Think In Truth
เพื่อนบ้านเดือดร้อน...จะย้อนกลับมารังแก โดย หมาเห่าการเมือง
ประเด็นดรามาของเพื่อบ้านรอบข้างประเทศไทย ทุกประเทศประสบปัญหาอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นพม่า ก็ประสบปัญหาด้านการเมืองภายในประเทศ สปป.ลาว ก็ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และกัมพูชาก็ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ มีพรมแดนที่ติดกับประเทศไทยตลอดแนว ตั้งแต่ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และตลอดแนวทางตะวันตก
เมื่อประเทศเพื่อนบ้านประสบปัญหาภายใน ก็จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย เป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะกัมพูชา ถึงแม้ว่าท่านนายกรัฐมนตรีไทย นายเศรษฐา ทวีสิน พึ่งเดินทางไปเยือนมา แต่ก็มีดรามาในประเด็นวัดภูม่านฟ้า ที่กัมพูากล่าวหาในหลายประเด็น
- ประเด็นการลอกเลียนแบบ เพราะวัดภูม่านฟ้า มีลักษณะคล้ายคลึงกับนครวัด ซึ่งเป็นปราสาทหินโบราณที่มีชื่อเสียงของกัมพูชา ชาวกัมพูชาจึงมองว่าการสร้างวัดภูม่านฟ้าเป็นการลอกเลียนแบบวัฒนธรรมของกัมพูชาโดยไม่ขออนุญาต เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ทางวัฒนธรรม และเป็นการทำลายเอกลักษณ์ของนครวัด
- ประเด็นการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว นครวัดเป็นมรดกโลกที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกัมพูชา การสร้างวัดภูม่านฟ้าในไทย จึงถูกมองว่าเป็นการเลียนแบบนครวัดเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เป็นการแย่งชิงนักท่องเที่ยวจากกัมพูชา และอาจส่งผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของกัมพูชา
ซึ่งวัดภูม่านฟ้า ตั้งอยู่ในอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งทางกัมพูชาได้กล่าวหาว่า วัดภูม่านฟ้าที่ก่อสร้างดูคล้ายคลึงกับนครวัด จะส่งผลปัญหา ดังนี้
- ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กัมพูชาได้ยื่นคำร้องต่อองค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) เพื่อเรียกร้องให้มีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของนครวัด การสร้างวัดภูม่านฟ้าอาจทำให้คำร้องของกัมพูชาอ่อนแอลง
- ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การสร้างวัดภูม่านฟ้าอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา กัมพูชาอาจมองว่าไทยไม่เคารพวัฒนธรรมของกัมพูชา และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศได้
นั่นก็เป็นประเด็นที่กำลังไวรัลกันหนักมากในโลกโซเชียลมีเดียร์ ที่มีประชาชนทั้งสองประเทศมีการโต้ตอบกันหนักมาก ซึ่งก่อนการแข่งขันกีลาซีเกมส์ ก็เกิดวิวาทะในหลายประเด็นมาก่อนหน้าแล้ว ไม่ว่าการเคลมวัฒนธรรม การเคลมชุดประจำชาติ รวมไปจนถึงการบิดเบือนประวัติศาสตร์ จนประเทศไทยได้เสนออุทยานประวัติศาสตร์ศรีทพต่อ UNESCO และได้รับฉันทามติยกอุทธยานประวัติศาสตร์เมืองศรีเทพ เป็นมรดกโลก และมีอายุที่นาวนานมากกว่านครวัด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ประเทศกัมพูชาหยุดในความพยายามที่จะต่อต้าน และคัดค้านในการสร้างวัดภูม่านฟ้า ทั้งที่รัฐบาล และกระทรวงวัมนธรรมกัมพูชาได้ทำหนังสือชี้แจงว่า วัดภูม่านฟ้าไม้ได้ลอกเลียนแบบนครวัดแต่อย่างได
อีกประเทศเพื่อบ้านอีกประเทศหนึ่งก็เช่นกัน ซึ่งเมื่อก่อนก็มีนักวิชาการลาวคนหนึ่ง พยายามที่จะสื่อประวัติศาสตร์ไทย-ลาว ที่บิดเบือน จากกลายเป็นวิวาทะกันทางประวัติศาสตร์ระหว่างคนไทยกับนักวิชาการลาวคนนั้นอย่างหนัก ซึ่งก่อให้ประชานบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจ เกิดการชิงชังซึ่งกันและกัน และสร้างประเด็นวิวาทะกันมาโดยตลอด แต่ก็มีประชาชนคนลาวส่วนหนึ่งก็ออกมาโต้ตอบกลุ่มคนลาวที่มีวิวาทะกับคนไทย โดยเฉพาะแรงงานชาวลาวที่ทำงานในประเทศไทย
จนมาถึงวันหนึ่ง บริษัท ปตท. ลาว ได้ออกหนึ่งสือชี้แจงเรื่องแนวโน้มของการขาดแคลนพลังงาน ซึ่งทำให้ประชาชนลาวมีความแตกตื่นต่อการขาดแคลนพลังงาน จงทำให้เจ้าหน้าที่ลาวได้จับตัวผู้จัดการและรองผู้จัดการ บริษัท ปตท.ลาว และผลักดันให้ออกนอกประเทศ ด้วยข้อหาชี้แจงไม่ผ่านเจ้าหน้าที่ลาว ประเด็นนี้ทางการไทยก็ไม่พยายามที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพื่อรักษาระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ปัญหาก้เกิดขึ้นคือ ประชาชนลาวในกลุ่มที่ไม่เห้นด้วยและเห็นใจบริษัท ปตท. ลาว ได้ออกสื่อโซเชียล โจมตีรัฐบาลลาว ที่กระทำกับ บริษัท ปตท.ลาว ซึ่งมันเป็นความเปราะบางที่จะทำให้ประเทศไทยอาจจะดำเนินนโยบายโต้ตอบ(แต่ก็เชื่อรัฐบาลจะไม่เข้ามาเป็นสื่อกลางให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องของบริษัทเอกชน กับ รัฐบาลลาว) และทางบริษัท ปตท.ลาว ก็ได้ชี้แจงในประเทศลาวอีกว่า บริษัท ปตท. อาจจะพิจารณาจะไม่ส่งน้ำมันเชื้อไฟ(เพลิง) เข้ามาให้บริการในลาว(จากสื่ออิสระ Want to Tell ของ สปป.ลาว) และในช่องสื่อสารอิสระช่องดังกล่าว ยังบอกอีกว่า นายกรัฐมนตรีไทย(นายเศรษฐา ทวีสิน) ถึงจะมีนโยบาย วีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของลาว แต่นายกรัฐมนตรีไทยจะดำเนินนโยบายนี้เพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น ซึ่งจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของลาวเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่มาตรการวีซ่าฟรีของไทยสิ้นสุดลง สถานการณ์การท่องเที่ยวของลาวก็จะเป็นปกติเช่นเดิม
ส่วนปัญหาที่กระทบจากประเทศพม่านั้น ยังคงเป็นเพียงการสู้รบตามแนวชายแดน ซึ่งประเทศไทยก็คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากมีมาตรการตั้งรับการอพยบประชาชนพม่าที่เกิดจากภัยสงคราม และมาตรการผลักดันการสู้รบภายในประเทศพม่า ให้ออกห่างจากชายแดนไทยพม่า ให้ห่างออกไป
การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาล ควรต้องมีมาตรการรองรับ กับการกระทบกระทั่งระหว่างประเทศเพื่อบ้านกับประเทศไทย ดังนี้
- ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อบ้าน เพื่อหารือหาทางออกร่วมกัน รัฐมนตรีควรพยายามทำความเข้าใจถึงสาเหตุของความตรึงเคียดที่เกิดขึ้น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้
- ใช้สถานะของประเทศไทยในฐานะมิตรประเทศของประเทศเพื่อนบ้านเพื่อไกล่เกลี่ย ไทยควรใช้ความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อบ้านเพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา รัฐมนตรีอาจเชิญเจ้าหน้าที่ของประเทศเพื่อนบ้านมาพูดคุยหารือร่วมกันที่ประเทศไทย เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ และหาแนวทางในความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน
- ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประกอบการของกันและกัน ควรให้ความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการของทั้งไทยและประเทสเพื่อนบ้าน ว่าไทยจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ อาจพิจารณาการทบทวนข้อตกลงการลงทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในภูมิภาค
จากข้อมูลข่าวสารในโลกโซเชียลมีเดียร์ ของสื่ออิสระในประเทศอาเซี่ยน ส่วนใหญ่ จะวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก เช่น นายกรัฐมนตรีมีมาตรการให้วีซ่าฟรีกับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีน มีความสนใจและจะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ถึง 6000% ซึ่งตัวเลขความนิยมในการท่องเที่ยวไทยของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นแรงกดดันให้เกิดวิวาทะของคนไทยกับประชาชนบางส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่ไทยจำเป็นต้องดำเนินนโยบายในการสร้างความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน และร่วมกันพัฒนาประชาชนให้มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังร่วมมือกันในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ด้วยการร่วมลงทุนการท่องเที่ยวร่วมกัน เมื่อประเทศไทย เป็นผู้นำในการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศในภูมิภาคอาเซียน ความเหนียวแน่นในความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคอาเซียนจะเหียวแน่นยื่งขึ้น ความร่วมมือในการพัฒนาในทุกๆ ด้านในอนาคตก็จะมีประสิทธิภาพที่จะนำไปสู่ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศในภูมิภาคอาเชียนก็จะมากขึ้นตามมา