In News

นายกฯเดินหน้านโยบายเงินหมื่นดิจิทัล เชื่อผลสำรวจเชื่อมั่นปชช.กระตุ้นจีดีพี.โต5%



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯเดินหน้านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท จากผลสำรวจ เชื่อมั่นประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ทั้งนี้พร้อมนำข้อเสนอแนะมาพิจารณาเพิ่ม เพื่อให้นโยบายมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด

วันนี้ (10 ตุลาคม 2566) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันเดินหน้านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท เชื่อมั่นช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสให้กับภาคประชาชนและครัวเรือน เป็นการกระตุ้นกำลังทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทั้งนี้ ขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เห็นแก่ความตั้งใจจริงของรัฐบาล และต้องการช่วยเหลือประชาชน จึงออกมาสนับสนุนแนวความคิดนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลจะนำข้อคิดเห็นต่าง ๆ มาพิจารณาเพื่อเป็นโอกาสให้ได้ปรับปรุงแนวทางในการดำเนินนโยบายให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 1,280 คนจากทั่วประเทศ ถึงทัศนะต่อนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท พบว่ามีสัดส่วนถึง 76.4% ที่จะใช้เงินดิจิทัล โดยอยากใช้ซื้อสินค้าในครัวเรือนมากที่สุด 24.5% รองลงมาคือใช้ซื้ออาหาร 21.0% ในขณะเดียวกัน มีกลุ่มตัวอย่าง 48.3% เชื่อว่าเงินดิจิทัลจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้มาก และ 35.6% เชื่อว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ปานกลาง 

โดยทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเงินดิจิทัล จะนำข้อเสนอแนะต่างๆ มาพิจารณาการประชุมในวันที่ 12 ตุลาคม 2566 นี้ จากนั้นจะนำผลสรุปเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 

อย่างไรก็ดี รัฐบาลตั้งใจให้การดำเนินนโยบาย Digital Wallet ให้เศรษฐกิจปีหน้าเติบโต 5% เมื่อเศรษฐกิจขยายตัว จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เกิดการจ้างงาน และการลงทุน รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้ เพิ่มขึ้น และสุดท้ายสามารถจัดทำงบประมาณสมดุลได้ ส่วนแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ จะมาจากหลายแหล่ง ทั้งการนำเงินงบประมาณส่วนเกินจากของหน่วยงานราชการ การใช้เงินตามมาตรา 28 ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ.2561 และอื่น ๆ โดยจะมีการดำเนินการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด

“รัฐบาลขอบคุณแนวความคิดเห็น ข้อชี้แนะที่ทุกภาคส่วนเสนอเข้ามา โดยพร้อมนำข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาปรับปรุงให้เกิดความสมดุล อาทิ เงื่อนไข ข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้เป็นนโยบายที่ได้ประโยชน์กับพี่น้องคนไทยมากที่สุด เกิดประโยชน์ในวงกว้าง เป็นการกระตุ้นทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสให้พี่น้องคนไทยที่มีรายได้น้อยลืมตาอ้าปากได้” นายชัย กล่าว