In News

นายกฯเยือนจีนประเดิมถก5บิ๊กธุรกิจจีน 'Alibaba-Ping An-CRRC-CITIC-Xiaomi'



กรุงเทพฯ-โฆษกรัฐบาล เผยล่าสุด นายกฯ หารือ ผู้บริหาร Alibaba ชวนขยายการลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัล โลจิสติกส์ และ Cloud Service ซึ่งก่อนหน้านี้ได้หารือผู้บริหาร Xiaomi ชวนขยายตลาดและการลงทุนในไทยมากขึ้น เชื่อมั่นศักยภาพและข้อได้เปรียบทางธุรกิจของไทยและยังได้ หารือ ผู้บริหาร Ping An ขอบคุณการลงทุนในไทยหลายสาขาชวนขยายการลงทุนในสาขาประกันภัยที่บริษัทมีศักยภาพ ใช้ประโยชน์จาก Health care และ Wellness ของไทย  นายกฯหารือ ผู้บริหาร CRRC เชิญชวนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง BCG Economy Renewable Energy และ EV และ เชิญชวน CITIC แสะอาด รถยนต์ EV ในไทย

วันนี้ (17 ตุลาคม 2566) เวลา 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปักกิ่งซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า Mr. Fan Jiang, CEO บริษัท Alibaba International Digital commerce Group เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

โดย Alibaba Group เป็นบริษัท e-commerce รายใหญ่ ให้บริการและพัฒนาระบบการค้าออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ท โทรศัพท์มือถือ ระบบ Alibaba Cloud Computing และระบบการชำระเงิน Alipay บริษัททำสถิติการขายหุ้นให้กับนักลงทุนเป็นครั้งแรก (IPO) ด้วยมูลค่าสูงสุดในตลาดหุ้นนิวยอร์ก จำนวน 25,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ 800,000 ล้านบาท

​บริษัทฯ เห็นว่าไทยมีศักยภาพ  เป็น strategic partner บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในไทยในหลากสาขาของผลิตภัณฑ์ มีลูกค้าตลาดใหญ่ของบริษัทฯ ยินดีสนับสนุน e-training ให้กับไทย พร้อมขยายความร่วมมือการลงทุน ได้แก่E-commerce training สำหรับบุคลากรและแรงงานไทย

​โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณ Alibaba สำหรับความมั่นใจและการลงทุนใน Cloud Service หวังว่าจะได้รับการขยายการลงทุน และ Alibaba จะสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย เชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสในการลงทุนไทยได้อีกมาก 

บริษัทฯ ยินดีสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในด้านดิจิทัล และเสนอให้ตั้ง smart digital hub ในไทย ซึ่งบริษัทฯ จะพิจารณาด้วยสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ ทั้งนี้ Travel platform เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ กำลังขยายการดำเนินการ และเป็นไปด้วยดี ซึ่งกำลังร่วมมือกับ ททท. ของไทยเสนอรัฐบาลสำหรับมาตรการความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยใช้ระบบ online และเสนอการใช้ใบขับขี่จีนในไทย จะสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงบริษัทจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ไทย online help center สำหรับนักท่องเที่ยว

นายกฯ หารือ ผู้บริหาร Xiaomi เชิญชวนขยายตลาดและการลงทุนในไทยมากขึ้น เชื่อมั่นศักยภาพและข้อได้เปรียบทางธุรกิจของไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

เวลา 13.00 น.  Mr. Alain Lam, Vice President, CFO เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย Xiaomi เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีนวัตกรรมขั้นสูง สร้างอุตสาหกรรมดิจิทัลที่หลากหลาย โดดเด่นในการผลิตโทรศัพท์มือถือที่ปฏิบัติการบนโปรแกรมเพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในระบบ Android

บริษัทฯ มีเครือข่ายและธุรกิจทั่วโลก เริ่มธุรกิจในไทย ปี 2018 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีไทยเป็น Head quarter ในภูมิภาค รวมถึงการให้การสนับสนุนไทยในด้านต่างๆ เช่นในช่วงโควิด หรือการศึกษา

บริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัท Xiaomi Technology (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อจำหน่าย และทำการตลาดโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย รวมทั้งขยายตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง และตลาดอินโดนีเซียมีขนาดใหญ่ที่สุด รองลงมาคือไทย

นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่บริษัทเชื่อมั่นในประเทศไทย โดยพร้อมสนับสนุนการขยายตลาดและการลงทุนในประเทศไทย เชื่อว่าไทยมีข้อได้เปรียบทางธุรกิจที่บริษัทจะได้ประโยชน์ในการลงทุนและขยายตลาดในพื้นที่

นายกฯ ชื่นชมการดำเนินการของบริษัท และขอให้ขยายการลงทุน การค้าในไทย ขอบคุณการถ่ายทอดเทคโนโลยี R&D  สำหรับโครงการ landbridge จะเป็นโอกาสของบริษัท ในการร่วมกันพัฒนาในกรอบ BRI ซึ่งบริษัทฯ กำลังมองหาสถานที่ผลิต หรือโรงงานการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจในหลายๆด้านที่เกี่ยวข้อง แม้แต่รถยนต์ EV 

นายกฯ ย้ำให้ความมั่นใจการเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ EV ของภูมิภาค ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่พร้อม และสภาพแวดล้อมที่ได้เปรียบ ไทยเป็นประเทศแรกที่ดำเนินมาตรการเกี่ยวกับ carbon credit ทั้ง supply and demand sides มีผู้ผลิตหลายรายที่แสดงความประสงค์ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในไทย 

 

โดยนายกฯ ได้อธิบายความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งและโครงการ landbridge ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงการเดินทางขนส่งไปยังจุดต่างๆได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการเป็น Hub

 

บริษัทยินดีที่จะขยายการผลิตชิ้นส่วน electronics ต่างๆในไทยสำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัท และนำสู่ตลาดโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มทักษะการผลิตของแรงงานไทยควบคู่กับการ training เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือและมีทักษะ

นายกฯ หารือ ผู้บริหาร Ping An ขอบคุณการลงทุนในไทยหลายสาขา พร้อมเชิญชวนขยายการลงทุนในสาขาประกันภัยที่บริษัทมีศักยภาพ ใช้ประโยชน์จาก Health care และ Wellness ของไทย

 เวลา 11.00 น. Mr. Xie Yonglin, Executive Director, President, Co-CEO เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย บริษัท Ping An เป็น 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดของจีน บูรณาการด้านการเงินและการบริการด้านสุขภาพเข้าด้วยกัน และรวมถึงธุรกิจประกันภัย ซึ่งปี 2565 Ping An อยู่ในอันดับที่ 25 ของการจัดอันดับ Fortune Global 500 (อันดับ 4 หากจัดประเภทบริษัททางการเงินทั่วโลก) อันดับที่ 4 ของ Fortune China 500 และอันดับที่ 17 ของ Forbes Global 2000
 
โดย Ping An ขานรับนโยบายรัฐบาลให้การส่งเสริมการลงทุนสีเขียว (Green Investment) ตั้งเป้าหมายลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ในโครงการที่มีแนวโน้มการปลดปล่อยคาร์บอนสูง (High Carbon-Emitting Assets) รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการปล่อยกู้ (Green Credit) การออกพันธบัตร (Green Bond) รวมทั้งการให้ประกัน (Green Insurance) แก่โครงการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับปี 2566 บริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการลงทุนสีเขียวมากเพิ่มขึ้นอีก 20%
 
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณ Ping An ที่มีความเชื่อมั่นในรัฐบาลและศักยภาพของไทย มีการดำเนินธุรกิจในไทยในหลากหลายสาขา ซึ่งประเทศไทยมีบริบท แวดล้อมในสังคมที่สนใจด้านสุขภาพและเทคโนโลยี จึงเหมาะสมกับการลงทุนของบริษัท สนับสนุนให้บริษัทเพิ่มการลงทุนในไทยในสาขาที่มีศักยภาพ

บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจในไทยมายาวนาน มีธุรกิจครบวงจรเกี่ยวกับการเงิน medical care สำหรับผู้สูงอายุ และการแพทย์ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ สาธารณสุข จึงคิดว่าสามารถร่วมมือกับไทยได้

นายกฯ เชิญชวนให้มาลงทุนในไทยให้มากขึ้น ไทยยินดีต้อนรับการลงทุนจากบริษัท ในทุกด้านที่บริษัทเชี่ยวชาญ เช่น healthcare การเงิน 

ทั้งนี้ บริษัทจะขยายการบริการประกันภัยนอกประเทศ จะพิจารณาไทยเป็นประเทศแรก สำหรับ healthcare นั้น บริษัทฯ ขายประกัน และมีลูกค้าประกันสุขภาพขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องมี healthcare รองรับซึ่งไทยมีบริการด้านนี้ และ wellness เป็นที่ยอมรับ 

อีกทั้งไทยมีความร่วมมือด้าน Visa ซึ่งอาจขยาย ไปสู่การผ่อนปรนเงื่อนไขของ Visa สำหรับกลุ่ม Medical Tourism และ กลุ่มคนที่ต้องการใช้บริการการแพทย์ด้านการมีบุตร บริษัทฯ ได้ย้ำว่า จีนนิยมไปไทยในอันดับต้นๆ ทั้งท่องเที่ยว การรักษา รวมถึงการหาที่อยู่ในระยะยาวและ การหารือกับนายกฯ ทำให้ สนใจลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะได้รับข้อมูลและเห็นโอกาสที่ชัดเจน

นายกฯ หารือ ผู้บริหาร CRRC เชิญชวนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง BCG Economy Renewable Energy และ EV

ช่วงเวลา 10.00 น. Mr. Yongcai Sun, Chairman and Executive Director, CRRC Group เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดย CRRC Group เป็นรัฐวิสาหกิจจีนที่ผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางรางที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสายการผลิตและบริการแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา ออกแบบ การซ่อมแซม และให้บริการทางเทคนิค ซึ่ง CRRC ได้ทุ่มเทเวลาในการสร้างเครือข่ายและขยายธุรกิจไปสู่ขอบเขตที่กว้างขวาง อาทิ การพัฒนาเมืองสีเขียว และพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

บริษัทฯ ขอบคุณรัฐบาลที่สนับสนุน และช่วยเหลือการลงทุน มีความร่วมมือกันมายาวนาน บริการผลิตเครื่องจักรรถไฟที่หลากหลาย สำหรับรถไฟทุกแบบ ครบวงจร พร้อมถ่ายทอดความรู้และทักษะเทคโนโลยีระบบราง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่สุดของจีน และมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง 
 
โดยบริษัทฯ แสดงความสนใจลงทุนในประเทศไทยในส่วนที่มีศักยภาพ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนว่ามีโอกาสอย่างมากในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงในสาขาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้แก่ BCG Economy พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัท เพื่อประโยชน์ร่วมกัน

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบรางในไทย แบบครบวงจร สร้างมูลค่าและคุณค่าควบคู่กัน ยินดีร่วมพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน รวมทั้งรถไฟเพื่อการขนส่งอื่นๆด้วย ต้องการเชิญนายกฯไปทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงด้วยตนเอง

ไทยให้ความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากต่างประเทศด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครัน และสิทธิพิเศษการลงทุน จึงอยากเชิญชวนมาตั้งโรงงานในไทย ควบคู่กับการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ไทย ไทยพร้อมด้านแรงงาน และ healthcare ที่จะดูแลนักลงทุน นอกจากนี้ ยังมีความต้องการหัวจักรรถไฟจำนวนมาก สำหรับการขนส่งทางรถไฟของไทย โดยไทยเสนอให้บริษัทฯ มองภาพระยะยาวการลงทุนในไทย ที่จะดีและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อาจพิจารณาตั้งเป็น 2nd Hub ในไทย 

สำหรับโครงการ landbridge เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค เพื่อการขนส่งด้านพลังงาน  และสินค้า เพื่อย่นระยะเวลาและประสิทธิภาพการขนส่ง สามารถขนส่งไปที่ต่างๆของโลกได้ง่ายขึ้นมาก 

บริษัทฯ เปรียบนายกฯ เป็นหัวจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนทั้งการพัฒนาระบบการขนส่งและการพัฒนา ที่จะสำเร็จด้วยดี จึงมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งต่อศักยภาพของไทยที่จะเป็น hub การขนส่งระบบราง

นายกฯ เชิญชวน CITIC พลังงานสะอาด รถยนต์ EV ในไทย

และเมื่อช่วงเวลา 09.00 น.  Mr. Zhu Hexin, Chairman CITIC Group Corporation เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นบริษัทฯ ใหญ่ของจีนที่ดำเนินธุรกิจ ทั้งในส่วนของการบริการทางการเงินแบบครบวงจร และใช้เทคโนโลยีระดับสูง กลุ่ม CITIC ได้รับการจัด อันดับอยู่ใน Fortune's Global 500 เป็นเวลา 15 ปีติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2552 และอยู่ในอันดับที่ 100 ในปี 2566 โดย CITIC สนใจลงทุนใน PPP Projects ขนาดใหญ่ของไทย มีความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในไทยในหลากหลายธุรกิจ

โดยนายกรัฐมนตรีได้หยิบยก เชิญชวนให้ CITIC มาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมยุทธศาสาตร์5 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมกลุ่ม BCG หรือ Bio-Circular-Green Economy (โดยเฉพาะเกษตร อาหาร การแพทย์ และพลังงาน สะอาด) อุตสาหกรรมยานยนต์ (โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (โดยเฉพาะต้นน้ำและ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ) อุตสาหกรรมดิจิทัลและสร้างสรรค์ และการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ตลอดจนเชิญชวนให้มาตั้ง Regional Headquarter โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่

ฝ่ายบริษัทฯ ประสงค์ขยายความร่วมมือกับไทยในอีกหลายด้าน บริษัทมีธุรกิจครอบคลุมและมีบริษัทในเครือจำนวนมาก และมีศักยภาพการแข่งขันระดับโลก รวมทั้ง ด้านพลังงานสะอาดที่ไทยสนใจ

ไทยและ CITIC จะร่วมมือกันเพื่อต่อยอดและให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาล บริษัทต้องการขยายความร่วมมือและการลงทุนในไทย โดยเฉพาะสาขาที่ไทยสนใจ เช่น พลังงานสะอาด การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมนายกฯชวนมาขยายธุรกิจด้านการเงินในไทย ซึ่งCITIC มีธุรกิจเกี่ยวข้องการเงินอยู่ด้วยแล้ว เช่น บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มีใบอนุญาตทางการเงินการธนาคารครบถ้วนและอยู่ในอันดับต้นๆในจีน จึงมีศักยภาพที่จะลงทุนในไทยได้ จะได้หารือในขั้นตอนต่อไป 

ไทยส่งเสริมการผลิตรถยนต์ EV จึงขอเชิญบริษัทฯ เข้ามาลงทุนลักษณะ supply chain เช่น ล้อแม็กซ์ฯ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยไทยสนับสนุนมาตรการและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนที่น่าสนใจด้วยมาตรการของ BOI