In Global
'วอเตอร์ดรอปอิงค์'ได้รับรองความสามารถ การคุ้มครองข้อมูลการเงินส่วนบุคคล
ปักกิ่ง, 4 ส.ค. 2566-วอเตอร์ดรอป อิงค์ (Waterdrop Inc.) (NYSE: WDH) แพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำด้านประกันภัยและบริการสุขภาพที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ได้รับการรับรองความสามารถในการคุ้มครองข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Information Protection Capability Certification) จากศูนย์รับรองเทคโนโลยีการเงินแห่งชาติ (ปักกิ่ง) โดยวอเตอร์ดรอปถือเป็นหนึ่งในนายหน้าประกันภัยรายแรก ๆ ที่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดเหล่านี้
การรับรองความสามารถในการคุ้มครองข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลเป็นการประเมินการปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยของข้อมูล กฎระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการบริการทางการเงินที่ดูแลการรวบรวม การจัดเก็บ การส่ง และการประมวลผลข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคล ทำให้การรับรองนี้เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการคุ้มครองข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคล
การได้รับการรับรองดังกล่าวเน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของวอเตอร์ดรอปในการสร้างระบบคุ้มครองข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลที่แข็งแกร่งในทุกขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ระบบนี้มีความสามารถในการจำแนกประเภทและการจัดระดับข้อมูล พร้อมด้วยมาตรการคุ้มครองตลอดวงจรชีวิตของข้อมูล การรับรองนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความพยายามของวอเตอร์ดรอปในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวโดยองค์กรอิสระภายนอกเท่านั้น แต่ยังสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพิ่มขึ้นอีกด้วย
วอเตอร์ดรอปมุ่งมั่นคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและยึดมั่นพันธกิจนี้อย่างแน่วแน่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว วอเตอร์ดรอปปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และความปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติอย่างครบถ้วน พร้อมทั้งปฏิบัติตามแนวทางของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อสร้างความมั่นใจว่าทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวม การจัดเก็บ และการใช้ข้อมูลทางการเงินส่วนบุคคลนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัดตามหลักความชอบด้วยกฎหมาย ความเหมาะสม และความจำเป็น
คณะกรรมการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของวอเตอร์ดรอปพัฒนาและปรับปรุงมาตรการการจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของวอเตอร์ดรอป ให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมขอบเขตที่กว้างขวาง ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ถึงระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพิ่มขึ้น ระเบียบปฏิบัติที่ครอบคลุมเหล่านี้ยังช่วยสนับสนุนการคุ้มครองข้อมูลของผู้ใช้ยิ่งขึ้น โดยดูแลขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่การรวบรวม การใช้งาน การจัดเก็บ การจัดการข้อมูลโดยบุคคลที่สาม ไปจนถึงการจัดการสิทธิส่วนบุคคล ความปลอดภัยของระบบเครือข่าย การจัดการเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย และการจัดหาข้อมูลข้ามแดน