In Global
ทั่วโลกจับจ้องฟอรั่มสุดยอดความร่วมมือ 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง'ครั้งที่ 3
บทวิเคราะห์ : ทั่วโลกจับจ้องฟอรั่มสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ครั้งที่ 3
การประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ครั้งที่ 3 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ ได้รับความสนใจจากทั่วโลกเป็นอย่างมาก จนถึงปัจจุบัน มีผู้แทนจากประมาณ 140 ประเทศได้ยืนยันเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ เช่นเดียวกับผู้แทนจากองค์การระหว่างประเทศหลายองค์การ
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 10 ปีข้อริเริ่มว่าด้วยการร่วมสร้าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” การประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ครั้งที่ 3 ไม่เพียงแต่เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีของการเสนอแนวคิดข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญสำหรับทุกฝ่ายในการร่วมหารือเรื่องการร่วมสร้าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”อย่างมีคุณภาพสูงอีกด้วย ทางการจีนแสดงว่าจะใช้เวทีนี้เป็นโอกาสในการทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อสรุปประสบการณ์ จัดทำพิมพ์เขียวและชี้นำการร่วมสร้าง“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”อย่างมีคุณภาพสูงให้พัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สาธารณะระดับนานาชาติที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด ทั้งยังประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จีนได้ลงนามเอกสารความร่วมมือ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กับกว่า 150 ประเทศและกว่า 30 องค์กรระหว่างประเทศ ก่อรูปเป็นโครงการความร่วมมือมากกว่า 3,000 โครงการ กระตุ้นการลงทุนเกือบหนึ่งล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รังสรรค์"แลนด์มาร์คแห่งชาติ" "โครงการด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน" และ “โครงการความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่” โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งจำนวนมากได้ถูกพัฒนาขึ้นและหยั่งรากลึก ทำให้เกิดแรงผลักดันอันแข็งแกร่งแก่การพัฒนาของประเทศที่มีส่วนร่วม โครงการพลังงานสีเขียวที่สะอาด มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพสูงจำนวนหนึ่งได้จุดประกายส่องสว่างให้กับหนทางการพัฒนาในอนาคตของประเทศที่ร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โครงการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของท้องถิ่น เช่น โครงการบรรเทาความยากจน เทคโนโลยีการเกษตร การอาชีวศึกษา ฯลฯ ได้ยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชาชนในประเทศที่มีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ถึงปี 2023 การดำเนินโครงการคมนาคมขนส่งทั้งหมดภายใต้กรอบ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จะเพิ่มรายได้ทั่วโลก 0.7-2.9% และจะช่วยให้ผู้คน 7.6 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรง และ 32 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจนปานกลาง
สิ่งที่น่าเอ่ยถึงเป็นพิเศษคือ ข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการพัฒนาสีเขียวทั่วโลก ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้แสดงความรับผิดชอบด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแข็งขัน ดำเนินการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ และให้ความสำคัญกับการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ จีนได้ลงนามเอกสารความร่วมมือด้านการคุ้มครองระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมมากกว่า 50 ฉบับกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้จัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาสีเขียว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ร่วมกันเปิดตัวข้อริเริ่มความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาสีเขียว “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับ 31 ประเทศ และได้ร่วมกันสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนเพื่อความร่วมมือด้านพลังงาน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับ 32 ประเทศ
ภาคปฏิบัติแสดงให้เห็นว่า การพัฒนาสีเขียวในการร่วมสร้าง"หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้มีความคืบหน้าในเชิงบวก ความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จีนได้กลายเป็นผู้มีส่วนร่วม ผู้สร้างคุณูปการ และผู้นำที่สำคัญในการสร้างสรรค์อารยธรรมระบบนิเวศของโลก ตัวอย่างเช่น ตามทางรถไฟมอมบาซา-ไนโรบีในเคนยา บริษัทจีนได้สร้างทางเดินสำหรับสัตว์ขนาดใหญ่เพื่อให้ยีราฟก็สามารถข้ามสะพานรถไฟได้อย่างง่ายดาย ที่สถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ปัญจาบในปากีสถาน หญ้าสามารถเติบโตและสามารถปลูกแตงได้ภายใต้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ ผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมอันโดดเด่นเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการร่วมสร้าง "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" สีเขียว
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่า ประวัติศาสตร์ 10 ปีของข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ถือเป็นแบบอย่างแห่งการบรรลุผลประโยชน์และชัยชนะร่วมกันระหว่างจีนกับประเทศรายทาง ดังนี้ ประการแรก ข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้จัดทำแผนงานโดยรวมเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นที่การเปิดสู่ภายนอกของจีนในยุคใหม่ ก่อรูปขึ้นเป็นโครงสร้างใหม่ในการเปิดประเทศที่เชื่อมโยงกันระหว่างทางบกกับทางทะเลและระหว่างภายในกับภายนอก และเติมเต็มซึ่งกันและกันระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ประการที่สอง ข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”เน้นการส่งเสริมกระแสโลกาภิวัตน์ให้พัฒนาไปตามทิศทางที่เปิดกว้าง ครอบคลุม เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย สมดุล และได้ชัยชนะร่วมกัน ได้สร้างแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศโดยมีส่วนร่วมจากฝ่ายต่างๆอย่างกว้างขวางและก่อรูปขึ้นเป็นแนวโน้มความร่วมมือเชิงโลกาภิวัฒน์ ประการที่สาม ข้อริเริ่ม“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ได้เพิ่มน้ำหนักของประเทศกำลังพัฒนาในการบริหารจัดการระดับโลก และได้ปรับโครงสร้างการบริหารจัดการของโลกให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
มีเหตุผลให้เชื่อได้ว่า การประชุมฟอรั่มสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ครั้งที่ 3 ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเขียนบทใหม่แห่งยุคเส้นทางสายไหมแห่งผลประโยชน์ร่วมกันและได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่ายระหว่างประเทศกับประเทศ มีความใกล้ชิดและเข้าใจกันระหว่างประชาชนกับประชาชน และมีการเรียนรู้อารยธรรมของกันและกันอีกระดับ
--------------------------
เขียนโดย ภาคภาษาไทย ศูนย์เอเชียแอฟริกา สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG)