In Bangkok
กทม.อัปเดทพัฒนา3คลองหลักกรุงเทพฯ 'ลาดพร้าว-เปรมประชากร-แสนแสบ'
กรุงเทพฯ-(11 ส.ค. 66) เวลา 10.00 น. : นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการพัฒนาคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร เลขานุการคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวกับการพัฒนาคลอง สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักพัฒนาสังคม สำนักอนามัย สำนักงานเขตที่มีพื้นที่ติดริมคลอง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานและพัฒนาพื้นที่คลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร และคลองแสนแสบ สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองเปรมประชากร ช่วงที่ 1 จากคลองบ้านใหม่ถึงบริเวณหมู่บ้านแกรนด์คาแนล ความยาว 581 เมตร ดำเนินการแล้วเสร็จ ช่วงที่ 2 จากสุดเขตกรุงเทพมหานครถึงคลองบ้านใหม่ และจากหมู่บ้านแกรนด์คาแนลถึงถนนสรงประภา ความยาว 5,000 เมตร อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ความคืบหน้า 4.90% ยังไม่มีการรื้อย้ายบ้านรุกล้ำ 5 ชุมชน ในพื้นที่ไม่มีปัญหาอุปสรรค ช่วงที่ 3 จากถนนสรงประภาถึงถนนแจ้งวัฒนะ ความยาว 10,000 เมตร อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ความคืบหน้า 9.85% บ้านรุกล้ำ 13 ชุมชน รื้อย้ายแล้ว 2 ชุมชน ช่วงที่ 4 จากถนนแจ้งวัฒนะถึงถนนเทศบาลสงเคราะห์ ความยาว 10,700 เมตร อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ความคืบหน้า 26% บ้านรุกล้ำ 11 ชุมชน รื้อย้ายแล้ว 2 ชุมชน และ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มหลังวัดเสมียนนารีฯ และกลุ่มหน้าวัดเทวสุนทร (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ส.ค. 66)
สำหรับการสำรวจสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลองสาธารณะ 50 สำนักงานเขต สิ่งปลูกสร้างรุกล้ำทั้งหมด 11,231 หลัง รื้อย้ายแล้ว 2,450 หลัง อยู่ระหว่างดำเนินการ 8,781 หลัง ด้านผลการดำเนินการติดตามความร่วมมือให้ตรวจสอบอาคารของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีอาคารอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้มีการระบายน้ำเสียเป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร จำนวน 19 กระทรวง และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ จำนวน 9 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 28 หน่วยงาน จำนวน 657 อาคาร ปัจจุบันหน่วยงานมีหนังสือประสานขอให้สำนักการระบายน้ำเข้าตรวจสอบระบบบำบัดน้ำเสีย และสำนักการระบายน้ำเข้าตรวจสอบแล้ว จำนวน 3 อาคาร มีหน่วยงานแจ้งว่าอาคารมีการบำบัดน้ำทิ้งที่ออกจากอาคาร มีคุณภาพเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 44 (พ.ศ. 2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จำนวน 79 อาคาร รวม เป็นทั้งหมด 82 อาคาร อาคารที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการออกหนังสือติดตาม ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบการบำบัดน้ำทิ้งที่ออกจากอาคารของแต่ละหน่วยงาน
ในส่วนของการพัฒนาคลองแสนแสบและคลองสาขา ทำการสำรวจและคัดเลือกชุมชนต้นแบบเพื่อติดตั้งถังดักไขมัน รวม 26 ชุมชน จาก 21 เขตที่มีพื้นที่ติดริมคลอง ได้ชุมชนต้นแบบ 48 ชุมชน 9,722 ครัวเรือน มีเป้าหมายในการติดตั้งถังดักไขมัน ปีงบประมาณ 2566 จำนวน 4,487 ถัง ติดตั้งแล้ว 2,793 ถัง (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ส.ค. 66) โดยในปีงบประมาณ 2565 ติดตั้งถังดักไขมันจำนวน 2,877 ถัง ทำการประเมินผลการใช้งาน 2,007 ถัง ใช้งานได้ดี 1,995 ถัง ชำรุด 12 ถัง จัดเก็บไขมันได้ 1.62 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน สำหรับความคืบหน้าการติดตามการแก้ไขปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียสถานประกอบการในพื้นที่รัศมี 500 เมตร ริมคลองแสนแสบและคลองสาขาให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (เฟส 2 : ต.ค. 65 - เม.ย. 66) สถานประกอบการที่ต้องติดตาม 155 แห่ง สำนักอนามัยตรวจสอบอาคารแล้วเสร็จ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทุกแห่ง
ทั้งนี้ ปลัดกรุงเทพมหานคร มอบหมายสำนักการระบายน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสาน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เพื่อเร่งรัดส่งมอบพื้นที่ เร่งก่อสร้างเขื่อน รวมทั้งขอความร่วมมืองดก่อสร้างบ้านมั่นคงก่อนการก่อสร้างเขื่อน พร้อมทั้งเจรจาทำความเข้าใจกับชุมชนที่รุกล้ำแนวเขื่อนอย่างต่อเนื่อง และรวบรวมประเด็นปัญหาที่เกิดความขัดข้องในการรื้อย้ายเพื่อปรับปรุงแนวทางการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้าง และเร่งติดตั้งบ่อดักไขมันภายในชุมชนและบ้านเรือนริมคลองให้ครบตามแผน รวมทั้งเร่งประสานความร่วมมือการบำบัดน้ำเสียภายในอาคาร สถานที่ราชการ อาคารรัฐวิสาหกิจในพื้นที่กทม.