In Bangkok

กทม.จัดระบบเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเสี่ยง โรคฝีดาษลิงเข้มป้องกันติดเชื้อในคลินิก



กรุงเทพฯ-นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากพบเยาวชนติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่มขึ้นว่า กรุงเทพมหานคร โดย สนอ.ได้ติดตามแนวโน้มสถานการณ์และเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการสนับสนุนความร่วมมือส่งเสริมความรู้และให้คำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับอาการ วิธีการแพร่เชื้อ วิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรคฝีดาษลิง รวมถึงข้อควรปฏิบัติเมื่อพบอาการเข้าข่ายโรค โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและกลุ่มชายรักชายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ กทม.มีระบบเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเสี่ยงเชิงรับ โดยตรวจจับการระบาดจากระบบรายงานโรคและลงสอบสวนโรคทุกเคส รวมทั้งการป้องกันเชิงรุกโดยร่วมกับสำนักงานเขตและองค์กรภาคประชาสังคม NGO ให้ความรู้สถานบริการ ซาวน่า และสถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชาย ตลอดจนเพิ่มความเข้มงวดป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในศูนย์บริการสาธารณสุขและคลินิกต่าง ๆ โดยเฉพาะการให้บริการในคลินิกเฉพาะทาง เช่น คลินิกโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คลินิกโรคผิวหนัง คลินิกรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี ขณะเดียวกันได้ประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันโรคฝีดาษลิงควบคู่กับการดูแลสุขภาพอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขอให้ประชาชนสังเกตอาการและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคฝีดาษลิง โดยงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ไม่สัมผัสแนบเนื้อกับผู้ที่มีผื่น ตุ่ม หรือหนอง แนะนำให้ล้างมือบ่อย ๆ และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น อย่างไรก็ตาม แม้การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยจะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ เนื่องจากสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสแบบแนบชิดเนื้อ

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถตรวจสอบอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ดังนี้ หากมีผื่น/ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก หรือตามร่างกาย และมีประวัติสัมผัสใกล้ชิด สัมผัสแนบชิด หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้สงสัยฝีดาษลิง หรือผู้ป่วยฝีดาษลิง ให้สังเกตตนเองภายหลังสัมผัสผู้ป่วยภายใน 21 วัน หากมีอาการ ไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น หรือตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก หรือบริเวณรอบ ๆ ตามมือ เท้า หน้าอก ใบหน้า หรือบริเวณปาก ให้รีบเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลทันที โดยแจ้งอาการและประวัติเสี่ยงประกอบการวินิจฉัย