Authority & Harm
'กรมราชทัณฑ์'ได้จัดชิงถ้วยพระราชทาน ประกวดสวดมนต์หมู่ทํานองสรภัญญะ

กรุงเทพฯ-วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2566เวลา 08.30 นาฬิกา นายชาญ วชิรเดชรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฝ่ายพัฒนา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ วัดเสมียนนารี พระอารามหลวง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ โดยกองพัฒนาพฤตินิสัย ได้จัดโครงการประกวดสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตรัยทํานองสรภัญญะ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 สืบเนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2562สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “ห้องสมุดพร้อมปัญญา”ณเรือนจำกลางนครพนมและได้ทอดพระเนตรกิจกรรมการพัฒนาจิตใจผู้ต้องขังด้วยหลักศาสนาโดยมีผู้แทนผู้ต้องขังสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะเฉลิมพระเกียรติฯทรงชื่นชมและได้มีพระกระแสกับผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ให้ส่งเสริมผู้ต้องขังในการฝึกซ้อมพัฒนาและส่งเข้าประกวดเพื่อแข่งขันกับบุคคลภายนอกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ต้องขังได้แสดงออกถึงความรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเห็นความสําคัญของการสวดมนต์สรรเสริญพระรัตนตรัยอันเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม เสริมสร้างให้ผู้ต้องขังมีสมาธิ มีความอดทนเบิกบานใจ สงบและเป็นสุข ตระหนักและเห็นคุณค่าความสําคัญในตนเองทั้งนี้ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กรมราชทัณฑ์กําหนดให้เรือนจํา/ทัณฑสถานจํานวน 132 แห่ง ดําเนินการฝึกซ้อมผู้ต้องขังประเภททีมหมู่ผู้ต้องขังชาย และประเภททีมหมู่ผู้ต้องขังหญิงทีมละ 5 คน แข่งขันคัดเลือกในระดับเขตจากเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ โดยนําทีมชนะเลิศจากตัวแทนจากแต่ละเขต ประเภทชาย จํานวน10 ทีม และประเภทหญิง จํานวน10 ทีม เข้าร่วมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจากพระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี พระอารามหลวง พร้อมด้วยพระกิตติวงศ์วิเทศผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม และพระคุณเจ้าจากวัดจันทาราม วัดอนงคาราม วัดเวฬุราชิณ และวัดศรีประวัติ ร่วมเป็นกรรมการตัดสินฝ่ายสงฆ์
นายชาญ ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าการแข่งขันสวดมนต์ดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสผู้ต้องขังได้แสดงศักยภาพให้สังคมภายนอกได้รับทราบ ตลอดจนเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ สนับสนุนให้พวกเขาเหล่านี้กลับสู่สังคมได้อย่างมีปกติสุข และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก โดยกรมราชทัณฑ์ได้นำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนากล่อมเกลาจิตใจประพฤติปฏิบัติขัดเกลาผู้ต้องขังให้มีจิตใจอ่อนโยน มีสมาธิเยือกเย็น มีความประพฤติดี มีความอดทน มีความรักสามัคคีและเป็นคนดีของสังคม ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก