In Global
จีนลดภาษีอากรแสตมป์เพิ่มความเชื่อมั่น สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์
จีนได้ประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนในตลาดทุนในวันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม 2566 ซึ่งรวมถึงการลดภาษีอากรแสตมป์สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ และการชะลอการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO เป็นการชั่วคราว
กระทรวงการคลังของจีนกล่าวว่ารัฐบาลจะลดภาษีอากรแสตมป์ที่เรียกเก็บจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป และคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ระบุหลังจากนั้นไม่นานว่าอัตราการเสนอขายหุ้น IPO จะลดลงชั่วคราว ในขณะที่การสื่อสารล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แผนการรีไฟแนนซ์ขนาดใหญ่ของบริษัทต่างๆ จะได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง
จ้าว ซีจุน คณบดีร่วมของสถาบันวิจัยตลาดทุนจีนแห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน (China Capital Market Research Institute at Renmin University of China) กล่าวว่าการลดอากรแสตมป์ในการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นเป็น "มาตรการที่ทรงพลังและมีประสิทธิผลอย่างไม่ต้องสงสัย"
“การปรับเปลี่ยนดังกล่าวมีผลกระทบเชิงบวกอย่างมากต่อตลาด และเป็นมาตรการสำคัญที่สามารถส่งผลทันทีต่อการฟื้นฟูตลาดทุน และเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน” จ้าวกล่าวเสริม
ขณะที่ ฉิน เผยจิง หัวหน้านักวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ของ CITIC Securities กล่าวว่าข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าการลดอากรแสตมป์สำหรับธุรกรรมหลักทรัพย์มีบทบาทเชิงบวกในการลดต้นทุนการทำธุรกรรม เปิดใช้งานธุรกรรมในตลาด และสะท้อนถึงผลกระทบที่ครอบคลุม เชื่อว่า "การดำเนินการในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของตลาดด้วย"
นอกจากนี้ประเทศจีนยังได้ประกาศมาตรการอื่นๆ เพื่อกระตุ้นตลาดทุนอีกด้วย เพื่อกระตุ้นความต้องการการซื้อขายมาร์จิ้น (Margin) ในระดับปานกลาง โดยCSRC กล่าวว่านักลงทุนจะต้องฝากเงินอย่างน้อย 80% ของจำนวนเงินที่ยืมมา ลดลงจาก 100% ก่อนหน้านี้ โดยเริ่มตั้งแต่การปิดการซื้อขายในวันที่ 8 กันยายน 2566
CSRC กล่าวว่าขนาดโดยรวมของการลดสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะได้รับการจัดการ ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมหรือผู้ควบคุมที่แท้จริงของบริษัทจดทะเบียนจะไม่สามารถลดการถือครองของตนผ่านตลาดรองได้ในหลายสถานการณ์ รวมถึงเมื่อบริษัทเห็นว่าราคาหุ้นลดลงต่ำกว่าราคาเสนอขายครั้งแรก เมื่อบริษัทไม่มีการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดใดๆ ใน ย้อนหลัง 3 ปี หรือเมื่อเงินสดปันผลสะสมน้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อปีของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แหล่งข้อมูล:https://news.cgtn.com/.../China-cuts-stamp-tax.../index.html
https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fnihaosawadeemedia%2Fposts%2Fpfbid0jEFK23X3xu5YuTgfQCA6XX9EpUNsLL4F9ELcuzccdzBf78xYQLXyTgD4783EHusml&show_text=true&width=500