In Bangkok
'ชัชชาติ'ยินดีกับทีมผ่านHack BKK2023 พร้อมนำไอเดียต่อยอดTraffy Fondue+
กรุงเทพฯ-“ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมกัน จริงๆแล้วทั้ง 15 ทีม ถือว่าผ่านเข้ารอบทั้งหมด สำคัญที่สุดไม่ใช่การชนะ แต่คือการมีส่วนร่วม การเป็น Active Citizen ที่เข้ามาร่วมในฐานะผู้ที่เห็นปัญหาของเมือง” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวกับ 15 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกในกิจกรรม Hack BKK 2023 ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร โดยวันนี้ (17 ก.ย.66) เป็นการ Pitching Day วันสุดท้ายเพื่อคัดเลือกทีมสุดยอดไอเดีย ที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดสู่ Traffy Fondue+ ร่วมกับกรุงเทพมหานครได้
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมาเมืองพัฒนาไปเยอะมาก เวลาที่คนพูดถึง Smart City หมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาเพิ่มประสิทธิภาพให้เมือง อย่างเช่น Traffy Fondueก็เป็นแอปพลิเคชันที่เปลี่ยนวิธีการทำงานของราชการไปได้เลยจริงๆ กิจกรรมที่เราจัดขึ้นคือการทำให้เป็น Smart City ด้วย และสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่ากทม.กำลังก้าวเข้าสู่การเป็น Smart City แล้ว เพราะเราสามารถเอาข้อมูลมาบริหารจัดการได้ โดยหัวใจคือการเข้าใจว่าปัญหาคืออะไร
กรุงเทพมหานครจัดกิจกรรม Hack BKK 2023 ขึ้น เพื่อเปิดรับแนวคิดจากภาคประชาชนและStart up นำไปสู่การต่อยอดพัฒนา Traffy Fondue สู่ Traffy Fondue+ (ทราฟฟี่ฟองดูว์ พลัส) ให้สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทีมที่ผ่านคัดเลือกเพื่อเข้า Pitching ในวันนี้มีจำนวน 15 ทีม และผลการคัดเลือกแบ่งเป็น 2 Track คือ Track ของ Traffy Fondue ได้แก่ ทีมที่มีผลการนำเสนอสามารถนำไปพัฒนาเป็น Traffy Fondue+ ได้ และ Track ของกรุงเทพมหานคร คือ ทีมที่มีผลงานการนำเสนอที่ตอบโจทย์การพัฒนาระบบการให้บริการของกรุงเทพมหานครให้ดียิ่งขึ้นต่างๆ ผลการคัดเลือก ดังนี้
• Track ของ Traffy Fondue : หัวข้อ “สนุกดี” ได้แก่ ทีม THE PAT และ ทีมWATCH WORK : หัวข้อ “ข้อมูลดี” ได้แก่ ทีม AeraX Valley ทีม AlferBKK ทีม Civic Inspector และ ทีม JPG-TM : หัวข้อ “บริการดี” ได้แก่ ทีม BKKNOW และ ทีม Traffy x Twitter
• Track ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ทีม QUEQ ทีม PAJO ทีม Traffue Fondy และ ทีมV Smart city
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า อีก 3 ทีมที่ถึงแม้จะไม่ได้ผ่านการคัดเลือกแต่สามารถเลือกได้เลยว่าจะร่วมกับกทม.ใน Track ไหน โดยกทม.จะเปิดกว้างให้ ในวันนี้อาจไม่มีรางวัลให้ แต่เมื่อเข้ามาทำงานร่วมกันจริงๆคงต้องดูเรื่องค่าตอบแทนให้เหมาะสม เชื่อว่าทุกทีมจะสามารถเปลี่ยนอนาคตกทม.ได้ เพราะทุกคนมาด้วยความตั้งใจ มีพลัง มีจิตสาธารณะที่จะทำให้เมืองดีขึ้น ถือว่าคือหัวใจหลักของการพัฒนากทม.
รองผู้ว่าฯ ศานนท์ หวังสร้างบุญ ซึ่งได้ร่วมกิจกรรมและซักถามทีมที่ผ่านการคัดเลือกในช่วง Pitching ตลอดทั้งวัน กล่าวว่า กิจกรรม Hack BKK ครั้งนี้เป็นการจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยในปีที่1 มีหลายที ที่ได้มาเข้าร่วม และในปีต่อไปคิดว่าทั้ง 15 ทีม จะได้มาทำงานกับกทม.ต่อ แต่เพื่อให้การทำงานมีความชัดเจน จึงได้แบ่งการประกาศผลเป็น 2 Track โดย Trackแรกคือการร่วมงานโดยตรงกับTraffy Fondue และTrack 2 คือการร่วมกับกทม. เนื่องจากfeatureของระบบอาจไม่ต้องอยู่รวมกับTraffy Fondue เช่น เรื่องของการฝึกอาชีพ หรือวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งบางอย่างคือตรงกับการให้บริการของกทม.
ด้าน ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมพัฒนา Traffy Fondue กล่าวว่า มีหลายทีมที่ได้ช่วยคิดว่าจะพัฒนาให้ไปสู่ Traffy Fondue + ได้อย่างไร ทั้งเรื่องการเชื่อมต่อกับระบบอื่น และการดูแลข้อมูลระบบหลังบ้าน ซึ่งIntegrateได้ดีมากกับTraffy Fondue ปัจจุบัน และเหมาะที่จะเป็น Traffy Fondue +
สำหรับกิจกรรม Pitching Day วันนี้ ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 15 ทีม ต้องนำเสนอแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม และตอบคำถามกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 5 ท่าน ประกอบด้วย คุณศนิ จิวจินดา ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม หัวหน้าทีมพัฒนา Traffy Fondue คุณเมธาวี ทัศนาเสถียรกิจ Ceo&Co - fonduer Vulcan Coalition คุณธัชณวัฒน์ พิริยธนพัท หัวหน้างานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สถาบันวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล คุณปริวรรต วงษ์สำราญ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมและวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
เกณฑ์การให้คะแนน ได้แก่ solutionที่นำเสนอต้องเป็นไปตามโจทย์ของกทม. ความเป็นไปได้ในการเชื่อมต่อระหว่างบริการของกทม.และTraffy Fondue ความสามารถในการทำได้ทันที มีความพร้อมที่จะ Execute ทันที มีLong-term Commitment ในการพัฒนาร่วมกับTraffy Fondue และกทม. เป็นต้น