Think In Truth
'เพื่อไทย' กลับไม่ได้...ไปต่อ...ก็ไปไม่ถึง โดย : หมาเห่าการเมือง
หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศแยกทางกับพรรคก้าวไกลอย่างเป็นทางการ และมีกระแสงของการต่อต้านแลัแสดงความไม่พอใจของกลุ่มคนเสื้อแดงได้แสดงออกมาถึงความไม่พอใจ เริ่มจากการชุมนุมหน้าพรรคเพื่อไทย ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจที่พรรคเพื่อไทยเหยียบย่ำหัวใจคนเสื้อแดงที่ร่วมต่อสู้ร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ที่มาวันหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็มาผสมพันธุ์กับฝ่ายตรงข้ามโดยไม่แคร์ความรู้สึก เหมือนกับสามีประกาศมีชู้และทอดทิ้ง การแสดงออกของคนเสื้อแดงที่มีการเผาสเสื้อแดงที่เก็บไว้เป็นสัญญลักษณ์แห่งความภูมิใจในการร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และการประกาศแยกทางกับพรรคเพื่อไทยแบบไม่มีเยื่อไย
หลังจากนั้นก็มีความเคลื่อนไหวการประสานความร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาลของรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย แต่ก็มีสัญญาณจากพรรคการเมืองต่างๆ ออกมาเช่น พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีการเคลียร์กันระหว่างพลเอกประยุทธ์กับเสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ที่มีข่าวว่าจะย้ายตัวเองไปซบพรรคภูมิใจไทยเพื่อไปร่วมรัฐบาล ว่าถ้าจะไปก็ต้องก็ต้องไปทั้งพรรค จะแยกไปเพียงแค่กลุ่มเดียวไม่ได้ ซึ่งลเป็นอย่างไรนั้น แหล่งข่าวไม่ได้แจ้งให้ทราบ อีกพรรคหนึ่ง คือ พรรคพลังประชารัฐพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ มีการเคลียร์กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยให้ ร้อยเอกธรรมนัสโทรหาคนของ ดร.ทักษิณ เมื่อคนของ ดร.ทักษิณ รับสาย พลเอกประวิตร ก็พูดกับคนของ ดร. ทักษิณว่า “บอกนายของเองด้วย ถ้าจะให้ไปก็ต้องไปทั้งหมด จะเอาไปแค่กลุ่มธรรมนัสไม่ได้” ซึ่งก็ไม่ทราบผลการเจราอย่างไรนั้น แต่ก็เป็นสัญญาณที่เด่นชัดว่า จะเอาแค่กลุ่มนั้นไม่ได้ ซึ่งส่งผลต่อมูลค่าการต่อรองที่มากตามขนาดของการเข้าร่วมด้วย
อีกทั้งมีสัญญาณแปลกๆ จากทางศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีองค์กรร้องเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำเพิ่ม อีกทั้งการตัดสินจากผลพิจารณาของศษลรัฐะรรมนูญนั้น มีผลสืบเนื่องกับทุกงค์กร นั่นหมายถึงกระทบกับระเบียบการปฏิบัติราชการของน่วยงานของรัฐด้วย เมื่อข้อบังคับของหน่วยงานหรือองค์กรสามารถปฏิบัติโดยขัดต่อนโบายขององค์กรหน่วยเหนือได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการบริหารราชการตามมาภายหลัง จึงเป็นใหญ่และละเอียดอ่อน ซึ่งอาจจะต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียด
และก่อนหน้านี้ก็มีข้อมูลจากหลายคนได้เปิดเผยเกี่ยวกับการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่ใช้นโยบายการแก้ ม.112 ในการหาเสียง มี สว. บางท่านได้ออกมาแสดงความเห็นกับเรื่องนี้ อีกทั้งได้พูดไว้ว่าถ้าพบความจริงว่าพรรคเพื่อไทยใช้นโยบายการแก้กฏหมายรัฐะรรมนูญ ม.112 จริงก็จะไม่โหวตรับรองให้นายเศรษฐา
กระแสข่าวเริ่มมีเสียงสะท้อนว่า เพื่อไทยมีปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล รวมทั้งมีข่าวว่ามีการเลื่อนเวลาการกลับบ้านของ ดร.ทักษิณ กระแสข่าวสองกระแสมันเกี่ยวข้องกับการเคลียร์ปัญหากัยระหว่างพลเอกประยุทธ์กับเสี่ยเฮ้ง พลเอกประวิตรกับร้อยเอกธรรมนัส และสัญสัญญาณจากศาลรัฐธรรมนูญ และ สว. ที่ต่อต้านการแก้ ม.112 หรือ??...ไม่
พอข้ามมาอีกวันก็มีผลการประชุมคณะกรรมการศาลรัฐธรรมนูญว่าให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องการร้องการดำเนินการของสภาผู้แทนราษฎร ในการใช้ข้อบังคับมาปฏิบัติที่ขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำ ให้สภาโหวตรับรอง ต่อมาประธานสภาผู้แทนราษฎรก้ออกหนังสือสั่งให้เลื่อนการโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีออกไปจากวันที่ 4 สิงหาคม โดยไม่กำหนด พร้อมทั้งพรรคเพื่อไทยที่แจ้งว่าจะมีการประชุมร่วมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลและจะแถงการณ์ สุดท้ายก็เลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด
และในวันนี้ วันที่ 4 สิงหาคม มีการประชุมรัฐสภา ที่ประชุมร่วมทั้งสองสภา ก็ล่มไม่เป็นท่า เมื่อพรรคก้วไกล มีการถกเถียงกันถึงระเบียบปฏิบัติของรัฐสภา กับรัฐธรรมนูญมีความขัดแย้งกัน ซึ่งยังไม่ได้ข้อมสรุปตั้งแต่การประชุมในครั้งก่อนที่ผ่านมา ซึ่งควรต้องนำเอาประเด็นที่คั่งค้างมาประชุมกันต่อ แต่ทาง สว. เองก็พยายามจะลักไก่ว่า มันจบแล้ว คือไม่สามารถนำเสนอรายซื่อคนที่เคยถูกเสนอชื่อแล้วมีมติตกไปได้ กลายเป็นประเด็นที่หาทางจบลงไม่ได้ และท่านประธานรัฐสภาก็ปิดประชุมสภากับไปดื้อๆ
พอมาถึงสถานการณ์นี้ แรงกดดันก็ตกไปที่พรรคเพื่อไทย ที่ตนเองเลือกแล้วมันเหมือนถูกหลอกให้กระโจนลงบ่อจรเข้ม ที่รายล้อมไปด้วยจรเข้าหิวตัวเขื่อม ที่พร้อมจะเขมือบจับมุดน้ำแล้วรุมกระชากฉีกเนื้อแย่งกันกิน จะกลับก็กลับไม่ได้ จะไปต่อก็จะไปไม่ถึง
หากจะกลับมาแบบตาละห้อยขอโทษกับคู่รักเก่าสารภาพว่า “พี่ผิดไปแล้ว อภัยให้พี่ด้วย” มันก็คงจะทำได้ แต่ความภาคภูมิใจหรือความรู้สึกเดิมๆ รวมทั้งท่าทีแห่งคู่รักเดิม มันคงจะไม่เหมือนเดิม อีกทั้งสังคมรอบข้างที่ยังคงจดจำกับการกระทำของคู่รักนอกใจ ที่ฝ่ายหนึ่งอุตส่าห์ทำดีด้วยแสนจะดี มันก็จะเป็นการกลืนน้ำลายที่ฝืดประมานว่าน้ำลายแข็งเป็นก้อนกรวด และคงจะจะต้องอดทนกับการถูกมองแบบไอ้สาระเลวจากคนรอบข้าง ดังนั้นเพื่อไทยก็คงจะคิดหนักจะกลับได้ไหม??...
ถ้าจะเดินหน้าต่อ ก็มีขวากหนามขวางหน้ามากมาย มันเป็นการลงทุนในการเดินหน้าที่จะคุ้มทุนหรือไม่ หรือจะเป็นการรุมกินจนไม่เหลืออะไร ซึ่งข้างหน้านั้นต่างเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามที่เขารู้ทันพร้อมทั้งแผนการหลอกแดกไว้แล้ว ดั่ง สมชัย ศรีสุทธิยากร ได้เขียนไว้ว่า พล็อต อ็อพเพ่นไฮเมอร์ ที่เพื่อไทยมีแผนทิ้งก้าวไกล เพื่อหลอก สว. โหวตคะแนนให้ เมื่อได้นายกแล้วก็จะกลับมารับก้าวไกลมาอยู่ด้วย(หือ!!....ประหนึ่งละครน้ำเน่า) แต่ สว. รู้ทันไม่ลงคะแนนให้ เพื่อไทยก็แห้ว เพราะเพื่อไทยเชื่อในความสามารถของคนแดนไกลที่อยู่ห่างข้อมูลแต่มีความประสงค์อยากกลับบ้านมาก แถมศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนวันพิจารนาคำร้องการเสนอชื่อนายกซ้ำออกไป ทำให้รัฐสภาเลื่อนการโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีออกไป และพรรคก้าวไทยก็เตรียมตัวเป็นแม่ม้ายที่พร้อมจะเดินทางฝ่ายค้าน
สถานการณ์ที่โดดเดี่ยวพรรคเพื่อไทย มันเป็นบรรยากาศที่ชวนสุดสยอง พองเกล้า ที่เป็นบรรยากาศมันสุดแสนจะหว้าเหว่ โดดเดี่ยว พร้อมทั้งมีชะนักติดหลังที่มวลชนประนามเป็นคนทรยศ ณ บรรยากาศตอนนี้ของพรรคเพื่อไทย คงว้าวุ่น หมดทางไป หรือจะย้อนกลับ ก็จนทนกับท่าทีความไม่ไว้ใจได้ไหม??... หรือจะยอมสละเลือดเนื้อว่ายน้ำต่อไปให้ไอ้เข้มันงาบ...ดูต่อไป