In Thailand

หลวงพี่น้ำฝนรู้จักพ่อกำนันนกแต่นานแล้ว เหตุเกิดจากบันดาลโทสะขาดสติ



นครปฐม-หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยเคยรู้จักผู้ใหญ่โยชน์ พ่อกำนันนก แต่ไม่เจอนานแล้วที่รู้ชอบทำบุญช่วยสังคม ส่วนกำนันนกไม่เคยเจอ ให้ทางธรรมเหตุการณ์สลดคือบันดาลโทสะ ขาดสติ หากมีการทบทวนจะไม่เกิดปัญหา ชี้อย่าเหมาะรวม กำนัน ผู้ใหญ่ เป็นผู้มีอิทธิพลเป็นคนไม่ดี เพราะชาวบ้านเลือกมาเป็นกระบอกเสียง 

วันที่ 15 กันยานยน 66 จากคดี กำนันนก ผู้ต้องหาในคดียิง สารวัตรแบงก์ ตำรวจทางหลวงนครปฐม เสียชีวิตซึ่งเป็นข่าวดังในรอบปี และมีการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมงานเลี้ยงซึ่งเป็นตำรวจหลายคน โดยเรื่องดังกล่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นพระที่มีชื่อในจังหวัดนครปฐม ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า มีความเห็นหลังจากมีศิษย์และญษติโยมมาสอบถามว่า รู้จักกับกำนันนกหรือไม่ โดยให้ข้อมูลว่า ส่วนตัวไม่รู้จักกับกำนันนก แต่รู้จักกับ ผู้ใหญ่ประโยชน์ ซึ่งเป็นพ่อของกำนันนกมานานแล้วและเป็นคนชอบทำบุญทำกุศล ช่วยเหลือสังคมมาตลอด ทราบว่าเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างมาตั้งแต่อาตมาเพิ่งบวชใหม่ๆ ส่วนเรื่องการการจัดปาร์ตี้ของกำนันนก นั่นไม่เคยทราบเพราะเป็นพระ ซึ่งเพิ่งทราบเรื่องจากข่าว แต่หากมองว่าการกินเลี้ยงของผู้นำชุมชนหากเป็นเรื่องการพบปะกันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ในทุกชุมชน ซึ่งจะต้องมีการเชิญคนที่มีตำแหน่งหรือบทบาทในสังคมไปร่วมงาน เพื่อเป็นเกียรติ 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า หากถามถึงมุมมองเรื่องของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในจังหวัดนครปฐม ที่ผ่านมาวัดกับผู้นำชุมชน ก็จะมีการทำงานร่วมกันอยู่แล้วหลายเรื่องหรือแม้ การเกณฑ์ทหารก็ต้องมีการอาศัยการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งก็มีการประสานงานกับนายอำเภอมาทำงานกันตลอด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยปรากฏเรื่องแบบนี้ ซึ่งกำนัน ก็จะมีหน้าที่ช่วยชาวบ้าน หากจะไปบอกว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านคนนั้น คนนี้ไม่ดี มันต้องดูว่าชาวบ้านก็เลือกมาเหมือนกัน และการปกครองในการทำงานก็มีลำดับชั้นในการทำงาน เช่นกันกับพระอย่างอาตมาก็มีระบบการปกครอง เหมือนกัน แต่หากจะไปโทษว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไม่ดีต้องมองว่าเขาก็คือตัวแทนของชาวบ้านที่ถูกคัดเลือกเข้ามา สำหรับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ถ้าหากมองจากหลักธรรม นี่คือเรื่องของการบันดาลโทสะ หากทำอะไรแล้ว นำหลัก ค ว ย ห คือ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ มาปรับใช้ และทบทวนก่อนก็จะไม่เกิดปัญหาตามที่เป็นข่าวแน่นอน 

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่รัฐบาลกำลังมีนโยบาย เรื่องนี้หากทุกคนทำหน้าที่ดีอยู่แล้วก็จะไม่เกิดกระบวนการในการปราบปรามเกิดขึ้น โดยตั้งแต่อาตมาเป็นเด็ก ก็จะเห็นวิถีชีวิต ว่าในชุมชนก็จะมีผู้ใหญ่บ้านเป็นกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้าน กำนัน คือคนที่ชาวบ้านเลือกเข้ามาจากชุมชนอยู่แล้ว ส่วนคำว่าอิทธิพล เป็นเรื่องของการปฏิบัติตัวที่ไม่ดี จะมีกระบวนการตรวจสอบและดำเนินการอยู่แล้ว ตอนนี้มีหลายคนเริ่มมองว่าในภาพรวมว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนไม่ดี มีอิทธิพล ซึ่งอย่ามองภาพรวมทั้งหมดเป็นแบบนั้นทั้งหมดไม่ได้  

"ต่อคำถามว่า หากจะมีคนบอกว่าอาตมาเป็นพระที่มีอิทธิพล ก็ไม่ใช่เพราะเป็นแค่ชาวบ้านและทำหน้าที่ช่วยสังคมตามหน้าที่พระ ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับถูกโบ้ยว่ามีอิทธิพล ก็ตอบว่าไม่ได้สนใจเพราะเราฟังก็เอามา คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก็จะไม่โกรธและก็มีพระชั้นผู้ใหญ่คอยคุมคุมตามกระบวนการปกครองเช่นกัน จะแหกกฏไม่ได้