In Global
บริดจสโตนชูเทคโนโลยีENLITEN® แข่งขันมอเตอร์สปอร์ตด้วยวัสดุรีไซเคิล
โตเกียว] (5 ตุลาคม 2566)-บริดจสโตนประกาศสนับสนุนยางรถยนต์ที่พัฒนาด้วยวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ถึง 63%*2แก่ทีมผู้เข้าแข่งขันในรายการ Bridgestone World Solar Challenge(การแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์) ซึ่งยางรถยนต์ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบโจทย์การใช้งานสุดท้าทายบนระยะทางรวม 3,000 กิโลเมตรในประเทศออสเตรเลีย ถือเป็นการนำเทคโนโลยีENLITEN®มาใช้ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้บริดจสโตนยังมุ่งให้การสนับสนุนด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตซึ่งผู้ขับขี่ต้องเผชิญกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมสุดท้าทายด้วยความภาคภูมิใจและความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งของบริดจสโตนที่มีต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การผลิต การขนส่ง ความแข็งแกร่งของแบรนด์ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพในวงการมอเตอร์สปอร์ต บริดจสโตนฉลองครบรอบ 60 ปีในวงการมอเตอร์สปอร์ตในปีค.ศ. 2023 และมุ่งมั่นสนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตสู่ความยั่งยืน
-“ENLITEN®” เทคโนโลยีใหม่ของบริดจสโตนสำหรับการออกแบบยางรถยนต์พรีเมียมในยุครถยนต์ไฟฟ้า
บริดจสโตนได้พัฒนายางรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับการแข่งขันในรายการ 2023 Bridgestone World Solar Challengeด้วยเทคโนโลยี ENLITEN®ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวได้ยกระดับยางรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน
ด้วยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่ยังคงสมรรถนะด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและตลาดด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เป็นองค์ประกอบของ ENLITEN®ทำให้บริดจสโตนสามารถส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าและสังคมซึ่งยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีENLITEN®ในการแข่งขันรายการ
Bridgestone World Solar Challengeได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยตอบโจทย์การขับขี่รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์อย่างเต็มสมรรถนะให้ทีมผู้เข้าแข่งขัน*3 บนระยะทาง 3,000 กิโลเมตร เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยลดความต้านทานการหมุนของยางรถยนต์ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนาน และทำให้ยางรถยนต์มีน้ำหนักเบา บริดจสโตนจะออกแบบยางรถยนต์ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์เฉพาะบนพื้นฐานความต้องการของทีมผู้เข้าแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อย่าง ENLITEN®และดึงสมรรถนะที่เหนือชั้นของยางรถยนต์ออกมา นอกจากนี้เรายังพัฒนาและส่งมอบยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีENLITEN®ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับลูกค้าผ่านการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตและการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
-ยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challengeถูกพัฒนาด้วยวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ถึง 63%
บริดจสโตนกำลังจัดเตรียมยางรถยนต์ที่มีสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่(MCN – Material Circularity Number)ถึง 63%เมื่อเทียบกับการแข่งขันรายการBridgestone World Solar Challengeประจำปี ค.ศ. 2019 มีประมาณ 30% วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ที่ใช้ในการพัฒนายางรถยนต์ประกอบด้วย เส้นใยอินทรีย์รีไซเคิล คาร์บอนแบล็กรีไซเคิลยางสังเคราะห์รีไซเคิลน้ำมันรีไซเคิล และวัสดุเสริมความแข็งแรงจากเหล็กรีไซเคิล นอกจากนี้ยางรถยนต์ที่ใช้กับการแข่งขันในคลาส Cruiserยังได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมโดยใช้ซิลิกาจากแกลบข้าวและคาร์บอนแบล็กซึ่งผ่านกระบวนการไพโรไลซิสของยางรถยนต์ที่ใช้แล้ว
-ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการขนส่งยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge
สำหรับการขนส่งยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challengeบริดจสโตนได้ร่วมมือกับ DHL บริษัทชั้นนำผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ด้วยการบรรลุเป้าหมายปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ.2050 การใช้โซลูชั่น GoGreen Plus*4ของ DHLจะทำให้การขนส่งยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันดังกล่าวเป็นกลางทางคาร์บอน 100%ผสานกับการใช้เชื้อเพลิงทางการขนส่งทางเรือ (การลดคาร์บอนแบบอินเซ็ต: insetting) และการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน VER Gold Standard carbon credits(การชดเชยคาร์บอน:offsetting)
“บริดจสโตนมุ่งมั่นสนับสนุนอนาคตของการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตสู่ความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้ ในการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challengeซึ่งเราสนับสนุนยางรถยนต์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีENLITEN®และถูกพัฒนาด้วยวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนนำกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 63%เช่นเดียวกับความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทาน เรามีความตั้งใจที่จะนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ผ่านสถานการณ์การแข่งขันสุดท้าทายนี้” Naotaka Horioผู้อำนวยการบริดจสโตนมอเตอร์สปอร์ต กล่าว “นอกจากนี้ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันดังกล่าว เรายังต้องการส่งเสริมเหล่าวิศวกรรุ่นใหม่จากทั่วโลก ให้สร้างสรรค์เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อใช้ในการแข่งขันด้วยซึ่งพวกเขายังสามารถมีบทบาทในสังคมการเดินทางที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต”
บริดจสโตนมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์สู่ปี ค.ศ.2050เพื่อส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กร ผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืนโดยเราให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นแกนหลักในการบริหารและการดำเนินธุรกิจการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challengeนับเป็นอีกหนึ่งบทบาทในการเดินทางของการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตซึ่งรวมเข้ากับโซลูชั่นที่ยั่งยืนสำหรับอนาคตต่อไป*5
การแข่งขันรายการBridgestone World Solar Challengeสอดคล้องกับ “ด้าน Energy (พลังงาน)”และ “ด้าน Emotion (ความรู้สึก)”ใน Bridgestone E8Commitment(พันธสัญญา E8ของบริดจสโตน) ซึ่งแสดงถึงเจตนารมณ์ของบริดจสโตนสู่การสร้างสังคมแห่งการเดินทางที่เป็นกลางทางคาร์บอน(Energy) และปลุกพลังบันดาลใจเติมเชื้อไฟแห่งความตื่นเต้นสู่โลกแห่งการเดินทาง (Emotion)
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ ที่ประเทศออสเตรเลีย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.bridgestone.co.jp/bwsc/ และ https://worldsolarchallenge.org/
*2 ข้อมูลดังกล่าวได้รับการรับรองโดย Bridgestone Corporation
*3 บริดจสโตนสนับสนุนทีมผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันรายการ 2023 Bridgestone World Solar Challenge สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.bridgestone.com/corporate/news/2023060501.html
*4โซลูชั่น GoGreen Plusของ DHLสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dhl.com/jp-ja/home/global-forwarding/products-and-solutions/gogreen-solutions.html
*5ความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ระยะยาวสู่ปี ค.ศ.2030 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.bridgestone.com/ir/library/strategy/pdf/ENG_lsa20220831.pdf
*6กลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนได้กำหนด “Bridgestone E8 Commitment(พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)"เพื่อช่วยให้บรรลุวิสัยทัศน์: "สู่ปีค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้า
ในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน"ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่ไป กับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต “Bridgestone E8 Commitment(พันธ สัญญา E8 ของบริดจสโตน)"ประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้านของบริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร"E" (ด้าน Energy (พลังงาน), ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม), ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ),ด้าน Extension (การเติบโต),ด้าน Economy (เศรษฐกิจ), ด้าน Emotion (ความรู้สึก), ด้าน Ease(ความสะดวกสบาย)และด้าน Empowerment(พลังทางสังคม)ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนงและ กระบวนการทำงานร่วมกับพนักงานสังคมพันธมิตรและลูกค้าเพื่อสังคมที่ยั่งยืน