In News
'รองสมศักดิ์'สั่งกำชับ'ผู้ว่าฯแพร่-สุโขทัย' ระวังมวลน้ำคืนนี้/ธรรมนัสลุย3จว.เหนือ
กรุงเทพฯ-“สมศักดิ์” ต่อสายตรง หา “ผู้ว่าฯแพร่” รับฟังสถานการณ์น้ำ พร้อมกำชับ จังหวัดสุโขทัย เตรียมความพร้อม จับตามวลน้ำคืนนี้ ขณะที่'ธรรมนัส'ลุย3จังหวัด'ลำปาง แพร่ สุโขทัย'ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
วันที่ 30 กันยายน 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ลงพื้นที่จังหวัดแพร่ จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้โทรศัพท์ไปติดตามสถานการณ์น้ำท่วมกับ นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ โดยได้รับฟังสรุปสถานการณ์แล้ว นอกจากนี้ ตลอดทั้งวัน ตนยังได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงคมนาคม กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ให้เร่งลงพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อจะได้มาสรุปแนวทางการทำงานร่วมกัน ในวันพรุ่งนี้ (1 ตุลาคม) ที่ตนจะลงพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยจะช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาแนวทางแก้ไขทั้งระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงการวางกรอบงบประมาณในการแก้ปัญหาน้ำท่วมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างเร่งด่วน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนยังได้กำชับไปยัง นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย และนายมนู พุกประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย เพื่อให้ติดตามสถานการณ์น้ำที่จะไหลจากจังหวัดแพร่ ผ่านแม่น้ำยม มายังจังหวัดสุโขทัย ซึ่งคืนนี้ ต้องยอมรับว่า มีความเสี่ยงที่น้ำจะท่วม เพราะเวลานี้ระดับน้ำค่อนข้างสูง จึงขอให้ทุกภาคส่วนในจังหวัดเตรียมรับมือให้พร้อม
“ผมจะเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะผมทราบดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งหากมีสถานการณ์เร่งด่วน ผมจะรีบสั่งการทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
"รองสมศักดิ์"บินด่วนดูน้ำท่วมสุโขทัย
ล่าสุด วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เมื่อเวลา 08.30 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ โดยจุดแรก ได้เดินทางไปตรวจประตูระบายน้ำแม่น้ำยม บ้านหาดสะพานจันทร์ อำเภอสวรรคโลก พร้อมร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจังหวัดสุโขทัย กับนายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายก อบจ.สุโขทัย นางสาวประภาพรทองปากน้ำ สส.สุโขทัย นายจักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส.สุโขทัย และหัวหน้าส่วนราชการ
โดยนายสุชาติ กล่าวรายงานสรุปว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดสุโขทัย เริ่มมีความน่าเป็นห่วงตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพราะมีฝนตกเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีน้ำป่าไหลมาจากจังหวัดรอบข้าง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำในจังหวัดเวลานี้ อยู่ในจุดที่ต้องเฝ้าระวัง โดยขณะนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 42 ตำบล 165 หมู่บ้าน 1,365 ครัวเรือน รวมถึงมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 2,483 ไร่ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อม ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการอย่างเร่งด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง กระทรวงมหาดไทย ได้เร่งลงพื้นที่แล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้รายงานสถานการณ์และสรุปในเบื้องต้นให้รับฟังแล้ว ซึ่งขณะนี้ มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 1,365 ครัวเรือน เป็นพื้นที่กว่า 62,000 ไร่ ส่วนเรื่องการช่วยเหลือชาวสุโขทัย ในเรื่องการอพยพนั้น ยังมีน้อย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ มวลน้ำ ที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ โดยจากรายงานปริมาณน้ำของวันนี้ เมื่อเทียบกับของเมื่อวานที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า สูงขึ้น จาก 880 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มอีก 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมวลน้ำทั้งหมด จะไหลมารวมอยู่ที่จังหวัดสุโขทัย นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางจังหวัดสุโขทัย ก็พยายามปล่อยน้ำออกทางด้านซ้ายของแม่น้ำยมเป็นหลัก ซึ่งสามารถปล่อยได้ 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนในวันพรุ่งนี้ ตนได้รับรายงานว่า น้ำน่าจะเพิ่มขึ้นอีก 350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจจะส่งผลกระทบให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอเมือง ยังพบดินสไลด์ริมตลิ่ง ความยาวกว่า 100 เมตร โดยผู้ว่าฯได้นำเอาบิ๊กแบ๊คมากั้นเรียบร้อยแล้ว คาดว่า วันนี้จะสามารถหยุดการไหลของน้ำเข้าในพื้นที่ของอำเภอเมืองได้
“หลังจากนี้ ผมและคณะ จะเดินทางไปจังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากท่านนายกฯ มีความเป็นห่วงมาก จึงได้กำชับให้ผมรีบลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ในช่วงเย็นวันนี้ ผมจะกลับมาประชุมที่จังหวัดสุโขทัยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสรุปแนวทางทั้งหมด นำไปเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยขอยืนยันว่า ผมทำงานการเมืองมา 40 ปี เห็นปัญหานี้มาโดยตลอด ซึ่งจะพยายามแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
'ธรรมนัส'ลุย3จังหวัด'ลำปาง แพร่ สุโขทัย'ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ด้านร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งแจกถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ณ เทศบาลตำบลแม่ปุ อ.แม่พริก และบ้านต้นธง อ.เมือง จ.ลำปาง
สำหรับจังหวัดลำปาง มีพื้นที่ 7,833,726 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม 1,036,512 ไร่ หรือร้อยละ 13.23 พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง สับปะรด ส้มเกลี้ยง และยางพารา ซึ่งในช่วง 27 - 30 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา เกิดในตกหนัก น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตร จำนวน 8 อำเภอ 35 ตำบล 144 หมู่บ้าน ปัจจุบันมีการประการเขตภัยพิบัติ จำนวน 5 อำเภอ
"สิ่งสำคัญที่ต้องกลับมาคิดคือการแปรรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ที่ต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งในเรื่องภัยแล้งและน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ได้มอบหมายกรมชลประทานจัดเตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือราษฎรแต่ละพื้นที่ และบูรณาร่วมกับส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมสั่งให้จัดทำแผนการดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ และในภาพรวมของจังหวัด ตรงไหนที่สามารถเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำได้ให้ดำเนินการทันที” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2567 กรมชลประทานมีแผนดำเนินการในการสร้างอ่างเก็บน้ำ จำนวน 2 แห่ง และแก้มลิ้ง 2 แห่ง เพื่อเก็บกักน้ำในพื้นที่ต้นน้ำและลุ่มน้ำสาขา อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือทางด้านการเกษตรและบรรเทาอุทกภัย
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและแจกถุงยังชีพ ณ อ่างเก็บน้ำแม่แย้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.แพร่ และประตูระบายน้ำ หาดสะพานจันทร์ จ.สุโขทัย ด้วย