In Thailand
นอภ.พัฒนานิคมลพบุรีใจงามเข็นรถคนแก่ มาใช้บริการทะเบียนราษฏร์อำเภอ
ลพบุรี-นายอำเภอพัฒนานิคมลพบุรีลงทุนเข็นรถวิลแชร์ให้ผู้สูงอายุมาติดต่องานราชการที่อำเภอ ช่วยอำนวยความสะดวกจนสำเร็จเสร็จสิ้น
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ไปพบนายอำเภอพัฒนานิคม ลพบุรีที่กำลังเข็นวิลแชร์ที่มีผู้สูงอายุนั่งบนรถ ที่แรกนึกว่าเป็นญาติสอบถามนายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอพัฒนานิคมจังหวัดลพบุรี จึงทราบว่า ผู้สูงอายุผู้นี้ เป็นคนชรา ที่เดินทางมาจากต่าง ตำบล โคกสลุงอำเภอพัฒนานิคมจังหวัดลพบุรี เป็นตำบลที่ อยู่ไหน ถิ่นทุรกันดาร เพื่อมาประสานกับ ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ จึงได้เดินเข้ามาสอบถาม ผู้สูงอายุผู้นี้ และอำนวยความสะดวกให้ท่านผู้สูงอายุจนสำเร็จภารกิจของท่าน
นายรัชพล ธุระพันธ์ นายอำเภอพัฒนานิคมกล่าวว่า สำนักทะเบียนอำเภอเป็นศูนย์กลางในการให้บริการกับพี่น้องประชาชนด้านการทะเบียนราษฎร์ ทะเบียนบัตรฯและทะเบียนอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคน สัตว์(โค ช้าง ม้า กระบือ ล่อ ลา) เจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ จึงต้องมีจิตใจที่รุกรบ มุ่งมั่น แน่วแน่ ที่จะแก้ไขให้ปัญหาของพี่น้องประชาชนถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย การให้บริการที่ดีจึงต้องให้เกิดจากความรัก ให้มีความเมตตาให้มีความเป็นกันเอง เอาใจใส่ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้มากที่สุด
วันนี้ ซึ่งเป็นวันเปิดทำการใหม่ๆหลังจากที่มีการหยุดยาวไป 6 วัน ในเทศกาลเข้าพรรษา ผู้คนเดินทางมารับบริการ ณ ที่ว่าการอำเภอพัฒนานิคม จำนวนมากกว่าปกติ
ตัวผมเอง ก่อนขึ้นทำงานบนที่ว่าการอำเภอ ผมจะแวะห้องทะเบียนฯก่อน เพื่อพบปะ สอบถามสารทุกข์สุขดิบ กับพี่น้องประชาชนที่มารับบริการ และจนท.ที่ให้บริการ พลันนั้นสายตาของผมก็มาสะดุดกับผู้มารับบริการคู่หนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากแล้วและพิการ ต้องนั่งรถเข็น มีผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งพามา(เข้าใจไปเองว่าเป็นแม่ลูกกัน) แต่เมื่อสอบถามได้ความว่าเป็นอดีตลูกสะไภ้ของคุณยายที่พามา อยู่บ้านโคกสลุง ม.4 ต.โคกสลุง ยายมีลูกชายคนเดียว คือสามีของอดีตลูกสะไภ้ ปัจจุบันตายแล้ว(ไม่มีลูกด้วยกัน) ลูกสะไภ้ ก็ไปแต่งงานใหม่แล้ว มีลูกใหม่ กับสามีใหม่ 3 คน แต่ด้วยจิตใจที่เมตตา คอยห่วงใย ดูแลเอาใจใส่ จึงให้การช่วยเหลือแม่ของอดีตสามีเรื่อยมา ในส่วนของการอยู่บ้านพักอาศัยก็อยู่บ้านคนละหลังคนละแห่ง โดยแม่ของอดีตสามีอยู่บ้านคนเดียว มีน้องสาวบ้านอยู่ใกล้ๆกันคอยดูแล ส่วนตัวลูกสะไภ้อยู่กับครอบครัวใหม่พร้อมลูก 3 คนอีกที่หนึ่ง มีอาชีพเพียงรับจ้างไปวันๆ
ตอนที่ผมเข็ญรถวีลแช์คุณยายนั้นเป็นช่วงรอเครื่องผลิตบัตร จนท.แจ้งคุณยายว่าบัตรหายต้องเสียค่าปรับ 100 บาทแต่คุณยายไม่มีตังค์ ผมได้ควักเงินจ่ายค่าปรับทำบัตรฯแทนคุณยายด้วยตัวเอง พร้อมมอบยาสมุนไพร สามัญประจำบ้าน ให้อีก 1 แผงรวมทั้ง มอบข้าวสารที่มาจากการนำข้าวสารมาทำเป็นพวงหรีดหน้าศพ "พวงหรีดข้าวสาร" เจ้าภาพนำมามอบไว้ที่อำเภอเป็นสะพานบุญให้ไป 3 ถุง(1ถุงให้คุณยาย/ 2ถุงให้ลูกสะไภ้) เพื่อตอบแทนความดีของเขาที่มีต่อคนอื่น(แม่ของอดีตสามี)โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทนใดๆถือว่าพื้นฐานเป็นคนมีเมตตา น้ำใจงดงาม ซึ่งค่อนข้างหาน้ำใจแบบนี้ในสังคมไทยได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
นาย อำเภอพัฒนาการตอนท้ายอีกว่า การที่เราเป็นฝ่ายปกครองมีโอกาสได้ทำบุญได้ช่วยเหลือคนอื่นๆ ทุกๆวินาที ทุกๆวัน สุดแต่จิตใจแห่งอุดมการณ์จะรับใช้ ประชาชนที่มีอยู่เต็มหัวใจท่านแล้วหรือยัง
ทวีศักดิ์/ลพบุรี