In Global

'เฮนลี่ย์&พาร์ทเนอร์ส'เผยแพร่รายงาน ความมั่งคั่งด้านคริปโทฯครั้งแรกของโลก



ลอนดอน-6 กันยายน 2566-เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) บริษัทชั้นนำผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านความมั่งคั่งและการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ เผยแพร่รายงานความมั่งคั่งด้านคริปโทฯ (Crypto Wealth Report) ฉบับแรก พบว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีเศรษฐีคริปโทฯ อยู่ 88,200 คน โดยเกือบครึ่งหนึ่ง (40,500) ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในสกุลบิตคอยน์ (Bitcoin) ขณะที่มูลค่าตลาดโดยรวมของคริปโทฯ อยู่ที่ราว 1.180 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีบุคคล 425 ล้านคนทั่วโลกที่ครอบครองคริปโทเคอร์เรนซี

รายงาน ฉบับแรกของวงการคริปโทฯ นี้ ประกอบด้วยสถิติเกี่ยวกับจำนวนเศรษฐี เศรษฐีร้อยล้าน และมหาเศรษฐีคริปโทฯ และบิตคอยน์ ซึ่งเป็นข้อมูลเอ็กซ์คลูซีฟจากบริษัท นิว เวิลด์ เวลท์ (New World Wealth) ผู้ให้บริการข้อมูลความมั่งคั่งระดับโลกแบบเจาะลึก นอกจากนั้นยังมีข้อมูลเชิงลึกจากนักวิชาการชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และนักลงทุนคริปโทฯ ตลอดจนดัชนีการยอมรับคริปโทฯ (Crypto Adoption Index) ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส  ซึ่งเปรียบเทียบโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติ (residence and citizenship by investment) ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนคริปโทฯ

ดร. ยอร์ก สเตฟเฟน (Dr. Juerg Steffen) ซีอีโอของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า นักเทรด นักขุด นักลงทุน และผู้ประกอบการคริปโทฯ กำลังสำรวจแผนการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน (investment migration) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง "ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เราได้รับคำถามเพิ่มขึ้นอย่างมากจากบรรดาเศรษฐีคริปโทฯ ที่พยายามหาทางปกป้องตนเองจากความเป็นไปได้ที่อาจถูกห้ามซื้อขายหรือใช้สกุลเงินดิจิทัลในประเทศบ้านเกิดในอนาคต รวมทั้งลดความเสี่ยงของนโยบายการคลังเชิงรุกที่เรียกเก็บภาษีจากแหล่งที่มาที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล"

ราคาพุ่งทะยาน : คริปโทฯ คือ "ของแท้แน่นอน" 

ในกลุ่มเศรษฐีของโลก พบว่าขณะนี้มีเศรษฐีคริปโทฯ ระดับร้อยล้าน 182 คน (กล่าวคือ บุคคลที่มีสินทรัพย์สูงและถือครองคริปโทฯ มูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) ซึ่ง 78 คนในจำนวนนี้ถือครองบิตคอยน์ ขณะที่ทั่วโลกมีเศรษฐีคริปโทฯ ระดับมหาเศรษฐีอยู่ 22 คน ซึ่ง 6 คนในจำนวนนี้ถือครองบิตคอยน์

คุณเจฟฟ์ ดี. ออปไดก์ (Jeff D. Opdyke) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลก ระบุในรายงานว่า "คริปโทฯ ถือเป็นการลงทุนและเทคโนโลยีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะเข้าซื้อ เนื่องจากเราไม่น่าจะได้เห็นราคาระดับนี้อีกแล้ว" ขณะที่ ดร.นิคลาส เจ.อาร์.เอ็ม. ชมิดต์ (Dr. Niklas J.R.M. Schmidt) จากสำนักงานกฎหมาย วูล์ฟ ไทซ์ (Wolf Theiss) ของออสเตรีย ได้อธิบายวิธีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.เตเวโทกลู (Assoc. Prof. Dr. Tevetoğlu) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบล็อกเชนในอิสตันบูล เตือนถึง "ผลทางกฎหมายที่ร้ายแรง" อันเนื่องมาจากการหลงคิดว่าไม่มีกฎหมายที่กำกับดูแลเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนทางด้านคุณคาร์ลอส กอนซาเลซ กัมโป (Carlos Gonzalez Campo) นักวิเคราะห์วิจัยของทเวนตี้วันแชร์ส (21Shares) ระบุในบทวิเคราะห์ของเขาว่า "แม้การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นหัวข้อใหม่ที่ยังไม่มีฉันทามติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเภทสินทรัพย์ขยายตัวและเติบโตเต็มที่ แต่ก็มีวิธีการบางอย่างที่นักลงทุนสามารถใช้ได้"

ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนคริปโทฯ

ดัชนีการยอมรับคริปโทฯ (Crypto Adoption Index) ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ประกอบด้วยจุดข้อมูลมากกว่า 750 จุด โดยประเมินและให้คะแนนประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่เป็นมิตรกับคริปโทฯ (crypto-friendly) โดยพิจารณาจากระดับการยอมรับและการรวมคริปโทเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินการธนาคารของประเทศ ซึ่งผลปรากฏว่า สิงคโปร์คว้าอันดับ 1 ด้วยคะแนน 50.2 จากคะแนนเต็ม 60 หรือคิดเป็น 83.76% สวิตเซอร์แลนด์ได้อันดับ 2 (78.17%) ตามมาติด ๆ กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อันดับ 3 คะแนน 76.17%) ฮ่องกง (อันดับ 4 คะแนน 76%) สหรัฐอเมริกา (อันดับ 5 คะแนน 73.83%) ออสเตรเลีย (อันดับ 6 คะแนน 71.83%) และสหราชอาณาจักร (อันดับ 7 คะแนน 71.17%) ซึ่งทุกประเทศที่กล่าวมาล้วนติดอันดับต้น ๆ เมื่อพูดถึงการยอมรับคริปโทฯ ขณะที่แคนาดา (อันดับ 8 คะแนน 67.33%) มอลตา (อันดับ 9 คะแนน 64.83%) และมาเลเซีย (อันดับ 10 คะแนน 62.5%) ก็มีชื่อติด 10 อันดับแรกเช่นกัน

ตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อพิจารณาจากปัจจัยด้านภาษี

ในแง่ของตัวชี้วัดด้านภาษี (tax-friendliness parameter) ซึ่งประเมินแนวทางของประเทศหนึ่ง ๆ ในการเก็บภาษีจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีนั้น สิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้คะแนน 10 เต็ม 10 ขณะที่ฮ่องกง มอริเชียส และโมนาโกทำคะแนนได้อย่างน่าประทับใจที่9 เต็ม 10 ส่วนแอนติกาและบาร์บูดา มาเลเซีย นามิเบีย และสวิตเซอร์แลนด์ ต่างทำคะแนนสูงที่ 8 เต็ม 10 

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสิงคโปร์เป็นผู้นำอีกครั้งเมื่อพิจารณาจากการยอมรับของประชาชน (public adoption) ซึ่งวัดระดับการรับรู้ ความสนใจ และการมีส่วนร่วมกับคริปโทเคอร์เรนซีในหมู่ประชากรทั่วไป โดยทั้งสองประเทศต่างทำไปได้ 7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 สำหรับตัวชี้วัดนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ (infrastructure adoption) ซึ่งเป็นการประเมินพื้นฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการทำธุรกรรมและการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทฯ เช่น จำนวนตู้เอทีเอ็มที่รองรับคริปโทฯ การรวมคริปโทฯ เข้ากับธนาคารในประเทศ และบริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ปรากฏว่าทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสิงคโปร์มีอันดับร่วงลง โดยปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ขณะที่กรีซ ไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดอันดับ 10 ประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาให้สนับสนุนการใช้คริปโทฯ ได้อย่างราบรื่นมากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม และรายงานความมั่งคั่งด้านคริปโทฯ ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์สได้ทางออนไลน์