In Thailand

ร่ำไห้เห็นภาพผัวโดยจ่อยิงหัวในอิสราเอล เมียแรงงานชาวศรีสะเกษจำรอยสักได้



ศรีสะเกษ-เมียแรงงานไทยในอิสราเอลร่ำไห้เห็นภาพโจรถือปืนจ่อหัวผัวที่โดนจับเป็นตัวประกัน จำรอยสักที่หัวไหล่แขนทั้ง 2 ข้างของผัวได้ ขณะที่ญาติพี่น้องแห่ปลอบใจวอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 8 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 17 บ้านซำตาวันต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรดาญาติพี่น้องพากันแห่มาปลอบให้กำลังใจ น.ส.กัญญารัตน์  สุริยะศรี  อายุ  39 ปี  ที่กำลังร่ำไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม  เนื่องจาก น.ส.กัญญารัตน์ ได้เห็นภาพที่ญาติส่งมาให้ เป็นภาพของนายโอวาท  สุริยะศรี  อายุ  40 ปี  สามีของตนเองที่ไปทำงานด้านการเกษตรอยู่ที่ประเทศอิสราเอล แล้วถูกคนร้ายกลุ่มฮามาส 2 คน ใช้อาวุธปืนจ่อใส่ร่างของนายโอวาทกับเพื่อนตัวประกันรวม 4 คน โดยมีข่าวว่า มีแรงงานไทยโดนคนร้ายยิงเสียชีวิตแล้ว 2 คน เนื่องจากกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา  ทำให้ น.ส.กัญญารัตน์  มีความห่วงใยนายโอวาท สามีของตนเองเป็นอย่างมาก      

น.ส.กัญญารัตน์ สุริยะศรี  อายุ  39 ปี  กล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า ตัวประกันแรงงานไทยคนแรกที่ถอดเสื้อนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นคนแรก ตนจำสามีของตนได้และยืนยันว่าคือนายโอวาท สามีของตน  เนื่องจากว่า ตนจำรอยสักที่หัวไหล่ของแขนทั้ง 2 ข้าง และที่บริเวณแผ่นหลังได้  ตนและนายโอวาท ได้แต่งงานกันมานานแล้ว จนกระทั่งได้มีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 14 ปี และ 15 ปี ตามลำดับ  เมื่อประมาณช่วงเดือน ก.ค. 2564 สามีของตนได้สมัครไปทำงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ไปทำงานนาน 2 ปี 2 เดือนแล้ว  ปกติแล้วตนจะคุยกันกับสามีทางเมสเซนเจอร์  จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 นายโอวาท ได้ส่งแชทมาบอกตนว่า ยิงกันแล้ว จากนั้น ตนพยายามติดต่อทั้งโทรศัพท์และทักเมสเซนเจอร์ไปหานายโอวาท สามีของตน  แต่ว่าไม่สามารถติดต่อกับสามีของตนได้ และต่อมาตนทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า เกิดสงครามที่ประเทศอิสราเอล มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ตนมีความห่วงใยสามีของตนมาก และพยายามเฝ้าติดตามข่าวความคืบหน้าของสามีอย่างใกล้ชิด

น.ส.กัญญารัตน์ สุริยะศรี  อายุ  39 ปี  กล่าวต่อไปว่า ต่อมาญาติของตนได้ส่งภาพที่กลุ่มฮามาส 2 คนถือปืนคุมตัวประกันที่นอนถอดเสื้ออยู่กับพื้น ตนจำรอยสักที่หัวไหล่ 2 ข้างและที่ด้านหลังของสามีตนได้  ตนรู้ทันทีว่า นายโอวาท สามีของตนโดนจับเป็นตัวประกัน  โดยมีคนร้ายเอาปืนจ่อหัวคุมอยู่ ตนมีความห่วงใยสามีของตนเอง  จึงได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้นายโอวาทสามีของตนและเพื่อนแรงงานคนไทยทุกคนปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้  ซึ่งหากว่า นายโอวาท สามีของตนกลับมาอย่างปลอดภัย  ตนจะไม่ยอมให้สามีไปทำงานต่างประเทศอีกอย่างเด็ดขาด  แม้ว่าจะมีรายได้ดีมากเพียงใดก็ตาม  ตนขอฝากถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโปรดพิจารณาหาทางช่วยเหลือสามีของตนเองและเพื่อนแรงงานคนไทยทุกคนให้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัยทุกคนอย่างเร่งด่วนด้วย

ภาพ / ข่าว  บุญทัน  ธัศรีวรรณ  ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ