Health & Beauty

APCOสร้าง'วัฒนชีวา'สารสกัดเสริมฤทธิ์ จากอาหารไทยชะลอวัยจัดการมะเร็ง



กรุงเทพฯ-คนไทยมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยและเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs  อันได้แก่เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนลงพุง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โดยสถิติสถานการณ์สุขภาพคนไทย 10 ปีย้อนหลังระหว่างปี พ.ศ.2553-2562 พบว่าคนไทยมีแนวโน้มเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงขึ้น 2.4 เท่า ที่น่าสนใจคือ คนในเขตเมืองมีแนวโน้มเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ มากกว่าคนนอกเขตเมือง ด้วยสาเหตุจากการดำเนินชีวิตและสภาพแวดล้อม กับพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่นการบริโภคที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น หวานจัด เค็มจัด ไขมันสูง อาหารปิ้งย่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่  นอนดึก ภาวะเครียดสูง และไม่ออกกำลังกาย เป็นต้น

ภาระที่ติดตามมา คือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสำหรับกลุ่มโรคร้ายแรง  เริ่มต้นจากราคาเป็นหมื่นและขยับขึ้นเป็นแสน เช่น ค่ารักษาพยาบาลโรคมะเร็ง เริ่มตั้งแต่ 300,000 บาท -  8,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับอาการและระยะของโรค แต่ถ้าเราสามารถหาทางป้องกันโรคร้ายเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูง ด้วยการปรับพฤติกรรมลดความเสี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดโรคได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ง่ายๆ  เช่นการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายและถูกกับโรคจะช่วยควบคุมไม่เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคได้ หรือเป็นการรักษาโรคได้เช่นกัน

ฮิปโปเครติส บิดาทางการแพทย์ของชาวกรีกกล่าวไว้เมื่อ 2500 ปีมาแล้ว “จงทำให้อาหารเป็นยา  Let Food be thy Medicine”  อีกทั้งจากข้อมูลของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) มีข้อมูลที่ชัดเจนจากหลายงานวิจัยพบว่า การรับประทานผักผลไม้จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่  การลดการกินเนื้อแดง เนื้อปิ้งย่าง รวมไปถึงการปรับพฤติกรรมการกิน จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรค

ทั้งนี้ ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM  ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ จากความคิดนอกกรอบของทีมนักวิทยาศาสตร์ APCO ตั้งแต่เริ่มต้นได้ดำเนินการวิจัยในเรื่องของการใช้อาหารเป็นยารักษาโรคและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 40 ปี จนประสบความสำเร็จในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคเอดส์ ด้วยแนวคิดในการใช้อาหารดูแลสุขภาพ เป็น Alternative Medicine ซึ่งในปัจจุบันหลายหน่วยงานด้านสาธารณสุขก็หันมาปรับใช้วิธีนี้ และองค์กรอนามัยโลกก็ให้ความสำคัญในการรักษาด้วยวิธีที่ปลอดภัย  จัดว่าเป็นแนวทางของการใช้ Biologically Based Therapies เป็นการใช้พืชธรรมชาติ อาหาร วิตามิน ต่างๆ ในการแก้อาการเจ็บป่วย ทานอาหารเพื่อสุขภาพทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน มีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น การสร้างสุขภาพที่ดีเป็นการป้องกันโรคและพัฒนาสุขภาพผู้ป่วยด้วยการใช้อาหารเป็นยา  ซึ่งเราสามารถช่วยผู้คนให้หายจากโรคได้มากมายด้วยการใช้อาหารเป็นยารักษาโรค  นับว่าเป็นสิ่งที่ประเทศไทยทำได้และทำได้ดี”   

ทั้งนี้ เชิญชวนคนไทยร่วมสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจให้แข็งแรงด้วย “วัฒนชีวา” เป็นงานวิจัยนวัตกรรมแห่งชาติที่คิดค้นพัฒนามาอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบโดยนักวิทยาศาสตร์ไทย ผลิตจากสารสกัดเสริมฤทธิ์จากพืชธรรมชาติไทย 5 ชนิด ได้แก่ มังคุด  งาดำ  ถั่วเหลือง ฝรั่ง ใบบัวบก ให้ทำงานกับเม็ดเลือดขาว เป็นนวัตกรรมที่ใช้วิทยาการล่าสุดในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันลงลึกถึงระดับโครโมโซมเพิ่มความยาวเทโลเมียร์ ช่วยย้อนวัยชะลอวัย โดยมีความแตกต่างจากวิทยาการอื่นๆ คือสามารถรักษาโรคมะเร็งและในขณะเดียวกันก็ป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งด้วยเช่นกัน โดยมีข้อมูลที่ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความปลอดภัยต่อร่างกายชัดเจน สามารถรับประทานได้ในปริมาณมากต่อเนื่องตลอดไปโดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย  และส่งผลให้อายุยืนพร้อมเชิญชวนตั้งเป้าหมายร่วมกันในการมีอายุยืน 100 ปี เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ดูแลตนเองได้อย่างมีความสุข

ซึ่งหากเราสามารถปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกินได้ ด้วยการกินอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย ออกกำลังกายเป็นประจำ ปรับความคิดใส่ใจกับชีวิตความเป็นอยู่ดูแลสุขภาพจิตใจให้แข็งแรง จะช่วยส่งผลให้ให้คนไทยปลอดภัยลดความเสี่ยงจากกลุ่มโรคร้ายแรง ลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตได้ในระยะยาว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมวัฒนชีวา Hotline: 1154  โทร 02 646 4899 www.mylife100club.com  FaceBook : ชีวี100ปีมีสุข   LINE : @mylife100society