In Thailand

ฝนกล่ม!นครปฐมทำกลางเมืองจมบาดาล การจราจรอลหม่านชาวบ้านหวั่นพายุมีอีก



นครปฐม -ฝนถล่มตัวเมืองนครปฐม 1 ชั่วโมง ส่งผลโดยรอบพื้นที่ใกล้เคียงองค์พระปฐม จมบาลดาลตั่่งแต่ช่วงเย็น ช่วงมืดยังมีรถเสีย หลายคัน รถตู้โดยสารต้องเปลี่ยนรถส่งผู้โดยสารต่อ และมีการแจ้งข่าว ชาวบ้านหวั่นหากพายุยาวจมทั่วเมืองอีกแน่ 

วันนี้ 23 ก.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกการที่กรมอุตนิยมวิทยา ได้มีการประกาศแจ้งเตือนมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม ว่า 24 ชั่วโมงข้างหน้าประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันออก 

กระทั่งเมื่อเวลา 18:00 น.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนฟ้าตกลงมาอย่างหนัก หลายพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองนครปฐม ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังโดยรอบในเขตเทศบาลนครนครปฐม มีน้ำรอการระบายบริเวณผิวการจราจรและบาแห่งเข้าท่วมถึงบ้านเรือนหลายแห่ง ซึ่งมีผู้ใช้สื่อโซเชียลข่าวสารนครปฐม ได้มีการโพสต์สอบถามถึงพื้นที่น้ำท่วมในจุดต่างๆ ว่ามีพื้นที่ใดบ้าง จากนั้นได้มีมีนำภาพจุดต่างๆ ที่มีน้ำท่วมขังมาแชร์ ตั้งแต่ช่วงเย็นที่มีฝนตกลงมา 

โดยจากนั้นช่วงหัวค่ำถึงราว 22.00 น. ปรากฏว่ายังมีน้ำท่วมขังหลายแห่ง โดยที่หน้าโรงพยาบาลนครปฐม ถนนเทศา มีน้ำท่วมภายในโรงพยบาลมาถึงผิวการาจราจร และที่ถนนขวาพระ หน้า สภ.เมืองนครปฐม ตรงข้าง พระศิลาขาว มีน้ำท่วงสูราว 30 เซ็นติเมตร ถนนราวิถี รถตู้ประจำทางต้อจิดเพื่อเปลี่ยนถ่ายผู้โดสารทุลักทุเล เนื่องจากรถเสียไม่สามารถขับไปต่อได้ และยังมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคัน ต้องจอดเสียอยู่กลางน้ำ สภาพวุ่นวาย 

ขณะที่บริเวณ บริเวณถนนหลังพระ ติดรั้วองค์พระปฐมเจดีย์ มีน้ำท่วมขังเช่นกันรถเล้กบางคันสัญตรไม่ได้ ต้องจิดเข็นหลบริมถนน ส่วนที่ถนน 25 มกรา มีน้ำท่มขังสูงราว 30 เซ็นติเมตร ยาวกว่า 150 เมตร รถที่จะเดินทาเข้าจากอำเภอดอนตูม เข้าตัวเมือเป็นไปได้ยากลำบาก และยังมีการแจ้งพื้นที่น้ำท่วมขัอกหลายแห่งทั้งถนนเทศาซอย 7 ตำบลลพยา และที่ถนนเพชรเกษมหน้าห้าเทสโก้ โลตัส สาขานครปฐม และภัตตาคารฌกเท้ เป็นต้น 

ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าว ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่ววมครั้งนี้ ได้เตรียมรับังคำพยากรณ์อากาศและหาข้อมูลจากเว๊บไซด์และแอพลิเคชั่นที่สามารถตรวจสอบดาวเทียมจับมฆฝนได้อยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะหวั่นหากมีฝนตกลงมาในพื้นที่ นานกว่านี้ อาจส่งผลให้น้ำท่วมขังเข้าสู่บ้านเรือนสร้างความเสียหายและใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากกว่านี้ โดยหลายคนบอกว่าทนกับสภาพนี้มานับ 10 ปี แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้สักที