In News
มอเตอร์เวย์ไปโคราชเลื่อนอีกเปิดมิ.ย.68 คืบ92%ช่วงปีใหม่เปิดให้ใช่ก่อน80กม.
กรุงเทพฯ-กรมทางหลวง ตรวจความพร้อมก่อนเปิดให้บริการบางส่วน มอเตอร์เวย์หมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ระยะทาง 80 กิโลเมตร ปลายเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ขณะที่สายตะวันตก ผู้ตรวจราชการ กระทรวงคมนาคม ตรวจติดตามการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ M82 ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมทางหลวง (ทล.) ได้กำกับ ติดตาม และลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงปากช่องถึงถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ทล.204) ประกอบด้วย โครงการฯ ตอน 34 ตอน 39 ตอน 40 ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางสีคิ้ว ด่านเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางขามทะเลสอ และโครงการทางแยกต่างระดับเชื่อมทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - นครราชสีมา กับทางหลวงชนบทหมายเลข นม.1120 (ถนนสุรนารี 2) เพื่อเร่งรัดการก่อสร้างและพิจารณาความพร้อมทุกด้านในการเพิ่มระยะทางของเส้นทางอีก 16 กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมา ทล. ได้เปิดให้ใช้เส้นทางชั่วคราวสำหรับเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลสงกรานต์ บริเวณ ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทล. คาดว่าจะเปิดให้บริการบางส่วนบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ - ถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (ทล.204) รวมระยะทาง 80 กิโลเมตร ทั้ง 2 ทิศทาง (ขาไปและขากลับ) ตลอด 24 ชั่วโมง ในปลายเดือนธันวาคม 2566 เพื่อรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 และอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร โดยงานโยธาแบ่งการก่อสร้างเป็น 40 ตอน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 28 ตอน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 12 ตอน และจะดำเนินการแล้วเสร็จในปีนี้อีก 2 ตอน ปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้า 92% (สรุป ณ เดือนกันยายน 2566) คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จตลอดสายทางในเดือนมิถุนายน 2568 เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จะช่วยเติมเต็มโครงข่ายการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ เปิดประตูการค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ใช้ทางสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)
กระทรวงคมนาคม ตรวจติดตามการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก และโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ M82 ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว
นายมนตรี เดชาสกุลสม ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับตรวจสอบความปลอดภัยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจติดตามการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 2 และ 3 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จากกรณีเรื่องร้องเรียนปัญหาน้ำท่วมชุมชนป้าแดง จากสภาองค์กรของผู้บริโภค และการตั้งข้อสังเกตงานก่อสร้างบนถนนพระรามที่ 2 ของนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ M82 ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว ของกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อตรวจสอบและกำกับการดำเนินงานการก่อสร้างตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำจีน รวมทั้งรับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องจากประชาชน ในพื้นที่ โดยมี คณะกรรมการกำกับตรวจสอบความปลอดภัยโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม ผู้บริหาร ทล. กทพ. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566
จากลงพื้นที่พบว่าสภาพแวดล้อมชุมชนป้าแดงเป็นชุมชนที่หนาแน่นมีลักษณะเป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำ ตั้งอยู่ด้านหลังโรงแรมมดอินน์ มีพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ มีบ้านเรือนราษฎรกว่า 100 หลังคาเรือน ลักษณะการระบายน้ำของชุมชนจะระบายลงท่อระบายน้ำในพื้นที่ของ กทพ. ลงสู่คลองระบายน้ำใกล้กับด่านฯ ดาวคะนอง แนวท่อระบายน้ำดังกล่าวจะผ่านช่วงที่มีการก่อสร้างเสาเข็มของโครงการฯ ปัจจุบันมีการขุดเปิดหน้าดินทำให้น้ำไม่สามารถระบายผ่านลงคลองได้ โครงการฯ มีแผนการก่อสร้างเสาเข็มและฐานรากในบริเวณดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 และจะจัดทำแนวร่องระบายชั่วคราวคืนให้กับชุมชนต่อไป
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ผู้รับจ้างได้ทำแนวการผันน้ำชั่วคราวไปยังบริเวณหน้าโรงแรมมดอินน์ และตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง เพื่อระบายน้ำออกสู่คลองระบายน้ำฝั่งด่านฯ ดาวคะนอง เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการสูบน้ำออกจากพื้นที่ชุมชน โดยใช้เครื่องสูบน้ำแบบไฟฟ้าเพื่อลดเสียงรบกวนชุมชน ทั้งนี้ ผู้รับจ้างจะติดตั้งป้ายบอกระดับน้ำและหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินเพิ่มเติมให้ประชาชนสามารถติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่โครงการฯ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้ทันที ส่วนกรณีโครงสร้างของโครงการฯ ยื่นออกมาคร่อมผิวจราจรและล้ำเข้ามาอยู่ใกล้บ้านประชาชน โครงการฯ ได้ดำเนินงานก่อสร้างคานขวาง (Portal Crossbeam) โดยเลือกใช้วิธีก่อสร้างชิ้นงานแบบหล่อสำเร็จ (Precast) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและลดระยะเวลาในการก่อสร้าง ซึ่งในบริเวณโครงการฯ สัญญาที่ 2 โซน 3 หน้าโรงแรมมดอินน์ มีโครงสร้าง Portal Crossbeam ทั้งสิ้น 23 คาน ดำเนินการแล้วเสร็จ 21 คาน และอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 2 คาน ซึ่งจะดำเนินการเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2566 แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง โครงการฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างให้เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรการความปลอดภัยที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกับ ทล. อย่างเคร่งครัด
สำหรับกรณีตรวจพบกองขยะอยู่ในพื้นที่ก่อสร้าง และมีสายไฟในพื้นที่ก่อสร้างพาดผ่านบน Barrier พลาสติก กทพ. ได้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพร้อมกับ ผู้รับจ้างและผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างฯ พบว่าในพื้นที่ก่อสร้างมีเป็นเศษวัสดุจากการก่อสร้าง ซึ่งผู้รับจ้างจะมีรอบในการขนย้ายออกไปทิ้งนอกพื้นที่ก่อสร้างเดือนละ 1 - 2 ครั้ง ปัจจุบันผู้รับจ้างได้ขนย้ายเศษวัสดุไปทิ้งเรียบร้อยแล้ว และ กทพ. ให้ผู้รับจ้างเพิ่มรอบการขนย้ายเศษวัสดุไปทิ้ง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของโครงการฯ ส่วนสายไฟพาดบน Barrier พลาสติกนั้น ผู้รับจ้างได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว โดยเปลี่ยนจาก Barrier พลาสติก เป็น Barrier คอนกรีต และผูกมัดสายไฟไว้ด้านหลัง Barrier ในพื้นที่เขตก่อสร้าง เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา และในกรณีข้อสังเกตให้โครงการฯ สัญญาที่ 2 พิจารณาคืนพื้นที่ผิวจราจรช่องทางคู่ขนานด้านข้างประมาณ 1 เมตร บริเวณหน้าโรงแรมมดอินน์ โครงการฯ ได้ตรวจสอบและพิจารณาแล้วว่าปัจจุบันยังไม่สามารถคืนพื้นที่ผิวจราจรในบริเวณดังกล่าวได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้าง ส่วนของโครงสร้าง Portal Crossbeam และโครงสร้างปรับสภาพการทรุดตัวที่แตกต่างกันบริเวณฐานราก (Settlement Reduction Structure) รวมถึงงานก่อสร้างระบบระบายน้ำ (Drainage System)
สำหรับการลงพื้นที่โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ช่วง เอกชัย - บ้านแพ้ว ตอน 7 กม. ที่ 31+250 เพื่อตรวจสอบและกำกับการดำเนินงานการก่อสร้างตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน รวมทั้งรับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่ ในการนี้ นายมนตรี เดชาสกุลสม ได้สั่งการให้โครงการฯ กำกับดูแลการดำเนินการก่อสร้างเป็นไปตามหลักมาตรฐานวิศวกรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การดำเนินงานโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความสะดวกและความปลอดภัยสูงสุด หากพบปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เร่งดำเนินการแก้ไขทันที