In News

รัฐฯเร่งรื้อสิ่งกีดขวางทางน้ำ'แม่น้ำท่าจีน' เปิดทางระบายน้ำรับฝนตกหนักช่วงส.ค.นี้



กรุงเทพฯ-รัฐบาลเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ เร่งสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำท่าจีน รับมือฝนตกหนักช่วงฤดูฝนเดือนสิงหาคมนี้ เดินหน้าการขับเคลื่อนมาตรการที่ 7 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ ตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ในพื้นที่แม่น้ำท่าจีน

วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลติดตามการขับเคลื่อนมาตรการที่ 7 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ ตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ในพื้นที่แม่น้ำท่าจีน ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า และกรมชลประทาน เดินหน้าขับเคลื่อนอย่างจริงจังตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอ เรียบร้อยแล้ว

นางสาวรัชดาฯ กล่าวย้ำถึงมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง กอนช. ได้ติดตามฝนคาดการณ์ระบบ ONEMAP พบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 นี้ จะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น และได้ออกประกาศ กอนช. ฉบับที่ 9/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 15-20 ก.ค.นี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือสถานการณ์ดังกล่าวให้เป็นไปตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 และนโยบายรัฐบาล กอนช. จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาเ พื่อติดตามการขับเคลื่อนมาตรการรับมือฤดูฝนในมาตรการที่ 7 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ โดยการลงเรือและบินโดรนสำรวจวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณแม่น้ำท่าจีน โดยเฉพาะผักตบชวาซึ่งเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำในช่วงที่เกิดน้ำหลาก โดยเป็นการชี้เป้าจุดพื้นที่ที่มีวัชพืชสะสม ทั้งในแม่น้ำสายหลักและจุดเชื่อมโยงกับแม่น้ำสายรองด้วย เพื่อนำไปสู่การวางแผนการกำจัดวัชพืชและบริหารจัดการเชิงพื้นที่ได้อย่างตรงจุด ป้องกันปัญหาวัชพืชกีดขวางการระบายของน้ำและบรรเทาปัญหาน้ำล้นตลิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

“สำหรับความก้าวหน้าผลการกำจัดผักตบชวาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร กรมประมง กรมโยธาธิการและผังเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้อมูล กอนช. ระบุว่า ปัจจุบันสามารถกำจัดผักตบชวาไปแล้วปริมาณสะสมรวมกว่า 6 ล้านตัน รวมทั้ง รัฐบาลยังได้กำชับ สทนช. และ กอนช. ให้บูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมทุกด้านรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น ทั้งการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด การดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ เร่งสำรวจความแข็งแรงของทำนบและพนังกั้นน้ำ เตรียมบุคลากรและเครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อม เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนเน้นย้ำให้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด” นางสาวรัชดาฯ กล่าว

กอนช. ลงเรือสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำในแม่น้ำท่าจีน รับมือฝนตกหนัก ส.ค.นี้

ก่อนหน้านี้ นายบุญสม ชลพิทักษ์วงศ์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนมาตรการที่ 7 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ ตาม 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 ในพื้นที่แม่น้ำท่าจีน ณ วัดโพธิ์ราษฎร์ศรัทธาทำ ต.ไทรงาม อ.บางเลน จ.นครปฐม ร่วมกับหน่วยงานภายใต้ กอนช. ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า และกรมชลประทาน โดยเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 66 มีมติเห็นชอบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 66 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฏหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่ถูกต้องอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งนี้ กอนช. ได้ติดตามฝนคาดการณ์ระบบ ONEMAP พบว่า ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ จะมีปริมาณฝนตกเพิ่มมากขึ้น และได้ออกประกาศ กอนช. ฉบับที่ 9/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วงวันที่ 15-20 ก.ค.นี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว การลงพื้นที่ในวันนี้ จึงเป็นการติดตามการขับเคลื่อนมาตรการรับมือฤดูฝนในมาตรการที่ 7 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ โดยได้ลงเรือและบินโดรนสำรวจวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำบริเวณแม่น้ำท่าจีน โดยเฉพาะผักตบชวาที่มักจะแพร่ขยายพันธุ์และกระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งในการระบายน้ำในช่วงที่เกิดน้ำหลาก จึงเป็นการชี้เป้าจุดพื้นที่ที่มีวัชพืชสะสม ทั้งในแม่น้ำสายหลักและจุดเชื่อมโยงกับแม่น้ำสายรองด้วย เพื่อนำไปสู่การวางแผนการกำจัดวัชพืชและบริหารจัดการเชิงพื้นที่ได้อย่างตรงจุด ป้องกันปัญหาวัชพืชกีดขวางการระบายของน้ำและบรรเทาปัญหาน้ำล้นตลิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

​รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความก้าวหน้าผลการกำจัดผักตบชวาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร กรมประมง กรมโยธาธิการและผังเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจุบันสามารถกำจัดผักตบชวาไปแล้วปริมาณสะสมรวมกว่า 6 ล้านตัน ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานภายใต้ กอนช. บูรณาการความร่วมมือในการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ เร่งสำรวจความแข็งแรงของทำนบและผนังกั้นน้ำ เตรียมบุคลากรและเครื่องจักรเครื่องมือให้พร้อม เพื่อให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด โดย กอนช. เตรียมระดมกิจกรรม Big Cleaning Day ในเร็วๆนี้ เพื่อเป็นการสร้างการตระหนักรู้ให้กับประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ลดปัญหาการสะสมและการแพร่พันธุ์ของผักตบชวา รวมทั้งเป็นการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมด้วย.