Health & Beauty
รพ.เด็กสมิติเวชฯเปิดศูนย์โรคภูมิแพ้เด็ก 'ตรวจรักษาแม่นยำจำเพาะบุคคล'
กรุงเทพฯ-รพ.เด็กสมิติเวช สุขุมวิท เปิดศูนย์โรคภูมิแพ้เด็ก อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด“การตรวจรักษาอย่างแม่นยำจำเพาะบุคคลPrecision and Personalized Medicine”เพราะโรคภูมิแพ้ต้องรับการดูแลเฉพาะบุคคลดูแลควบคุมอาการอย่างตรงจุดไม่ให้กำเริบ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องกังวล เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ต้องอาศัยการปรึกษา วางแผนร่วมกัน ระหว่างแพทย์และครอบครัว
พญ.สุรางคณา เตชะไพฑูรย์รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รพ.สมิติเวช และ รพ.บีเอ็นเอช และผู้อำนวยการรพ.เด็กสมิติเวชกล่าวว่า “โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่พ่อแม่เป็นกังวล เพราะบางครั้งอาการกำเริบที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของเด็กๆ ขาดหายไป เนื่องจากจะไม่สามารถทำกิจกรรมประจำวันและเล่นกับเพื่อนได้อย่างเต็มที่ บางคนต้องขาดเรียนบ่อย เรียนไม่ทันเพื่อน หรือบางคนอาการรุนแรงจำเป็นต้องมาโรงพยาบาลและรักษาตัวอยู่ในระยะเวลานาน การได้รับการตรวจวินิจฉัยที่ตรงจุด จะช่วยให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพวางแผนแก้ปัญหารักษาได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดเรื่องของการนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย ฉะนั้นแล้ว ศูนย์โรคภูมิแพ้ฯ นับเป็นทางออกให้กับทุกครอบครัวสอดคล้องไปกับแนวคิดของโรงพยาบาลที่พูดมาตลอดว่า #เราไม่อยากให้ใครป่วยเพราะการได้ตรวจรับคำปรึกษาจากแพทย์ก็จะทำให้รู้ได้ว่าต้องวางแผนปฏิบัติตัวอย่างไร ต้องหลีกเลี่ยงอะไร มีวัคซีนหรือแนวทางป้องกันสุขภาพอย่างไรเพื่อไม่ให้โรคหรืออาการกำเริบ ไม่ต้องป่วยหนัก”
รศ.พญ.พรรณทิพา ฉัตรชาตรี ที่ปรึกษาอาวุโส ศูนย์ภูมิแพ้เด็ก รพ.เด็กสมิติเวช สุขุมวิทกล่าวเพิ่มเติมว่า “ภูมิแพ้เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยตอบสนองผิดปกติต่อสารต่างๆ ที่โดยปกติแล้ว สารนั้นไม่ได้เป็นอันตราย กับร่างกาย เมื่อมีการตอบสนองที่ผิดปกติเกิดขึ้น จึงส่งผลให้แสดงอาการในระบบต่างๆ ได้แก่ ทางเดินหายใจ ผิวหนัง ทางเดินอาหาร มีอาการของโรคเกิดขึ้น เช่น การแพ้อากาศ จาม น้ำมูกเรื้อรัง ผื่นผิวหนังอักเสบ แดง คัน ลมพิษ แพ้อาหาร และภาวะแพ้แบบรุนแรง(anaphylaxis) ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้ โดยสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำให้มีผู้เป็นภูมิแพ้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในเด็กชั้นประถม พบว่ามี อาการของภูมิแพ้ จมูกถึงหนึ่งในสี่คน และในเด็กแรกเกิด พบว่าหนึ่งในห้าคนมีโอกาสเป็นผื่นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของโรคภูมิแพ้ อื่นๆตามมาเมื่อโตขึ้น”
“ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์ได้ก้าวหน้าไปมาก ข้อมูลจากการศึกษาวิจัย ทำให้เราเข้าใจกลไกเชิงลึกของการกำเนิดของโรคได้ดีขึ้น ทำให้การตรวจวินิจฉัยนั้นแม่นยำและรวดเร็วขึ้น การรักษาจึงสามารถทำได้ในเชิงลึกไปถึงสาเหตุที่ตรงจุดของโรค ทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาดีขึ้น ตลอดจนแนวทางการป้องกันก็สามารถทำได้ในเชิงลึกเช่นกัน และได้ผลดีขึ้นด้วย เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน แม้จะมีอาการคล้ายกันหรือเป็นโรคเดียวกัน ก็ต้องการการรักษาที่แตกต่างกันไป การรักษาจึงควรได้รับการออกแบบให้มีความจำเพาะ และเหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล”
ศูนย์โรคภูมิแพ้เด็ก รพ.เด็กสมิติเวช สุขุมวิท มีทีมกุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้ พร้อมด้วยรูปแบบการรักษาที่ทันสมัย เพื่อมอบผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพให้เด็กทุกคนโดยทีมกุมารแพทย์โรคโรคภูมิแพ้ประกอบด้วยรศ.พญ. พรรณทิพา ฉัตรชาตรี ที่ปรึกษาอาวุโสศูนย์ภูมิแพ้, พญ. วรัตดา ปลายเนตร ผู้อำนวยการศูนย์ฯ , ผศ.ดร.นพ. สิระ นันทพิศาล, นพ. นเรศรัตน์ นฤนาทวานิช, พญ. สุฤทัย คูรศิริกุล, พญ.ณุทัยทิพ เกษมศรี ณ อยุธยา
การดูแลรักษาโรคภูมิแพ้เชิงลึก ที่ศูนย์โรคภูมิแพ้เด็ก รพ.เด็กสมิติเวช สุขุมวิท เราให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ต่างๆ ที่มาด้วยอาการต่างๆ ทั้ง แพ้อากาศหรือเยื่อบุจมูกอักเสบ โรคหืด แพ้อาหาร เช่น แพ้นมวัว, แพ้ยา ผื่นลมพิษ ไซนัสเรื้อรัง รวมถึงผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น โดยให้การวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโดยใช้การแพทย์แม่นยำ เพื่อให้การรักษาเชิงลึก และจำเพาะเจาะจง โดยเริ่มจากการตรวจหาสิ่งที่แพ้ให้ทราบสาเหตุที่แน่นอนเพื่อหลีกเลี่ยงได้ถูกต้อง การให้ยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย นอกจากนั้นยังมีการให้การรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัดเพื่อปรับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยให้แพ้น้อยลงได้ รวมถึงการรักษาแบบด้วยยาฉีดแบบมุ่งเป้า สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการมาก จำเป็นต้องใช้ยาที่มุ่งเป้าไปที่กลไกจำเพาะที่ก่อให้เกิดอาการโดยตรง
วิทยาการและเทคโนโลยีการรักษาโรคภูมิแพ้แบบเฉพาะเจาะจงของศูนย์
การตรวจการแพ้สารก่อภูมิแพ้ และส่วนประกอบของสารก่อภูมิแพ้โดยละเอียด (Component-resolved diagnostics) ซึ่งสามารถตรวจได้ละเอียดถึงองค์ประกอบของสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิด ว่าผู้ป่วยแพ้องค์ประกอบใดของสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ ซึ่งจะให้ข้อมูลโดยละเอียด มีประโยชน์ในการวางแผนการรักษาและการหลีกเลี่ยงของที่แพ้ให้ตรงจุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีการแพ้สารก่อภูมิแพ้หลายชนิด หรือแพ้อาหารหลายชนิด
การรักษาแบบปรับภูมิคุ้มกัน (Immunotherapy) เป็นการรักษาสำหรับโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจและการแพ้อาหาร โดยให้ ได้รับสารที่แพ้ทีละน้อย ในระดับที่ปลอดภัย เพื่อให้เกิดการกระตุ้นภูมิที่เหมาะสม จะสามารถปรับภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยให้แพ้น้อยลงได้
การทดสอบการแพ้อาหารโดยการรับประทาน (Oral food challenge) เพื่อให้ทราบชนิดของอาหารที่แพ้ และ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหากได้รับอาหารที่แพ้ รวมถึงปริมาณอาหารที่ผู้ป่วยสามารถรับได้ และ ปริมาณอาหารที่ทำให้มีอาการแพ้เกิดขึ้น
การรักษาด้วยยาชีวโมเลกุล (Biologic drug) ใช้ยาที่มุ่งเป้าไปที่กลไกจำเพาะที่ก่อให้เกิดอาการโดยตรง สามารถช่วยลดอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป้นการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการรุนแรง