In News
ประธานศาลฏีกาตั้ง11คณะทำงานพัฒนา ระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องเป็นที่พึ่งแรกปชช.
กรุงเทพฯ-ภายหลังดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา และกำหนดแนวทางการบริหารงานแก่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศภายใต้นโยบาย “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก”นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกาคนที่ 49 ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องเพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายด้านกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งก่อนฟ้อง และระหว่างการพิจารณาของศาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พัฒนาช่องทางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปฏิรูประบบงานขจัดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนล่าช้าอันจะเป็นอุปสรรคในการบริการประชาชน
โดยมีนายอดุลย์ ขันทอง ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นประธานคณะทำงาน นายปรัชญา อยู่ประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลแพ่ง นายเนติภูมิ มายสกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดธัญบุรีช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายภพ เอครพานิช รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกาและผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมตุลาการ นิติกร ข้าราชการชำนาญการ รวม 11 คนร่วมคณะทำงาน
สำหรับภารกิจสำคัญ “คณะทำงานพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง”มีอำนาจหน้าที่ศึกษาระบบ จัดทำคู่มือแก่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน พัฒนาช่องทางระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องที่ประชาชนเข้าถึงโดยสะดวกรวดเร็ว ไม่ก่อภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน ประสานความร่วมมือ จัดประชุมระดมความคิดเห็นกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อความรวดเร็วและประสิทธิภาพในระบบไกล่เกลี่ย เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องในศาลยุติธรรมทั่วประเทศ และดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องและการไกล่เกลี่ยระหว่างพิจารณาคดีของศาลโดยจะรายงานผลดำเนินการตามภารกิจทั้งหมดต่อประธานศาลฎีกาทราบต่อไป
โดยการขับเคลื่อนและส่งเสริมกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกให้สามารถไกล่เกลี่ยได้ในทุกขั้นตอน นอกจากช่วยให้ความขัดแย้งยุติลงด้วยความสมานฉันท์แล้วยังลดภาระค่าใช้จ่ายแก่คู่ความโดยศาลยุติธรรมพร้อมเสมอจะเป็นที่พึ่งของประชาชนในโอกาสแรกจึงขอเชิญชวนประชาชนที่มีข้อพิพาทไม่ว่ากรณีใด ๆ สามารถขอใช้บริการได้ที่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด