Think In Truth

'พิธา' วืดนายกรัฐมนตรีรอบแรก....แล้วไง โดย :  หมาเห่าการเมือง



การลงมติในการทำประชามติรับรัฐธรรมนูญ 2560 นั้น ประชาชนโดนหลอกในรูปแบบประชาธิปไตยให้ออกมาลงมติเพื่อยอมรับรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วยความเบื่อหน่ายต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศ และอยากให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้ง เพราะไม่อยากอยู่ในสภาวะประเทศถูกปกครองด้วยเผด็จการอยู่อย่างนั้น ทั้งที่เนื้อหาในรัฐธรรมนูญได้เปิดให้ ส.ว.ที่ไม่ได้มีที่มาจากประชาชน เข้ามาร่วมลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ผลพวงของรัฐธรรมนูญที่เขียนกติกาทางสังคมที่บิดเบี้ยว ส่งผลถึงการดำเนินการทางการเมืองระบอบประชาธิปไตย จนถึงปัจจุบัน

ผลการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา เกิดการช็อควงการเมืองไทย ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมวางแผนในการสอยพรรคเพื่อไทยไว้เต็มคาราเบล ด้วยสมมติฐานที่เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงจากการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ตามแคมเปญในการหาเสียงของพรรค โดยไม่ได้เตรียมรับมือพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยพรรคอื่นเลย แต่ผลกลับกลายเป็นพรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ได้รับการเลือกตั้งมากที่สุด และกลายเป็นแกนนำในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค

การกระชุมสภาสมัยสามัญครั้งที่ 2 ซึ่งมีการลงมติรับรองนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยก่อนที่จะถึงวันลงมติ มีฝ่ายตรงข้ามโดยเฉพาะพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม และกลุ่มนักร้องได้ร้องคุณสมบัติของนายพิธา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถือหุ้นสื่อ ไอทีวี และการเลี่ยงภาษีในการถือครองที่ดิน อีกทั้ง กกต.ได้นำเรื่องการสอบคุณสมบัตินายพิธาขากคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากถือหุ้นสื่อไอทีวี ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ก่อนหน้าไม่มีท่าทีที่จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างได เพียงเพื่อสร้างความไม่มั่นใจให้กับ ส.ว. ที่ยึดหลักการแนวทางประชาธิปไตย ไม่ลงมติให้กับนายพิธา  แต่ทีมงานนายพิธาก็พยายามประครองจนทำให้นายพิธาได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาได้ลงมติรับรอง โดยก่อนที่จะมีการลงมติให้มีการเสนอวิสัยทัศน์เพื่อสร้างความมั่นใจในการลงมติรับรองเป็นนายกรัฐมนตรี

ในช่วงการอภิปรายคุณสมบัติของนายพิธา ทั้ง ส.ว. และส.ส. ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้หยิบยกเอาการนำนโยบาย แก้ ม. 112 ไปดำเนินการหาเสียง และโยงไปถึงการล้มล้างสถาบัน อีกทั้งมีการร็อบบี้ ส.ว. ที่ประกาาศตนเองว่าจะยืนตามหลักการรัฐธรรมนูญ ที่พรรคการเมืองที่มี ส.ส. มากที่สุด ควรจะได้รับการรับรองให้เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งให้รางวัลและตำแหน่ง หลังหมดวาระ ถ้ายังลงมติให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี จะถูกตรวจสอบทรัพย์สิน และการตรวจสอบในอีกหลายเรื่อง สรุปตามข้อมูลที่ได้รับจากวงในได้ว่า .ว.ที่ถูกร็อบบี้ ทั้งขู่ ทั้งปลอบ ซึ่งยังสอดคล้องกับข้อมูลจากห้องลับ ส.ว. ที่หลุดออกมาว่อนตามโลกออนไลน์

ผลการลงมติรับรองให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ตกไป คือ รับรองให้นายพธิเป็นนายกฯ เพียง 324 เสียง ซึ่งไม่ถึง 375 ที่จะรับรองให้นายพิธาเป็นนายกได้ หลังจากที่นายพิธาวืดในการรับรองให้เป็นนายยกรัฐมนตรีในรอบแรก นายพิธาเองก็ออกมาแถลงว่า “การไม่ผ่านในการลงมติรับรองให้เป็นายกรัฐมนตรี “ยอมรับในผลของการลงมติ แต่จะไม่ยอมแพ้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ทันทีที่ประชาชนรับทราบมติในการรับรองนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ถึง 375 เสียง ทำให้นายพิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฏการณ์กร่นด่า กลุ่ม ส.ว. ที่ไม่รับรอง กลุ่ม ส.ว. ที่ไม่ลงมติ และกลุ่ม ส.ว. ที่ไม่เข้าประชุม ดังกระหึ่มทั่วประเทศ ผ่านโซเชียลมีเดียร์ในทุกแพลตฟอร์ม รวมทั้งมีการชุมนุมปราศัยนอกสภากร่นด่า ทั้ง ส.ส.ฝ่ายอนุรักษ์นิยม และ ส.ว. ที่ทรยศต่อเสียงของประชาชน รวมไปจนถึงกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการทำให้นายพิธาไม่ได้รับการรับรองให้เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้

สถานการณ์ของการแสดงออกถึงความไม่พอใจของประชาชน ไม่ว่าจะมีการสื่อสารผ่านโซเชียลมิเดียร์ด้วยข้อความ #ส.ว.มีไว้ทำไม กระจายพรืบทั่วทั้งโลกโซเชียล ลุกลามไปจนถึงการสร้างกระบวนการธรุกิจร่วมปฏิเสธการให้บริการ ส.ว. และครอบครัว รวมไปถึงการชี้เป้าธุรกิจ ส.ว. ให้ประชาชนพากันแบนธุรกิจดังกล่าว ล่าสุดก็มีการขุดเรื่องเมียน้อยของ ส.ว. ด้วย รวมไปจนถึงการเผยแพร่เรื่องการขุดผ่านระบบโซเชียลเน็ตเวิร์คออกไปอย่างกว้างขวาง และสื่อสารเพื่อส่งเสริมการขุดพฤติกรรมการมีเมียน้อยของ ส.ว. ด้วยข้อความ #เมียน้อย สว. ปฏิบัติการประหนึ่งกำลังเข้าขั้น  ล่าแม่มด  กระจายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตของ ส.ว. ผู้ที่คัดค้านเสียงประชาชนเป็นอย่างมาก

การต่อสุ้ในระบบสภาของพรรคก้าวไกล ก็ได้ยื่นเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อปิดสวิชต์ ส.ว. ซึ่งนี่ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ ส.ส. ฝ่ายประชาธิปไตยพยายามที่จะต่อสู้กับระบบเผด็จการที่แอบซุกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย ซึ่งแม้นจะใช้เวลาในการแก้ไข แต่ก็เป็นการเปิดทางที่จะทำให้เสียงของประชาชนมีความสำคัญต่อทิศทางของรัฐสภา ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ประมาณ 4 สัปดาห์

ผลจากการประชุมหารือระหว่างพรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ซึ่งทางพรรคก้าวไกลได้แถลงก่อนหน้านี้แล้วว่าจะยอมถอยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยที่พรรคก้าวไกลจะลงมติให้การสนับสนุนให้แคนดิเดทของพรรคขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ผลการประชุมก็ออกมาว่า ทางพรรคเพื่อไทยจะยังคงสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายก จนสุดทาง ซึ่งก็มองได้สองทาง คือ พรรคเพื่อไทยเป็นสภาพบุรุษทางการเมืองที่เคารพต่อกติกาประชาธิปไตยและเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน  และอีกมุมหนึ่งคือพรรคเพื่อไทยก็รู้ตัวอยู่แล้วว่า เป็นพรรคที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมวางแผนสกัดกั้นมาตั้งแต่แรก ถ้าพรรคเพื่อไทยรับในการเสนอแคนดิเดทเป็นนายก แผนการของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ถูกวางแผนไว่ก่อนหน้านี้แล้ว แผนที่ถูกวางไว้ก่อนหน้านี้จะพุ่งเป้าไปสู่พรรคเพื่อไทยในทันที และการถล่มพรรคเพื่อในครั้งนี้ จะไม่ผิดเป้าหมายเลย โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทยมีกลุ่มทหารราดตะเวณไกลแฝงตัวอยู่หลายคน นี่คือการตัดสินใจที่แหลมคมของพรรคเพื่อไทย ที่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยนั้นกลัวภาพเสือที่ถูกเขียนขึ้นมาคอยหลอกหลอนให้กลัว และยังมีภาพติดตาที่มีเลือดอาบถนนกลางเมือง ที่ยังไม่สามารถเยียวยาของญาติผู้ที่เสียสละเหล่านั้นได้ และเพื่อไทยเองก็รู้ว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้กลัวต่อภาพลวงตาเหล่านั้น เพราะเขารู้ว่าภาพลวงตาเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิกขนาดใหญ่จากทุนขนาดใหญ่มาหศาล(อ้างอิงจากใบตองแห้ง , บรรยง พงษ์พานิช , Tom Krues) ที่อยู่เบื้องหลังของฝ่ายการเมืองอำนาจนิยมของพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยม รวมถึง ส.ว. ข้าราชการและธุรกิจการเมืองร่วมมือกันสร้างภาพนั้นขึ้นมา

การที่นายพิธาออกมาแถลงว่าจะขอสู้ในการขอรับการลงมติรับรองการเป็นนายกรัฐมนตรี ตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยอีกสองครั้ง ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่สุดปลายทาง และจะขอถอยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และพรรคก้าวไกลจะให้การสนับสนุนยกมือลงมติให้พรรคเพื่อไทยได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะอยู่ในสถานะไดก็ตาม การแถลงการของนายพิธาครั้งนี้ ถือว่าเท่ห์มาก สร้างความประทับใจไว้ก่อนแม้อาจจะยอมเสียสละไปเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน

เกมการเมือง มาถึงตอนนี้ก็ชักเริ่มสนุก ไม่เครียดเหมือนตอนลุ้นการลงมตินายกรัฐมนตรีแล้วใช่ไหม??..หละ  แต่ประเด็นนี้มีรายละเอียดมาก เนื้อหาเยอะ จึงขอตัดตอนออกเป็นตอนๆ เพื่อให้ได้ติดตามกันเป็นระยะ และเข้าใจสถานการณ์ให้มากขึ้น การลงเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง จะเป็นอย่างไร มีปัจจัยไหนบ้างที่เราจะนำมาวิเคราะห์ ขอให้ท่านได้ติดตามตอนต่อไป ว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขวัญใจด้อมส้ม ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตามความคาดหวังของคนไทยหรือไม่  ติดตามตอนต่อไป วันพรุ่งนี้นะครับ

ขอบคุณภาพจาก : ก้าวไกลแฟนเพจ