In News

'ไทย-ออสเตรเลีย'ยกระดับความร่วมมือ ภาคการเกษตรและอาหารสู่ความยั่งยืน



ชลบุรี-เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานร่วมความร่วมมือด้านการเกษตรเกษตร ไทย-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 23(The 23rdMeeting of theThailand - AustraliaJoint Working Group on Agriculture)เป็นประธานร่วมกับนายแมทธิว โควาล(Mr.Matthew Koval)First Assistant Secretary of the Trade and International Division, Department of Agriculture, Fisheries and Forestry) หัวหน้าคณะฝ่ายออสเตรเลียโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือการแลกเปลี่ยนนโยบายด้านการเกษตร

โดยเฉพาะแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนของทั้งสองประเทศและขยายความร่วมมือทางวิชาการในสาขาต่างๆ ที่ทั้งสองฝ่ายสนใจร่วมกันพร้อมด้วยคณะผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักการเกษตรต่างประเทศ กองนโยบายเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืน กรมชลประทาน กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกรมส่งเสริมการเกษตรกรมประมง และสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงแคนเบอร์ราเข้าร่วมการประชุมณ โรงแรมอมารี พัทยา และผ่านระบบการประชุมออนไลน์

ทั้งนี้ ในการประชุมได้รับทราบรายงานผลการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรไทย-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 22 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2565 ณ กรุงเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย (The 22nd Meeting of the Thailand-Australia Joint Working Group on Agriculture) และรายงานผลการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชและมาตรฐานอาหาร ระหว่าง ไทย - ออสเตรเลีย ครั้งที่ 19 เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา (The 19th Meeting of the TAFTA SPS Expert Group)

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการดำเนินงานของไทยและออสเตรเลีย เกี่ยวกับการทำเกษตรยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยฝ่ายไทยได้นำเสนอภาพรวมการทำเกษตรยั่งยืนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตลอดจนการดำเนินความร่วมมือด้านเกษตรยั่งยืนของไทยในระดับภูมิภาค ซึ่งนับว่าการแลกเปลี่ยนข้อมูลในครั้งนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเนื่องจากเกษตรยั่งยืนเป็นวาระที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายความมั่นคงทางอาหาร ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีหากทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือร่วมกันที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรแบบยั่งยืนในอนาคต อาทิ การเสริมสร้างขีดความสามารถ การแลกเปลี่ยนความรู้ การวิจัยและพัฒนา เป็นต้น

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนผลการดำเนินโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่าง ไทย-ออสเตรเลียที่ดำเนินความร่วมมือระหว่างกันมาอย่างนานโดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการน้ำ การพยากรณ์สินค้าเกษตร ความร่วมมือด้านประมง ปศุสัตว์ รวมถึงการส่งเสริมขีดความสามารถของเกษตรของรุ่นใหม่ ซึ่งแต่ละโครงการจะมีการแลกเปลี่ยนผู้เชียวชาญ นักวิจัย เกษตรกร และข้าราชการผ่านรูปแบบการวิจัยและพัฒนาร่วมเป็นหลัก โดยการดำเนินโครงการของฝ่ายออสเตรเลียและฝ่ายไทยเกือบทุกโครงการเกิดผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการบริหารจัดน้ำที่ฝ่ายออสเตรเลียเข้ามาส่งเสริมองค์ความรู้ การใช้เทคโนโลยี แนวคิดการการทำงานและการปฏิบัติงานในพื้นที่จริง ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่ต้นแบบได้รับน้ำอย่างทั่วถึง และจัดสรรน้ำได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น

อนึ่ง ออสเตรเลียเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 10 ของไทยโดยในปี 2565 มีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร ไทย-ออสเตรเลียรวม 70,066 ล้านบาทนอกจากนี้ ออสเตรเลียยังเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอันดับที่ 12 ของไทยโดยในปี 2565 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปออสเตรเลีย มูลค่า 35,812 ล้านบาทและไทยนำเข้าสินค้าเกษตรจากออสเตรเลีย มูลค่า 34,255 ล้านบาทสำหรับสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกไปออสเตรเลียที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องอาหารสุนัขหรือแมวซอสและของปรุงรสอื่นๆ ข้าวอาหารปรุงแต่งเช่น เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง ครีมเทียมอาหารปรุงแต่งที่ทำจากธัญพืชน้ำผลไม้ เช่น น้ำแบล็กเคอร์แรนต์น้ำมะพร้าว และปลาแซลมอนปรุงแต่งในส่วนของสินค้าเกษตรที่ไทยนำเข้าจากออสเตรเลียที่สำคัญ ได้แก่ข้าวสาลีข้าวบาร์เลย์เนื้อโคกระบือแช่แข็งนมและผลิตภัณฑ์จากนม