In Thailand
รองผู้ว่าฯพังงานำทีมปลอบขวัญครอบครัว หนุ่มทำงานสวนดอกไม้ที่อิสราเอล
พังงา-เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่บ้านเลขที่ 58/8 ม.6 บ้านบนทุ่ง ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนางอุไร ณ หนองคาย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดพังงา นายศักดิ์ชัย คงวัฒนะ แรงงานจังหวัด จ่าเอกแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอทับปุด นำคณะเข้าเยี่ยมปลอบขวัญ นส.บรรจง บัวสิน และครอบครัว หลังจากได้ทราบว่าสามีชื่อนายนิกร พรมโสภา อายุ36ปี ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล และเป็นผู้ประสบภัยการสู้รบอยู่ในประเทศอิสราเอล โดยได้มีการมอบสิ่งของปลอบขวัญพร้อมสอบถามถึงความเป็นอยู่ของครอบครัว และการติดต่อกับสามี ซึ่งทราบว่ายังติดต่อกับสามีและพูดคุยได้อยู่ทุกวัน พร้อมกับได้มีการติดต่อนายนิกรฯด้วยวีดีโอคอล ทาง Messenger โดยแจ้งมาว่าขณะนี้ปลอดภัยดี ได้มีการอพยพหนีภัยการสู้รบมาอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล ด้านประเทศอียิปต์ และห่างจากจอร์แดนประมาณ60 กิโลเมตร ในส่วนของการกลับบ้านนั้นรอการประสานจากนายจ้างและสถานทูตอยู่
น.ส.บรรจง บัวสิน กล่าวว่า ตนเองและสามีเป็นชาวอุดรธานี มีลูกสาว1คนเรือนอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนทับปุดวิทยา เดิมทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ในช่วงโควิด-19 ได้ตกงาน จึงได้เดินทางมาอาศัยอยู่ที่บ้านของพี่สาวสามี ที่มามีครอบครัวอยู่ในจังหวัดพังงา จากนั้นในปี2564ได้ไปสมัครทำงานในประเทศอิสราเอล ขณะนี้ทำงานได้1ปี7เดือน ทำงานอยู่ในสวนดอกไม้ อยู่ใกล้กับฉนวนกาซา ได้รับค่าจ้างเดือนละ53,000 บาท บางเดือนรวมค่าโอทีแล้วได้สูงสุดถึง90,000บาท ปกติก็คุยกับแฟนทุกวัน ในวันที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่เขาเตรียมตัวจะทำงาน แต่ก็เห็นลูกไฟอยู่บนท้องฟ้าเต็มไปหมด จากนั้นนายจ้างก็พาไปอยู่ในหลุมหลบภัย ก่อนจะมีการอพยพไปที่ปลอกภัยทางตอนใต้ใกล้กับประเทศอียิปต์ จากการที่ติดตามข่าวก็เห็นว่าสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆจึงอยากให้ทางรัฐบาลรีบดำเนินการรับคนไทยกลับมาบ้านโดยเร็ว และต้องขอขอบคุณที่ทางจังหวัดพังงาที่เข้ามาเยี่ยมปลอบขวัญในวันนี้
นายศักดิ์ชัย คงวัฒนะ เปิดเผยว่า ทางสำนักงานแรงงานจังหวัดพังงา จังหวัดพังงามีคนไปทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล2 คน เป็นคนเกาะยาวน้อยและคนบางนายสี ซึ่งปลอดภัยทั้ง2คน และวันนี้เพิ่งได้รับสายจาก นส.บรรจงฯทำให้ทราบว่ายังมีคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ไปทำงานอิสราเอลอีก1 คน เป็นเพราะเขามีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดอุดรธานี รายชื่อจึงไปขึ้นอยู่ในจังหวัดอุดรธานี จึงรีบแจ้งไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัดอุดรธานี พร้อมกับประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเยี่ยมปลอบขวัญ ในส่วนของการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ได้มีรายชื่ออยู่ในระบบแล้ว เมื่อได้กำหนดการวันกลับแล้วก็จะนำครอบครัวไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อไป