In Bangkok
กทม.เพิ่มตั้งจุดจับปรับบนถ.นราธิวาสฯ เร่งขยายผลBMA AI CAMERA
กรุงเทพฯ-นายสุเมธ อมรศรีวรากุล ผู้อำนวยการเขตยานนาวา กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพและข้อความระบุบริเวณถนนนราธิวาสฯ 20 - 22 มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้าเป็นประจำ ทำให้ทางเท้าชำรุดว่า สำนักงานเขตยานนาวาได้เข้มงวดกวดขันผู้กระทำความผิดจอด หรือขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งจุดจับ - ปรับบริเวณถนนสายหลัก ได้แก่ ถนนพระรามที่ 3 ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ โดยจะหมุนเวียนตั้งจุดจับ - ปรับทั่วพื้นที่เขตยานนาวา ซึ่งบริเวณถนนนราธิวาสฯ 20 - 22 ได้ตั้งจุดจับ - ปรับ จำนวน 3 ครั้ง/สัปดาห์ ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ จะเพิ่มความถี่การตั้งจุดจับ - ปรับในบริเวณดังกล่าวมากขึ้น
นอกจากนี้ สำนักงานเขตฯ ได้จัดทำเสากั้นบริเวณปากซอยนราธิวาสฯ 22 ซึ่งการปักเสาในบริเวณดังกล่าวได้พิจารณาถึงประโยชน์ในการใช้ทางเท้าแก่ผู้พิการและผู้ที่ใช้วีลแชร์ด้วย ส่วนการติดกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมระบบ AI ตรวจจับผู้กระทำผิด หากมีการขยายผลการดำเนินการระบบดังกล่าวครบทั้ง 50 เขต สำนักงานเขตฯ จะเสนอให้นำมาใช้กับจุดที่มีการร้องเรียนต่อไป
นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ (สนท.) กทม. กล่าวว่า สนท.ได้ดำเนินโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอด หรือขับขี่บนทางเท้า เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้ทางเท้า โดยให้สำนักงานเขตบังคับใช้กฎหมายห้ามไม่ให้รถจอด หรือขับขี่บนทางเท้าโดยเด็ดขาด ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 และให้เจ้าหน้าที่เทศกิจออกตรวจตรา กวดขัน และเฝ้าระวังไม่ให้มีการกระทำผิด รวมถึงตั้งโต๊ะจับ - ปรับรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์จอด หรือขับขี่บนทางเท้าในบริเวณพื้นที่ที่มีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก หรือในจุดที่ประชาชนร้องเรียนเป็นประจำ โดยให้พิจารณาดำเนินการในช่วงเวลาเร่งด่วน ระหว่างเดือน ก.ค.61 - 15 ส.ค.66 จับกุมผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดจอด หรือขับขี่แล้ว 52,154 ราย ปรับเป็นเงิน 57,862,800 บาท รวมทั้ง กทม.ได้นำเทคโนโลยี BMA AI CAMERA มาใช้ตรวจจับภาพผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดจอด หรือขับขี่รถบนทางเท้าในบริเวณที่มีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก โดยเบื้องต้นได้ติดตั้งนำร่อง จำนวน 12 จุด สามารถจับภาพผู้กระทำความผิดขับขี่รถบนทางเท้าระหว่างวันที่ 12 มิ.ย. - 15 ส.ค.66 ได้จำนวน 19,284 ราย และจะขยายให้ครบ 100 จุด ภายในปี 2566 ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่เทศกิจสามารถตรวจตราพื้นที่ได้ทั่วถึงมากขึ้น และผู้ฝ่าฝืนจอด หรือขับขี่รถบนทางเท้าจะน้อยลงตามลำดับ