In Bangkok
ยันห้องแล็บคอมพิวเตอร์ทุกโรงเรียนกทม. เสร็จตามเป้าใช้งาน'ใน-นอกเวลาเรียน'
กรุงเทพฯ- คาดห้องแล็บคอมพิวเตอร์ทุกโรงเรียนกทม.แล้วเสร็จตามเป้า มุ่งใช้งานเต็มประสิทธิภาพ ทั้งในและนอกเวลาเรียน
(7 ส.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 17/2566 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้ต่อเนื่องตามนโยบายยกระดับห้องแล็บคอมพิวเตอร์ทุกโรงเรียนให้ทันสมัยและเพียงพอ กทม.มีโรงเรียนในสังกัด 437 แห่ง ติดตั้งห้องแล็บคอมพิวเตอร์แล้ว 402 โรงเรียน คงเหลือ 35 โรงเรียน โดยมีเป้าหมายห้องคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น 598 ห้อง ติดตั้งแล้ว 555 ห้อง คงเหลือ 43 ห้อง สำหรับเป้าหมายเครื่องคอมพิวเตอร์ รวม 21,553 เครื่อง ปัจจุบันติดตั้งแล้ว 20,135 เครื่อง คงเหลือ 1,418 เครื่อง ตามสัญญาจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ส.ค. 66 คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์ แต่คือบุคลากรพร้อมหรือไม่ จะนำคอมพิวเตอร์ไปเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอนได้อย่างไร
นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาหลายโรงเรียนในสังกัดกทม.ไม่มีห้องคอมพิวเตอร์มานาน อาจจะไม่คุ้นกับการเรียนการสอนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ฉะนั้น ในเนื้องานของผู้รับจ้างจึงมีในเรื่องของการอบรมคุณครู โดยจะมีครูคอมพิวเตอร์ และวิชาอื่นที่สามารถนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ได้ก็จะมีการให้ใช้ห้องคอมพิวเตอร์ด้วย อย่างไรก็ตาม ห้องคอมพิวเตอร์ยังสามารถใช้ประโยชน์นอกเวลาเรียนได้ โดยเรามีโครงการ After School และ Saturday School ซึ่งก็จะทำให้ห้องคอมพิวเตอร์ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
● แล็บท็อป/โน้ตบุ๊กยังขาดอีกจำนวนมาก ผู้ประสงค์บริจาคยังสามารถสนับสนุนได้
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า โครงการห้องแล็บคอมพิวเตอร์ข้างต้น เป็นโครงการที่แยกกันกับโครงการห้องเรียนดิจิทัลที่ได้มีการขอรับบริจาคแล็บท็อปหรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โดยห้องแล็บคอมพิวเตอร์จะใช้เฉพาะบางวิชา ส่วนห้องเรียนดิจิทัลเป็นการเรียนทุกวิชา ทั้ง 8 กลุ่มสาระในคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นโครงการที่อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา โดยมีเป้าหมายการรับบริจาคปี 2566 จำนวน 2,177 เครื่อง ปัจจุบันได้รับบริจาคแล้วประมาณ 180 เครื่อง อย่างไรก็ตามต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง หากได้รับบริจาคไม่ครบตามเป้าหมายอาจจะต้องจัดซื้อเอง โดยพิจารณาทั้งในแง่การเพิ่มงบประมาณและการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย ในเบื้องต้นจึงต้องพยายามหาภาคเอกชนต่าง ๆ เข้ามาร่วมโครงการก่อน
รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวเสริมว่า ได้สั่งการให้แต่ละโรงเรียนไม่ต้องรอ หากโรงเรียนใดได้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กครบ 40 เครื่อง หรือเพียงพอสำหรับ 1 ห้องเรียนดิจิทัล สามารถเริ่มได้เลย เพราะเรามีหลักสูตรแต่ละวิชา รวมถึงระบบ Wi-Fi พร้อมแล้ว
อนี่ง ผู้สนใจมีส่วนร่วมในการเข้ามาพัฒนาการศึกษาให้กับนักเรียนกทม. มีโน้ตบุ๊กเครื่องเก่า แรม 4 GB ขึ้นไป HDD หรือ SSD ความจุไม่น้อยกว่า 16 GB สามารถดูรายละเอียดหรือกรอกแบบฟอร์มขอบริจาคได้ที่ https://digitalclassroom.bangkok.go.th