In Bangkok
กทม.การปรับปรุงการขออนุญาตก่อสร้าง หนุนระบบBMA OSSยื่นขอออนไลน์
กรุงเทพฯ-(8 ก.ย.66) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงาน เข้าร่วมประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการปรับปรุงกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2566 โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะทำงานจากสำนักการโยธา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มูลนิธิองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฯลฯ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมโยธา 1 ชั้น 6 สำนักการโยธา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในปัจจุบันสมควรอย่างยิ่งที่ต้องทบทวนขั้นตอนและกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงกฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้าง เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินการ ลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ และเพิ่มความโปร่งใสในการปฏิบัติงานให้บรรลุผลอย่างรวดเร็ว เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน อันจะเป็นประโยชน์ต่อกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งหวังว่าการยื่นขออนุญาตฯ ด้วยระบบออนไลน์จะเห็นผลเป็นรูปธรรมและประชาชนใช้บริการอย่างแพร่หลายภายในสิ้นปีนี้
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า TDRI ได้ให้ข้อเสนอแนะถึงการอำนวยความสะดวกในการขอใบอนุญาตก่อสร้างที่มีปัญหา โดยแบ่งเป็นปัญหา ดังนี้ 1.ไม่เร็ว คือ แหล่งข้อมูลไม่อำนวยในการหาข้อมูลการขออนุญาต
ระยะเวลาในการพิจารณาแบบแปลนนานและมีการแก้ไขหลายครั้ง รวมถึงจํานวนเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันกทม.แก้ปัญหาโดยดำเนินการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายควบคุมอาคาร ตามช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์สำนักงานควบคุมอาคาร ศูนย์วิชาการให้ความรู้ประชาชนด้านกฎหมายอาคาร เช่น คู่มือการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร ฉบับประชาชน เผยแพร่แก่ประชาชน โดยมีรายละเอียด เช่น ข้อกฎหมายที่ ประชาชนมักเข้าใจไม่ถูกต้อง สรุปรายละเอียดกฎหมายให้เข้าใจง่าย รวมถึงปรับปรุงปรับปรุงข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ควบคุมอาคารฉบับใหม่ ให้มีการแบ่งจํานวนวันในการพิจาณาให้เหมาะสมกับประเภทและขนาดของอาคาร รวมทั้งศึกษาการปรับแก้ไขพรบ.ควบคุมอาคารให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถให้ผู้ตรวจเอกชนกระทำการตามกฎหมาย ควบคุมอาคารแทนนายช่างนายตรวจ ได้
2. ไม่ชัด คือ กฎหมายขาดความชัดเจนทำให้เกิดการตีความที่แตกต่างกันและใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ กทม.จึงดำเนินการจัดทําคู่มือการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคารฉบับประชาชน เผยแพร่แก่ประชาชน จัดทําฐานข้อมูลความกว้างเขตทางและลํารางสาธารณะรวมถึงปรับปรุงข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ควบคุมอาคารฉบับใหม่ เช่น การ ออกแบบอาคารด้านต่างๆ ให้ใช้ตามมาตรฐานที่น่าเชื่อถือได้นอกจาก ต้องใช้ตามกฎกระทรวง
3.ไม่เชื่อม คือ การขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ทำให้เกิดภาระต้นทุนแก่ประชาชนในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ด้วยตนเอง กทม.จึงดำเนินการระบบการยื่นขออนุญาตออนไลน์ BMA OSS ที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ดังนี้ สํานักงาน ก.พ.ร. (Digital ID และ Biz Portal) กรมการปกครอง (ทะเบียนบ้าน ทะเบียนบัตร) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD ID, หนังสือรับรองนิติบุคคล) กรมที่ดิน ฐานข้อมูลแปลงที่ดินและโฉนดที่ดิน) สภาวิศวกร (ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรควบคุม) การประปานครหลวง (การขอมิเตอร์ประปา) ส่วนการไฟฟ้านครหลวง สภาสถานปนิกอยู่ระหว่างรอหนังสือตอบกลับ
4. ไม่ทันสมัย คือ ความไม่ทันสมัยของกระบวนการขออนุญาตฯ จําแนกออกเป็นสองส่วน ได้แก่ 1) ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการขออนุญาต 2) ปัญหาการยื่นขออนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ กทม.จึงดำเนินการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายควบคุมอาคารตามช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์สํานักงานควบคุมอาคาร ศูนย์วิชาการให้ความรู้ประชาชนด้านกฎหมายอาคาร รวมถึงศึกษาการนําระบบเทคโนโลยี BIM (Building Information Modeling) มาใช้ในการตรวจแบบแปลนอาคาร
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้แจ้งถึงคำสั่งคณะทํางานขับเคลื่อนการปรับปรุงกระบวนการขออนุญาตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานให้ที่ประชุมทราบ โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ พิจารณา ตรวจสอบ และให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไข ปรับปรุงกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนและกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อลดขั้นตอนในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน หรือลดการใช้ดุลยพินิจเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน รวมถึงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตก่อสร้าง รวมถึงเชิญเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ให้ข้อมูล หรือประสานหน่วยงานหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้จัดส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา
จากนั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณาสรุปรายงานผลการศึกษาโครงการกิโยติน กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ การขออนุญาตก่อสร้างของกรุงเทพมหานคร ที่จัดทำโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) โดยมีข้อแนะนำแนวปฏิบัติของธนาคารโลก ประกอบด้วย 1. กฎหมาย กฎระเบียบต้องมีความชัดเจน มีความทันสมัย ชัดเจนและไม่ซ้ำซ้อนกัน 2. การเข้าถึงข้อมูลทั้งกฎระเบียบ ขั้นตอนกระบวนการพิจารณาอนุญาตต้องมีความโปร่งใส ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลถือเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่จะช่วยลดการทุจริต ลดการใช้ดุลยพินิจและการปฏิบัติงานที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบอนุญาต 3. คุณภาพความปลอดภัยของอาคารต้องมีการควบคุมดูแล ซึ่งรวมถึงกลไกการกํากับดูแลทั้งก่อนการก่อสร้าง ระหว่างการก่อสร้าง และหลังการก่อสร้าง ในหลายประเทศโดยนายตรวจเอกชนทําหน้าที่ควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของโครงสร้างอาคารเพื่อแบ่งเบาภาระหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ 4. การประเมินโครงการก่อสร้างควรแยกตามประเภทความเสี่ยงอาคารแต่ละประเภท (Risk Based Approach) โดยโครงการก่อสร้างอาคารที่มีความเสี่ยงต่ำ เอกสารและรายการที่ใช้ในการพิจารณาอนุมัติก่อสร้างควรจะมีจํานวนน้อยกว่า โครงการก่อสร้างที่มีความซับซ้อนหรือมีความเสี่ยงสูง และ 5. การตั้งหน่วยงานให้บริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ที่ประชาชนสามารถยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างในที่เดียว โดย OSC จะทําหน้าที่ประสานการขออนุญาตกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตก่อสร้างทั้งหมด ซึ่งกทม.จะนำข้อแนะนำฯ ดังกล่าวไปดำเนินการต่อไป