดำเนินการเขียนเป้าหมายที่ชัดเจนมาภายใน 2 อาทิตย์ และภายในปีนี้จะต้องดำเนินการให้ครบตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ส่วน 2 เรื่อง ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว คือ 1. การจัดเก็บถังดับเพลิงในชุมชน โดยให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลงไปเก็บถังดับเพลิงที่เสื่อมสภาพออกมา สำหรับเขตดุสิต มีชุมชนทั้งสิ้น 43 ชุมชน จัดเก็บมาแล้ว 483 ถัง ซึ่งมีทั้งถังของกทม.และถังที่ได้รับบริจาคมา คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเก็บครบทั้งหมด จากนั้นจะมีถังใหม่ที่สั่งมาเพิ่มประมาณ 10,000 ถัง ลงมาทดแทนให้ ซึ่งต่อไปถังดับเพลิงทั้งหมดจะถูกบันทึกลงในระบบดิจิทัล ว่าตำแหน่งอยู่ที่ไหน มีการบำรุงรักษาอย่างไร ทั้งนี้ การจัดเก็บถังดับเพลิงเสื่อมสภาพออก เป็นเรื่องสืบเนื่องจากกรณีอุบัติเหตุที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทำงานเชิงรุก คิดถึงความเสี่ยงต่าง ๆ โดยไม่ต้องรอให้มีเหตุเกิดขึ้น เช่น ถังออกซิเจน ได้มีการตรวจหรือไม่ เพราะเป็นถังที่มีแรงดันสูงมากกว่าถังดับเพลิงที่บรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่า ได้ให้รองผู้ว่าฯ ทวิดา ติดตามกำกับใกล้ชิดในเชิงรุก ในส่วนของถังดับเพลิงที่อยู่ตามชุมชน ตอนนี้สถานการณ์ไม่น่ากังวลใจ เนื่องจากเป็นถังที่ไม่ได้มีแรงดันสูงมาก

2. เรื่องการแต่งกายของนักเรียน ที่เราให้แต่งไปรเวทได้ 1 วัน และไม่บังคับทรงผม คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ จากที่ได้คุยกับโรงเรียน ได้มีการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว โดยอาจารย์กับสภานักเรียนซึ่งเป็นตัวแทนที่นักเรียนเลือกขึ้นมาได้มีการหารือกันว่า เด็กมีความคิดเห็นอย่างไร การแต่งกายเหมาะสม/ไม่เหมาะสมในความคิดของเด็กเป็นอย่างไร เช่นที่โรงเรียนนาหลวง นักเรียนได้คุยกันเองว่าการแต่งกายบางประเภท เช่น สายเดี่ยว กางเกงยีนส์ที่มีรอยขาด ไม่เหมาะสมในการแต่งมาโรงเรียน อาจารย์ไม่ได้เป็นคนบอกแต่เด็กตกลงกันเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจ การให้เด็กหาข้อยุติร่วมกัน อาจจะมีเด็กบางคนที่เห็นต่าง แต่เมื่อมีการคุยกันเองแล้ว และส่วนใหญ่เห็นว่าแบบนี้ดี เสียงส่วนน้อยเขาก็ยอมรับ เมื่อได้ข้อตกลงร่วมกันลำดับต่อไปก็ให้ผู้ปกครองรับรู้ 

"เชื่อว่าเด็กเขาก็มีความคิด มีความเคารพในสถานที่ มีการคุยการแลกเปลี่ยนกัน มีวิจารณญาณ นี่เป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นบทเรียนที่ดี ที่ทำให้เห็นว่าการให้เด็กได้คุยกันเอง บางครั้งง่ายกว่าที่เราไปกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ การที่เด็กได้ฝึกการใช้ความคิด การถกกัน จะเป็นก้าวสำคัญที่ต่อไปจะทำให้เกิดการถกแถลงในเรื่องอื่นนอกเหนือจากเรื่องเครื่องแต่งกาย เช่น เรื่องเรียน ปัญหาสังคมต่าง ๆ  การแก้ปัญหาในกรุงเทพมหานคร เพื่อหาข้อยุติ ซึ่งจะนำไปสู่การเคารพในมติเสียงส่วนใหญ่ เป็นบทเรียนที่มีค่ายิ่งกว่าแค่เรื่องการใส่ชุดไปรเวทมาโรงเรียน ได้เน้นย้ำไปว่าเราต้องเคารพเด็ก อย่าเอาความคิดเราไปยัดเยียดให้เด็ก เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ ในการอยู่ร่วมกัน และเคารพในความเห็นที่แตกต่าง หลังจากนี้คงต้องมีการทบทวนและประเมินผลการดำเนินการต่อไป" ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

*การจัดระเบียบตลาดโบ๊เบ๊

ขณะนี้เรามีนโยบายจะปรับปรุงรอบเกาะรัตนโกสินทร์ คลองผดุงกรุงเกษม คลองโอ่งอ่าง คลองบางลำพู คลองคูเมืองเดิม คลองหลอดวัดราชบพิธ คลองหลอดวัดราชนัดดา ในส่วนของคลองผดุงกรุงเกษมเมื่อมีการปรับปรุงแล้วก็เป็นการยากที่จะอนุญาตให้เข้าไปค้าขาย ดังนั้นก็ขอความเข้าใจในส่วนนี้ ซึ่งก็จะมีพูดคุยจัดหาพื้นที่ค้าขายอื่นต่อไป เนื่องจากคลองผดุงกรุงเกษมจะใช้พื้นที่จัดกิจกรรมฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่หวังให้เป็นระดับโลก หากทำสำเร็จก็จะเป็นพื้นที่ที่น่าดึงดูดผู้คนเข้ามาได้มาก และมีการขยายผลต่อไปในพื้นที่ต่างๆ เช่น เยาวราช สำเพ็ง พาหุรัด คลองถม เป็นต้น 

สำหรับเรื่องผับลับ เปิดร้านอาหารบังหน้า เขตปทุมวัน นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า ทางสำนักงานเขตปทุมวันทำงานร่วมกับสน.ปทุมวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการปกครอง พิจารณาแล้วพบว่าอาจเข้าข่ายผิดพรบ.สถานประกอบการประเภทที่มีร้านอาหารและจำหน่ายแอลกอฮอล์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนดำเนินการพิจารณาสั่งปิดต่อไป

*ร่วมรับประทานอาหารเมนูอร่อยประจำถิ่น สร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรเขต 

หลังการประชุม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับบุคลากรสำนักงานเขต 5 ท่าน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญในกิจกรรมผู้ว่าฯสัญจร เพื่อเปิดโอกาสให้บุคลากร เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแจ้งปัญหาอุปสรรคกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยตรง อย่างใกล้ชิด โดยบุคลากรของสำนักงานเขตดุสิตที่ร่วมรับประทานอาหารกลางวันวันนี้ ประกอบด้วย 
1.นายชวาลา  บุญมี     ลูกจ้างประจำ     ตำแหน่งพนักงานทั่วไป (ระบายน้ำ) 
2.นางสาวลำเลียง  เขตสถาน     ลูกจ้างชั่วคราว     ตำแหน่งพนักงานทั่วไป (กวาด)
3.นางรัชนีย์  เพิ่มพูล     ลูกจ้างประจำ     ตำแหน่งพนักงานทั่วไป (กวาด) 
4.นายปาจิตย์  จันที     ลูกจ้างประจำ     ตำแหน่งพนักงานทั่วไป (เก็บขนมูลฝอย) 
5.นางสาวสายพิณ  สงเคราะห์ธรรม     ลูกจ้างประจำ     ตำแหน่งพนักงานสวนสาธารณะ 

เมนูอาหารกลางวันวันนี้ ได้แก่ ข้าวเหนียวหมู เนื้อ ส้มตำ ลาบ ก๋วยเตี๋ยวไก่ น้ำผลไม้ ผลไม้สด ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่มาจากร้านอาหารขึ้นชื่อในพื้นที่เขต และเป็นอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ มีประโยชน์ต่อร่างกาย

ช่วงบ่าย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ ดังนี้
จุดที่ 1 ริมทางรถไฟ ถนนสวรรคโลก (ตรงสถานีรถไฟจิตรลดา) เพื่อตรวจพื้นที่การสร้างสวน 15 นาที
จุดที่ 2 ย่านพหุวัฒนธรรม เยี่ยมชมย่านสามเสน บ้านเขมร บ้านญวน และชุมชนชาวคริสต์ โบสถ์คอนเซ็ปชัญ และตรวจจุดเสี่ยงแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา
จุดที่ 3 ชุมชนท่าน้ำสามเสน ตรวจพื้นที่จุดสร้างท่าเรือด่วน เยี่ยมชมบ้านหนังสือและพื้นที่จัดกิจกรรมถนนคนเดิน
จุดที่ 4 ถนนทหาร ตรวจพื้นที่การสร้างสวน 15 นาที
จุดที่ 5 ย่านชุมชนวัดประชาระบือธรรม และชุมชนพระยาประสิทธิ์ ตรวจพื้นที่เรื่องถนนคร่อมคลองในชุมชนวัดประชาระบือธรรม 2 และชุมชนวัดประชาระบือธรรม 3 พร้อมเยี่ยมชมต้นแบบการคัดแยกขยะและศูนย์ดิจิตอลชุมชนของชุมชนพระยาประสิทธ์
จุดที่ 6 โรงเรียนวัดจันทรสโมสร เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมของโรงเรียน

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจร ครั้งนี้ ประกอบด้วย คณะผู้บริหารกทม. นายศิริพงษ์ ลิมปีชัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตดุสิต หัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสถานีตำรวจท้องที่ หน่วยงานสาธารณูปโภค  และผู้แทนสถานีดับเพลิงดุสิตและสามเสน
——-