Think In Truth
'เศรษฐา'แค่เชื้อข่าว...นวดพรรคก้าวไกล โดย : หมาเห่าการเมือง
กำหนดประชุมโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีรอบ2 ในวันที่ 4 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ เป็นวันที่รอคอยของฝ่ายสาวกคนเสื้อแดงรอคอยที่จะเตรียมเฮ เมื่อนายกรัฐมนตรีจะตกเป็นของพรรคเพื่อไทย เมื่อผ่านการรับรองจากสภา ซึ่งความคาดหวังคือ ต้องการให้พรรคก้าวไกล โหวตให้แต่ก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน
เอ...ฟังดูมันก็แปลกๆ นะ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างก้าวไกลกับเพื่อไทย ดูแล้วไม่ใช่พรรคที่มีความเหนียวแน่น จริงใจต่อกันเสียขนาดนั้น นั่นเท่ากับก้าวไกลจะถูกประชาชนมองว่าขายความตั้งใจของประชาชนที่มอบหมายมาให้ปรับปรุงระบบการปกครองของประเทศให้อยู่ในหลักการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
หากจะย้อนพิจารณาจากเหตุการณ์ต่างๆ จับต้นชนปลายก็จะพบว่า สภาพของการเกิดปัญหาของบ้านเมือง มันเกิดจากความไม่ชัดเจนของผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่พยายามเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการกำกับการเมืองของประเทศไทยอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ดีลกับคนนั้นคนนี้ ด้วยเนื้อหาของการดีลที่แตกต่างกันเพื่อที่จะเป็นข้อมูลให้ตนเองเลือกที่จะใช้ดีลที่จะทำให้ตนเองกลับไทยได้เร็วสุด สะดวกสุด โดยที่ตนเลือกแล้วก้ปล่อยการดีลทั้งหมดให้ค้างคาโดยไม่เคลียร์ให้เข้าใจว่าตนเลือกวิธีใดให้ชัดเจน
แม้แต่ผลที่จะมีต่อการโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ก็เชื่อว่า นายเศรษฐา ก็จะเป็นเพียงเครื่องมือในการสร้างข่าวเพื่อนวดพรรคก้าวไกลเท่านั้น โดยที่ สว. จะไม่โหวตให้กับนายเศรษฐา เช่นเดิม และนายเศรษฐาก็จะพลาดในการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อนายเศรษฐาพลาด กระแสก็จะย้อนกลับมาเล่นงานพรรคก้าวไกล ที่ไม่โหวตช่วย เนื่องจากท่าทีของพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อพรรคก้าวไกลขอใช้ช่วยโหวต แต่ขอให้เป็นฝ่ายค้าน
ทิศทางการเมืองไทยที่เป็นปัญหาขาดความชัดเจน ณ ปัจจุบันส่วนหนึ่งก็มาจากพรรคเพื่อไทยเองที่ยอมให้ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นคนนอก เอาความต้องการอยากกลับประเทศไทยอย่างเห่ห์ เข้ามาเกี่ยวข้องมากจนเกินไป จนอยู่เหนือเหตุผลในการตัดสินใจของ สส. พรรคเพื่อไทย ที่จัดตัดสินใจในบทบาทของความเป็น สส. จนทำให้ความไม่แน่นอนในความร่วมมือในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล ไม่ชัดเจน
หากจะพิจารณาถึงความสัมพันธ์ ของ นายเศรษฐา ทวีสิน กับพรรคเพื่อไทยแล้ว นายเศรษฐาเป็นเพียงเพื่อนของน้องสาวของ ดร.ทักษิณ เท่านั้น และไม่ใช่ลูกหม้อพรรคเพื่อไทยโดยแท้ ไม่ใช่คนที่มาร่วมสร้างร่วมปูพื้นฐานความเชื่อถือให้กับพรรคเลย เพียงแต่มาเพื่อเป็นหน้าเสื่อชั่วคราวให้กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ก่อนเลือกตั้งนายเศรษฐาก็ลุยในการหาเสียงเต็มที่ ด้วยความหวังว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตามกระแสแลนด์สไลด์ของพรรค
เมื่อพรรคก้าวไกลได้คายความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล มาให้กับพรรคเพื่อไทย การเสนอรายชื่อนายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคมที่จะถึงนี้ก็เป็นเพียงปาหี่ เพื่อใช้นายเศรษฐาเป็นเพียงอาวุธย้อนกลับไปเล่นงานก้าวไกล ด้วยประเด็นที่ก้าวไกลไม่โหวตให้นายเศรษฐา การปูกระแสเหน็บแนม และปูข่าวว่าก้าวไกลจะโหวตให้นายเศรษฐาแต่ก้าวไกลพร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน จึงมีมาอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์การในการโหวตเพื่อรับรองนายกรัฐมนตรีก็ยังคงเป็นไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งมีการเสนอชื่อนายอนุทิน หรือพลเอกประวิตรก็ตาม ก้จะไม่ผ่านด่าน สว. จนถึงสุดท้าย หรือก่อนสุดท้ายก็อาจจะมีการใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 5(2) เข้ามาบังคับใช้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า นายกรัฐมนตรีจะเป็นใครก็ได้ที่มาตามประเพณีปฏิบัติ จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
ซึ่งนั่นก็ต้องมาตีความว่า ประเพณีปฏิบัติคืออะไร มีอะไรบ้าง แล้วสภาจะเลือกประเพณีปฏิบัติอย่างไร และจะมีวิธีการสรรหาอย่างไร?...ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กว่าจะได้ข้อสรุป ก็จะเปิดช่องว่างของเวลาที่จะมีอิทธิพลจากฝ่ายอำนาจนิยมเข้าแทรก เพราะการใช้มาตรา 5(2) ของรัฐธรรมนูญ 62 เป็นการปิดช่องทางของการตรวจสอบของประชาชน ว่า นายกรัฐมนตรีที่ได้มานั้น จะเป็นไปตามความต้องการของประชาชนหรือไม่???.....