In News

นายกฯลงพื้นที่อุบลฯดูสถานการณ์อุทกภัย นำข้อมูลแก้ปัญหายืนยันน้ำจะไม่ท่วมอีก



อุบลราชธานี-นายกฯ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย พบปะประชาชน อ.พิบูลมังสาหาร อุบลราชธานี ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ หวังว่าน้ำจะไม่ท่วม หรือท่วมน้อยกว่าเดิม และมั่นใจการรับมือสถานการณ์น้ำ จ.อุบลฯ ปีนี้ น้ำจะไม่ท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว แนะลองวิธีใหม่ในการบริหารจัดการน้ำ ย้ำรัฐบาลจะนำข้อมูลมาวางแผนแก้ปัญหา สั่งการพัฒนาระบบเตือนภัย แจ้งข่าวสาร ให้ตรวจสอบความมั่นคงโครงสร้าง เตรียมการช่วยเหลือประชาชน

วันนี้ (6 ตุลาคม 2566) เวลา 16.00 น. ณ บริเวณแก่งสะพือ ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพบปะประชาชนอำเภอพิบูลมังสาหาร
 
นางสาวศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำเขตเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารว่า เมื่อปี พ.ศ. 2565 มีประชากรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จํานวน 1,763 ราย 15 ชุมชน จากทั้งหมด 17 ชุมชนในพื้นที่ จากการรายงานในระบบวอร์รูม อุกทกภัยที่ทางเทศบาลได้พัฒนาขึ้น เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ภายในเขตเทศบาลใช้งานร่วมกัน และในปัจจุบันปี 2566 เทศบาลได้นําข้อมูลจากระบบนี้รายงาน คาดการณ์ พยากรณ์น้ำ รวมถึงขอความอนุเคราะห์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดประตูระบายน้ำเบื้องต้น และปรับผังภูมิสังคมในการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ทั้งหมด 5 เส้น ได้แก่ ห้วยซัน ห้วยไผ่ ห้วยบุ่งโง้ง ห้วยพอก และห้วยหวาย เพื่อเป็นการระบายน้ำ ซึ่งจากผลการดําเนินการดังกล่าวทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จากเดิมมวลน้ำระดับขนาด 6.34 คือระดับน้ำในวันนี้ เทียบกับปี 2565 ซึ่งระดับน้ำที่เท่ากันนี้ประชากรจะได้รับความเสียหาย จํานวน 65 ครัวเรือน แต่ปัจจุบันได้รับการ แก้ไขปัญหา ทําให้มีบ้านเรือนซึ่งต่ำกว่าระดับน้ำ ที่ 6.34 อยู่เพียง 2 ครัวเรือน
 
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความดีใจที่ได้มาพบพี่น้องประชาชนชาวพิบูลมังสาหาร พร้อมกับกล่าวว่า แก่งสะพือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดใหญ่ ๆ แล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นเมืองรอง เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว สร้างรายได้สู่พี่น้องในชุมชน
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ โดยในปีนี้หวังว่าน้ำจะไม่ท่วม หรือท่วมน้อยกว่าเดิมเพราะมีการเตรียมความพร้อม เตรียมแผนรองรับการบริหารจัดการน้ำ และนอกจากแผนบริหารการจัดการน้ำแล้ว รัฐบาลยังมีแนวคิดในการขยายถนนเพื่อลดความแออัดการจราจรของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากปัญหาที่กล่าวมาดังข้างต้น ยังมีอีกหนึ่งปัญหาคือปัญหาเรื่องยาเสพติด ขอให้ความมั่นใจกับพ่อแม่พี่น้องว่า รัฐบาลจะดูแลแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่ออนาคตลูกหลานของท่านทุกคน

นายกฯ มั่นใจการรับมือสถานการณ์น้ำ จ.อุบลฯ ปีนี้ น้ำจะไม่ท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว แนะลองวิธีใหม่ในการบริหารจัดการน้ำ

ก่อนหน้านี้ ณ สถานีตรวจวัดระดับน้ำ (M7) บริเวณเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการเดินทางลงพื้นที่ มาติดตามสถานการณ์น้ำ จ.อุบลราชธานี และรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานต่าง ๆ ว่า มีความน่าเป็นห่วงอยู่เพราะปีที่ผ่านมา พื้นที่ที่เรายืนอยู่ตรงนี้ น้ำสูงขึ้นมาอีก 2 ฟุต และขังอยู่ประมาณ 1 เดือน เราจะให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีกในปีนี้ไม่ได้ มาครั้งนี้รัฐมนตรีช่วยฯ สส. หน่วยงานรัฐ ผู้นำหน่วยงานรัฐมากันครบถ้วน ต่างยืนยันว่ามีความพร้อมกับเหตุการณ์ ถ้ามีอุทกภัยเกิดขึ้น หน่วยงานรัฐพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกมิติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไม่ต้องมีการช่วยเหลือจะดีกว่า คือไม่มีน้ำท่วม วันนี้มีหน่วยงานรัฐมาหลายหน่วยงาน ได้มีการวางแผนที่จะบริหารจัดการเรื่องน้ำท่วม โดยที่อาจจะต้องมีการลองวิธีการใหม่ ๆ บ้าง โดยที่เราก็ต้องมั่นใจว่าการท่วมจะต้องไม่มี หรือถ้ามีก็น้อยมาก ในระยะเวลาที่น้อยมาก ตอนนี้เรื่องของจำนวนปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาที่จังหวัดอุบลราชธานีเกือบจะเป็นที่แน่นอนว่าเดือนตุลาคมเป็นเดือนที่ยากที่สุด ตอนนี้เพิ่งอยู่ช่วงต้นเดือน จะมีน้ำไหลเข้ามาอีกมาก ฉะนั้น การบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้ วันนี้ได้มาให้กำลังใจหน่วยงานรัฐซึ่งทราบว่าทุกคนทำงานอย่างเต็มที่
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่มีอยู่ในการเตรียมการรับมือระยะสั้น ให้คำมั่นได้หรือไม่ว่า หากเกิดน้ำท่วมปีนี้จะไม่หนักเท่าปีก่อน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มั่นใจ การรับมือระยะสั้นปีนี้น้ำจะไม่ท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว เพราะมีมาตรการบริหารจัดการน้ำให้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดยการบริหารจัดการเรื่องน้ำมีหลายวิธี บางวิธีเป็นวิธีเดิม ๆ ที่ทำกันอยู่ดีอยู่แล้ว แต่จะต้องมีวิธีการที่ต้องแปลกใหม่บ้าง ระยะเวลาในการเก็บกักน้ำที่อาจจะต้องปล่อยให้เร็วขึ้นบ้าง อย่ากลัวว่าจะแล้ง จังหวัดอุบลราชธานีเกือบจะเรียกว่ามีวิทยาศาสตร์ทำนายปริมาณน้ำฝนระยะยาวว่าเดือนไหนฝนจะตกเยอะ เพราะฉะนั้นการปล่อยน้ำอาจจะปล่อยได้เร็วขึ้น การกักอาจจะกักได้ช้าลง เพื่อให้ปริมาณเขื่อนรองรับน้ำได้ เพื่อให้ป้องกันน้ำท่วมได้ เป็นต้น ทั้งนี้ จะต้องเตรียมบริหารความเสี่ยง ซึ่งได้สั่งการให้ดูเรื่องความเสี่ยงให้ดีด้วย

​นายกฯ ติดตามสถานการณ์อุทกภัย จ.อุบลฯ ย้ำรัฐบาลจะนำข้อมูลมาวางแผนแก้ปัญหา สั่งการพัฒนาระบบเตือนภัย แจ้งข่าวสาร ให้ตรวจสอบความมั่นคงโครงสร้าง เตรียมการช่วยเหลือประชาชน

ก่อนลงพื้นที่ ณ สำนักงานชลประทานที่ 7 อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมสั่งการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยมีนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายว่า  จังหวัดอุบลราชธานีสภาพบ้านเมืองประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมาโดยตลอด ซึ่งได้รับทราบปัญหานี้มาตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาสู่เวทีการเมืองว่าที่ผ่านมาจะแก้ไขแบบบูรณาการในระยะยาวไม่ได้ ซึ่งตนเองมีความเข้าใจและห่วงใยกับปัญหาที่หมักหมมมานาน และไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น ที่ผ่านมาประเทศไทยพบน้ำท่วมที่จังหวัดแพร่และจังหวัดสุโขทัยเป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้ได้ดำเนินการป้องกัน และอยู่ในช่วงเวลาของการเยียวยาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า จังหวัดอุบลราชธานีน้ำกำลังจะเริ่มท่วม ซึ่งยังไม่ถึงฤดูกาลที่น้ำจะมามาก แม้น้ำจะเริ่มมาแล้วแต่ก็ไม่มากเท่ากับปีที่แล้ว ทั้งนี้ ทางสำนักนายกฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีข้อแนะนำในหลายข้อ โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อดำเนินการป้องกันไว้ก่อน ก็อาจจะไม่ทำให้เกิดวิกฤติได้ ซึ่งวิกฤตน้ำท่วมที่จังหวัดอุบลราชธานีไม่ใช่แค่เสียหายทางด้านเศรษฐกิจแต่เกี่ยวข้องกับทางด้านเกษตรกรรมอย่างมหาศาล รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมขังบางพื้นที่นานนับสัปดาห์ ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัย ไม่สะดวกสบาย และมีโรคภัยไข้เจ็บที่จะตามมา   

นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลชุดนี้ตระหนักดีว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อไปอีกเรื่อย ๆ ไม่ได้ แต่รัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการได้ไม่ถึงเดือน ถือว่าเพิ่งจะได้เข้ามาทำงาน ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจึงเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งได้มีการลงพื้นที่ติดตามดูสถานการณ์อุทกภัย โดยมีความเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาระยะสั้นยังทำได้ดี ทำได้มากกว่าที่เคยมา และทำได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งจะนำข้อมูลมาวางแผนโดยเฉพาะระยะสั้นทำอย่างไรไม่ให้ท่วมเหมือนปีที่แล้ว และให้น้ำท่วมน้อยลงไปเรื่อย ๆ 

ภายหลังรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีกล่าวสั่งการว่า เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นแล้วต้องมีการแจ้งเตือนภัยในพื้นที่ ขอให้พัฒนาระบบเตือนภัยและแจ้งข่าวสาร รวมถึงตรวจสอบความมั่นคงของโครงสร้าง เตรียมการช่วยเหลือประชาชน เตรียมการฟื้นฟูหลังประสบอุทกภัย และรายงานความคืบหน้าให้รัฐบาลได้รับทราบ โดยส่วนตัวเชื่อมั่นและมีความหวังว่าระหว่างนี้จนถึงฤดูฝน ทุกคนทำเต็มที่แล้วหรือยัง และทำอย่างไรให้ท่วมน้อยที่สุดและระบายน้ำได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์น้ำจะท่วมในช่วงต้นเดือนตุลาคม ดังนั้น จะต้องมาดูในเรื่องของมิติการระบายน้ำที่ต้องทำให้ดีขึ้น ต้องขอบคุณทุกคน และอยากให้ลองใช้วิธีการใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาดูบ้าง

ด้านนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมถึงการบริหารจัดการน้ำของจังหวัดอุบลราชธานีและในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการระบายน้ำโดยต้องเร่งระบายน้ำช่วงต้นฤดู คือตั้งแต่เดือนมิถุนายน เพื่อระบายน้ำออกจากเขื่อนใหญ่ในพื้นที่ ให้มีพื้นที่สามารถรองรับน้ำในฤดูฝน ซึ่งที่ผ่านมาเขื่อนใหญ่ ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกักเก็บน้ำไว้จำนวนมาก แต่ไม่สามารถระบายน้ำออกใช้เพื่อการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากเมื่อถึงฤดูฝน