In Thailand

'สมศักดิ์'ชมแข่งเรือฯร้อยเอ็ดติดริมตลิ่ง ติดตามน้ำท่วมและมอบถุงยังชีพปชช.



ร้อยเอ็ดรองนายกฯสมศักดิ์ ชมติดขอบตลิ่ง งานแข่งขันเรือยาวประเพณีบ้านผักกาดหญ้า 2566มีเรือเข้าร่วม จำนวน 14 ลำ เป็นประเภทเรือขนาดกลาง จำนวน 40 ฝีพาย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาเลิง ร่วมกับชาวบ้านผักกาดหญ้า และชาวตำบลนาเลิง ได้ร่วมกันจัดขึ้น และยังได้ มอบถุงยังชีพและติดตามสถานการณ์ลำน้ำในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง

 วันที่ 8 ตุลาคม 2566 เวลา 10.30 น. ที่สนามแข่งเรือท่าน้ำวัดสุปัญญาราม บ้านผักกาดหญ้า หมู่ที่ 3 อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดงานประเพณีแข่งเรือยาวบ้านผักกาดหญ้า ประจำปี 2566 โดยมี นาทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชน เข้าร่วม 

ซึ่งในการแข่งขันมีเรือเข้าร่วม จำนวน 14 ลำ เป็นประเภทเรือขนาดกลาง จำนวน 40 ฝีพาย ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาเลิง ร่วมกับชาวบ้านผักกาดหญ้า และชาวตำบลนาเลิง ได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรักความสามัคคีในชุมชน ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงชีวิต ความเป็นอยู่ ของผู้คน ที่อาศัยอยู่ติดกับแม่น้ำ สืบสานประเพณีวัฒนธรรม อันดีงาม ที่ได้ปฏิบัติกันมาช้านาน จนเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น ที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน 

สำหรับเรือยาว ที่ชนะเลิศการแข่งขัน จะได้รับเงินรางวัล 18,000 บาท 14,000 บาท และ 10,000 บาท 8,000 บาท ตามลำดับ พร้อมด้วยถ้วยเกียรติยศ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจภายในตำบลนาเลิง และตำบลใกล้เคียง ของอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อไป

ร้อยเอ็ด รองนายกรัฐมนตรี มอบถุงยังชีพและติดตามสถานการณ์ลำน้ำ ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด 

วันเดียวกันนายสมศักดิ์ ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ติดตามสถานการณ์ลำยัง และลำน้ำชี พร้อมถุงยังชีพ ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชน เข้าร่วม

เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมาจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมกำลังแรง และเขื่อนลำปาวปรับเพิ่มการระบายน้ำ ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำยังและลำน้ำชีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีฝนตกในพื้นที่ ซึ่งได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) แล้ว รวม 12 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 22,228 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย เกิดความเสียหายด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ พื้นที่การเกษตร ด้านปศุสัตว์ และการประมง ซึ่งจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในการอำนวยความสะดวกด้านเดินทาง ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ตลอดจนอพยพประชาชนและสัตว์เลี้ยง ไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย จนกว่าสถานการณ์อุทกภัยจะเข้าสู่ภาวะปกติ

โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย วัดคุ้งสะอาดาราราม หมู่ 5 ตำบลนาเลิง อำเภอเสลภูมิ และฝายดินซีเมนต์ลำน้ำยัง บ้านบาก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 7 อำเภอเสลภูมิ พร้อมกล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อมาดูการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ประสบอุทกภัย ว่ามีความทั่วถึงหรือไม่ / ในขณะที่หลังจากไปดูพื้นที่ตลิ่งริมน้ำชีที่โดนน้ำกัดเซาะดินถล่มแล้ว จะเร่งดำเนินการ เป็นโครงการในการเบิกจ่ายงบประมาณ มาทำการก่อสร้างแนวกั้นน้ำ แต่ในปีงบประมาณ 2567 นี้ น่าจะไม่ทัน เร็วที่สุด ปี 2568 ประมาณช่วงเดือนตุลาคม และ ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะนำไปหารือร่วมกับอีกหลายภาคส่วนหลังจากนี้

ร้อยเอ็ด รองนายกฯสมศักดิ์ เทพสุทิน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง

ต่อไปได้เดินทางไปที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง อำเภอ เชียงขวัญ ร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง พร้อมมอบถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชน โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด, รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชน เข้าร่วม

โดยจังหวัดร้อยเอ็ด มีสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชี จากสถานีบ้านม่วงลาด อำจังหาร 11.39 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 0.21 เมตร ลดลงจากเมื่อวาน 14 เซนติเมตร รวมถึงสถานีบ้านธวัชดินแดง อำธวัชบุรี ระดับน้ำอยู่ที่ 7.91 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.31 เมตร มีแนวโน้มทรงตัว และสถานีบ้านท่าสะแบง อำทุ่งเขาระดับน้ำอยู่ที่ 9.93 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.13 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 15 เซนติเมตร ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เน้นย้ำให้พื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแล ท่อที่วางลอดใต้พนังเพื่อปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ ทางการเกษตรอาจเกิดการชำรุด ทำให้คันพนังเสียหายได้ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัย

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้พบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวเชียงขวัญ พร้อมมอบถุงยังชีพ 400 ชุด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยเหลื่อผุ้ประสบภัยในเบื้องต้น