In Bangkok

กทม.ร่วมSOSส่งความสุขวันอาหารโลก ปี2023'น้ำคือชีวิต น้ำคืออาหาร' 



กรุงเทพฯ-(6 ต.ค.66) เวลา 08.00 น. : นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกล่าวเปิดงานกิจกรรมวันอาหารโลก ปี 2023 ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับมูลนิธิ สโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ (SOS) จัดขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชนและผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับคุณค่าและประโยชน์ของอาหารส่วนเกิน โดยมี นางสาวธนาภรณ์ อ้อยอิสรานุกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการอาวุโส มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเขตบางพลัด ผู้บริหารมูลนิธิ สโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ บริเวณเชิงสะพานพระราม 8 ฝั่งบางพลัด

รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า กิจกรรมวันอาหารโลกจัดขึ้นเพื่อระลึกถึงความสำคัญของอาหารและความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนต้องการเพื่อการดำรงชีวิต อาหารที่ดีมีประโยชน์จะช่วยให้เรามีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี กิจกรรมทำอาหารร่วมกันในวันนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความสำคัญของอาหารแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้พนักงาน จิตอาสา และทีมงานมูลนิธิฯ ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย และยังสอดคล้องกับธีมวันอาหารโลกของปี 2023 นี้ ถูกเขียนไว้ว่า “น้ำคือชีวิต น้ำคืออาหาร” ที่เราจะส่งต่ออาหารที่ดีมีประโยชน์เพื่อแทนคำขอบคุณให้แก่กลุ่มเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจากสำนักงานเขตบางพลัด ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ซึ่งมีหน้าที่ด้านรักษาความสะอาด และดูแลงานระบายน้ำ ท่อระบายน้ำ คลองสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงกลุ่มคนไร้บ้านที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ และกลุ่มผู้มีรายได้น้อยในชุมชนเขตบางพลัด หวังว่ากิจกรรมในวันนี้จะสร้างความสุขให้กับทุกคนเพื่อให้ทุกคนมีพละกำลังในการดูแลแหล่งน้ำอันจะเป็นชีวิต และอาหารของพวกเรา และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในการช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป

สำหรับ มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ (SOS) เป็นมูลนิธิเพื่อการกุศล ที่จดทะเบียนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านอาหารโดยการรับและบริจาคอาหารส่วนเกินที่มีคุณภาพดีสู่กลุ่มเปราะบางในสังคมอย่างเท่าเทียม เริ่มปฏิบัติงานในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยเป็นองค์กรแรกในประเทศไทย ที่ริเริ่มการทำโครงการรักษ์อาหาร (Food Rescue Program) อย่างเป็นระบบ ผ่านการสร้างความร่วมมือและการมีส่วนร่วมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีรูปแบบในการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและการดำเนินงานในพื้นที่ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 จนถึงปัจจุบัน มูลนิธิ SOSได้กอบกู้ และส่งต่ออาหารส่วนเกินไปแล้วกว่า 6.7 ล้านกิโลกรัม หรือคิดเป็นจำนวน 28.5 ล้านมื้อ

ทั้งนี้ วันอาหารโลก (World Food Day) เกิดขึ้นในปี 2539 โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 16 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันอาหารโลก เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนักและเกิดความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาความอดอยากหิวโหยและทุพโภชนาการความสำคัญของอาหารแก่ประชาชนรวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาในการจัดการและการกระจายอาหาร โดยในวันอาหารโลกปี 2566 นี้ ได้มีการกำหนดขอบเขตของการดำเนินงาน ซึ่งมีแนวคิดหลักคือ "Water is life, Water is food, Leave No One Behind" หรือ"น้ำคือชีวิต น้ำคืออาหาร ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"