In Thailand

สาวพิการยิ้มสู้ชีวิตนั่งวิลแชร์ขายขนมจีน เลี้ยงครอบครัวใครนั่งนายกฯไม่มีปัญหา 



ปราจีนบุรี-สาวพิการยิ้มสู้ชีวิตนั่งวิลแชร์ขายขนมจีนเลี้ยงครอบครัวใครจะมาเป็นนายกฯก็ไม่มีปัญหา 

วันนี้ 22 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า  วันนี้หลาย ๆ คนสนใจผลลุ้นใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี   แต่พบชีวิตที่ยังต้องสู้ของ   อดีตสาวโรงงานประสบอุบัติเหตุรถรับ - ส่ง พลิกคว่ำรักษาตัวนานหลายเดือนสุดท้ายกลายเป็นคนพิการท่อนล่าง แต่ด้วยภาระที่ต้องรับผิดชอบทั้งแม่และลูกจึงตัดสินใจทำเพิงหน้าบ้านขายขนมจีนเลี้ยงชีวิต นั้น   ในวันนี้ แม้ใครจะมาผ่านการโหวต เป็นนายกรัฐมนตรี   อาทิ 'เศรษฐา ทวีสิน' นายกรัฐมนตรีคนที่30 มติรัฐสภาเกิน375เสียง   นั้น  คนรากหญ้าอย่างเธอ แทบไม่มีสิทธิไปคิดว่าจะเป็นใคร  เพราะยังต้องดิ้นรน  ทำมาหากินต่อไป

พบน.ส. รุ่งนภา  นามมะเริง อายุ 49 ปี อดีตสาวโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ต้องกลายมาเป็นผู้พิการขาทั้งสองข้างไร้ความรู้สึกไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เหมือนแต่ก่อน หลังประสบอุบัติเหตุรถรับ - ส่ง พนักงานพลิกคว่ำจนทำให้ รุ่งนภา ป่วยติดเตียงนานนับเดือน แต่สุดท้ายชีวิตที่กำลังไปได้ดีต้องมาเป็นคนพิการ นานกว่า  30 ปี  ตั้งแต่ปี 2536 มีแค่เบี้ยคนพิการ 800 บาท ที่เลี้ยงคนในบ้านที่มีแม่และลูกสาวอีกคน ภาระทั้งหมดตกอยู่ที่แม่วัยชรา  ที่ยังต้องทำหน้าที่ “แม่”  กลายมาเป็นคนแก่เลี้ยงคนพิการ 

ผ่านไปหลายปี รุ่งนภา เริ่มทำใจได้  ยอมรับกับสภาพร่างกายที่ไม่เหมือนเดิม ขืนมั่วแต่นั่งทนงอมืองอเท้า  อยู่กับความโชคร้ายของชีวิต ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จึงตัดสินใจรวบรวมทุนที่พอมี มาขอให้ญาติช่วยทำเพิงขายขนมจีน น้ำยาพริก น้ำยาป่า น้ำยากะทิ  แบบพื้นบ้าน     ตั้งร้าน ริมถนนหน้าบ้าน เลขที่ 80 / 1 หมู่ 6 บ้านนาใต้ ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  บรรยากาศร้านเปิดโล่ง  โปร่งสะอาด   ซึ่งเป็นงานเบา  ที่ตัวเองพอจะทำได้ นับสิบปี   ที่ยังชีพแบบพอเพียง แต่สามารถพึ่งพาตนเอง   ขายขนมจีนมีรายได้ต่อวันแม้ไม่มากนัก   แต่ก็ยังดีกว่านั่งคอยเบี้ยคนพิการกับเบี้ยคนชราของแม่    ลงทุนซื้อวัตถุดิบ มาทำน้ำยา ,ผักเหมือด-แกล้มเป็นเครื่องเคียง เส้นขนมจีน  ต่อวันๆละ 5 – 6 กก. มีรายได้ รวมกว่า  500 -600 บาท   ก็จะได้กำไรวันละ 100 กว่า ถึง 200 บาท /วัน     ซึ่งก็เป็นบางวันถ้าวันไหนฟ้าฝนไม่อำนวยก็ขายไม่ได้   บางครั้งทำให้ต้องหยุดขายหลายวัน

 

รุ่งนภา บอกว่าทุกวันนี้ตนยอมรับกับความจริงกับชีวิตที่เป็นอยู่    ทำให้ไม่รู้สึกกังวลดำเนินชีวิตแบบคนทั่วไป แม้จะเดินไม่ได้  แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปเป็นภาระคนอื่น   ยังพึ่งพาตนเองไม่เป็นภาระใคร   มีความสุขตามอัตภาพ ลูกค้าเก่าใหม่ต่างเห็นใจ   พากันมาอุดหนุนจนบางคนเป็นลูกค้าขาประจำ   บางคนรู้เรื่องราวก็ให้กำลังใจ    ซึ่งตนเองก็อยากให้ผู้ที่ประสบชะตาชีวิตเช่นตนได้ลุกขึ้นสู้   ขอไม่ยอมแพ้ชีวิตก็จะมีความสุขได้เช่นกัน

มานิตย์  สนับบุญ /  ปราจีนบุรี