In Thailand

เปิดใจแฟนสาวและแม่แรงงานที่อิสราเอล แฉนายจ้างให้ทำงานกลางเสียงระเบิด



นครราชสีมา-เปิดใจแฟนสาวและแม่สามีเมื่อแฟนหนุ่มทำงานประเทศอิสราเอลยังไม่ได้กลับบ้านแถมเล่าวินาทีโดนนายจ้างบังคับออกไปทำงานระหว่างสงครามวอนหน่วยงานช่วยประสานความช่วยเหลือ

วันที่ 12 ตุลาคม 2566 จากกรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศอิสราเอลและปาเลสไตน์บริเวณชนวนกาซ่า ที่ทำให้กลุ่มติดอาวุธฮามาลได้บุกโจมตีใจกลางเมืองหลวงประเทศอิสราเอลก่อเป็นเหตุให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นซึ่งทำให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลต่างต้องหลบหนีและถูกจับเป็นประกัน เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับทางญาติของผู้ที่กำลังทำงานอยู่ประเทศอิสราเอลที่48 หมู่ 5 ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งทางแฟนสาวและแม่สามีเผยตอนนี้ นายวัชระ ทิพย์สูงเนิน ซึ่งเป็น 1 ในแรงไทยยังไม่ได้ออกมาจากเขตสงครามและโดนนายจ้างบังคับให้ทำงาน ซึ่งต้องเสี่ยงออกไปทำงานแบบเสี่ยงตายทุกวัน วอนหน่วยงานเร่งเข้าประสานขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

โดยนางสาวเสาวลักษณ์ ชอบบุญกลาง อายุ 26 ปี (เบลอหน้า) แฟนสาวของนายวัชระ เปิดเผยว่า ตอนนี้สถานการณ์นั้นทางสามีไม่ปลอดภัย ซึ่งทุกวันนี้ต้องถูกนายจ้างบังคับให้ออกไปทำงานทุกวันท่ามกลางเสียงปืนและเสียงระเบิด จะหลบหนีออกมาก็ไม่ได้เพราะไม่รู้เส้นทางหนี ซึ่งตอนนี้อยู่กับกลุ่มคนไทยทั้งหมด 19 คน และยังต้องออกไปทำงานทุกวัน อยากวอนให้หน่วยงานภาครัฐของไทยเร่งประสานและติดต่อกับทางนายจ้างของสามีตนเองให้พากลับมาประเทศไทยอย่างเร่งด่วนหรือไม่งั้นก็ให้พาออกมาจากเขตสงครามให้เร็วที่สุด เพราะเกรงว่าแฟนของตนอาจจะถูกจับไปหรือโดนยิงเสียชีวิตขณะทำงาน ซึ่งทางนี้ลูกก็ยังเล็กอยู่ด้วย

ด้านนางสมนึก สานจันทึก อายุ 54 ปี แม่ของนายวัชระ เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็เป็นห่วงลูกชายมากและอยากให้หน่วยงานเอากลับมาประเทศไทยโดยด่วน ส่วนตัวตนก็ได้พูดโทรศัพท์กับทางลูกชายเป็นประจำและอัพเดทเหตุการณ์ให้ฟังทุกวัน ตนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ก็ถามความเป็นอยู่ อาหารการกิน แต่ลูกชายก็เล่าทุกวันว่าหวั่นใจมากกลัวเสียชีวิตระหว่างทำงานเพราะที่สงครามที่เกิดห่างไปแค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนก็อยากวอนให้หน่วยงานเร่งประสานและพากลับบ้านอย่างเร่งด่วน

ในระหว่างนั้นทางผู้สื่อข่าวจึงได้วิดิโอคุยกับทางนายวัชระ ทิพย์สูงเนิน แรงงานไทยที่ยังไม่ได้กลับบ้าน เปิดเผยว่า ระหว่างที่คุยตอนนี้ได้กลับมาที่แคมป์เพื่อกินข้าว หลังจากกินข้าวเสร็จก็ต้องไปทำงานต่อ จึงได้มีเวลาคุยแคสั้นๆเท่านั้น สถานะการณ์ตอนนี้ไม่ปลอดภัยมากเพราะต้องออกไปทำงานท่วมกลางเสียงปืนและระเบิดตลอดเวลา หากตนไม่ทำก็ไม่ได้เงินต่อวันที่ทำ เอาง่ายๆตอนนี้ยังไม่มีให้หลบหนีไปที่อื่น อยู่กับเพื่อนคนไทยด้วยกันอีก 19 คน ตอนนี้อยากกลับประเทศไทยอย่างมากและให้ประสานหัวหน้าที่นี้ให้พากลับบ้าน เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย ตอนนี้คิดถึงลูกด้วยอยากกลับไปหาครอบครัว

ณัฐพงศ์ อรชร/ข่าวนครราชสีมา