In Bangkok

กทม.ร่วมแถลงจุดยืนย้ำชัดสถานศึกษา ต้อง”ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า”



กรุงเทพฯ-(13 ก.ย.66) นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมงานเสวนาวิชาการเรื่อง ผลการสำรวจความคิดเห็นต่อนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าเสรี และแถลงจุดยืนของกทม. ณ ห้องประชุมกิ่งเพชร โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี

รองปลัดฯ กล่าวว่า กทม.เรามุ่งเน้นในเรื่องของการจัดการควบคุมยาสูบทุกรูปแบบ โดยเฉพาะช่วงหลังเรามุ่งเน้นในเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า เพราะถือว่าเป็นวัตถุต้องห้ามที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว ทั้งผู้ครอบครอง และผู้เสพ ซึ่งจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมยาสูบกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ซึ่งประกอบด้วยภาคีเครือข่ายผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาสูบของกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดเป็นมาตรการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบกรุงเทพมหานคร ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานชุมชนบ้านปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และปลอดภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบอย่างเข้มข้นทั้งการห้ามนำเข้าตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ บารากุ หรือ บารากุไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร และการห้ามจำหน่ายสินค้า ห้ามให้บริการ ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งหมดนี้จะเห็นได้ว่ากรุงเทพมหานครได้ออกกฎหมายควบคุม รวมทั้งให้ความสำคัญกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งใน 226 ข้อตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

รองปลัดฯ เสริมต่อว่า กรุงเทพมหานครได้ออกมาตรการเพื่อควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 แห่ง ตั้งแต่ในเรื่องของการควบคุมโดยสำนักงานเขตไม่ให้มีจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษา มาตรการส่งเสริมความรู้ให้กับนักเรียนเกี่ยวกับความเข้าใจที่ถูกต้อง สนับสนุนและผลิตสื่อความรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียน เสริมสร้างข้อมูลความรู้และอันตรายที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าในแผนการเรียนการสอน ประชาสัมพันธ์เรื่องโทษของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังแจ้งนโยบายดังกล่าวแก่ผู้ปกครองเพื่อขอความร่วมมือไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้าผ่านการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เอกสาร และคลิปวิดีโอสั้นสอดแทรกความรู้ในสื่อต่าง ๆ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยกรุงเทพมหานครและภาคีเครือข่าย อีกทั้งยังออกกฎห้ามไม่ให้ครูหรืออาจารย์สูบบุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน หากพบเห็นจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบเนื่องจากเป็นสถานที่ราชการ

ผลจากการสำรวจความคิดเห็นผู้ปกครองและครูต่อนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าโดยสุ่มเก็บตัวอย่างจากกลุ่มผู้ปกครอง ครู และผู้บริหารโรงเรียน พบว่า 80.7% มีการรับรู้และเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษและก่อสารมะเร็งหลายชนิดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบ และกว่าร้อยละ 95 เห็นด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการควรเร่งให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโทษและพิษของบุหรี่ไฟฟ้า และรัฐบาลควรเร่งปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายทั้งการจำหน่ายหน้าร้านและออนไลน์ รวมทั้งควรคงมาตรการห้ามนำเข้าและและจำหน่ายบุหรี่เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย 

สำหรับการเสวนาในครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร สำนักอนามัย และภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ในการหาแนวทางการป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสังคมปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชน