In News
รัฐฯพร้อมขับเคลื่อนกีฬาเป็นSoft Power ลุยทันที1กีฬา1รัฐวิสาหกิจชูกีฬาสากล
กรุงเทพฯ-รัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนกีฬา เป็น Soft Power ของประเทศ เดินหน้าโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจทันที ภายใน 2 เดือน จะเริ่มทยอย “จับคู่” นายกฯ ย้ำปัจจัยสนับสนุนยึดหลักความเป็นสากลของกีฬา ความนิยมของประชาชน และผลงานเป็นที่ประจักษ์
วันนี้ (24 ต.ค.66) เวลา 14.40 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ครั้งที่ 1/2566 นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมประชุมในวันนี้ เพื่อร่วมกันกำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาด้านกีฬาซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Soft Power สำคัญของประเทศในการพัฒนาอย่างมีระบบ ซึ่งกีฬานอกจากช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนแล้วยังสามารถพัฒนาเป็นอาชีพทั้งในบทบาทที่เป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน และผู้มีวิชาชีพด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาที่เป็นที่นิยมในระดับสากล ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ จะเป็นการเสริมต่อการสนับสนุนกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติและของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จะมาช่วยผลักดันให้การกีฬาของประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป
สำหรับคณะกรรมการฯ โครงการนี้ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2548 ภายใต้ชื่อโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ปัจจุบัน นายกรัฐมนตรีได้ปรับเปลี่ยนการสนับสนุนให้กว้างขึ้น ให้รวมถึงทุกสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมกับดึงภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับวงการกีฬาไทยภายใต้โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัส สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยต่างๆ จะได้งบสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 4 ปี ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนพัฒนาระยะยาวได้ และงบประมาณในส่วนนี้สมาคมกีฬาฯ สามารถใช้จ่ายได้โดยไม่ติดระเบียบราชการ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางการสนับสนุนโดยพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญ คือ 1. ความเป็นสากลของกีฬา 2. ความนิยมและความสนใจของประชาชนต่อกีฬา 3. ผลงานของสมาคมกีฬาที่ผ่านมา 4. แผนงานในการพัฒนาของสมาคมกีฬา 5. ความโปร่งใสในการบริหารจัดการของสมาคมกีฬา 6. การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของสมาคมกีฬา
ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบในประเด็นสำคัญ ดังนี้
การดำเนินงานในขั้นต่อไป คณะกรรมการฯ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 2 ชุด คือ 1) คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ และกลั่นกรองการสนับสนุนสมาคมกีฬา โดยมีองค์ประกอบดังนี้ (1) นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานอนุกรรมการ (2) ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย รองประธานอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการ ประกอบด้วย (3) พลเรือเอก อธินาถ ปะจายะกฤตย์ (4) นายธนฑิตย์ รักตะบุตร (5) นางญาใจ พัฒนสุขวสันต์ (6) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และ (7) ผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทย อนุกรรมการและเลขานุการ
2) คณะอนุกรรมการพิจารณาจัดการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน โดยมีองค์ประกอบดังนี้ (1) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการ (2) นายศุภนิจ จัยวัฒน์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี รองประธานอนุกรรมการ (3) ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ รองประธานอนุกรรมการ โดยอนุกรรมการ ประกอบด้วย(4) ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (5) ผู้แทนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (6) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา (7 ) นายต้น ณ ระนอง และ (8) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ อนุกรรมการและเลขานุการ
ทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าว มีหน้าที่พิจารณากลั่นกรองแผนงานของสมาคมกีฬาต่าง ๆ และประสานกับรัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชน เพื่อของบประมาณตามความเหมาะสม โดยโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ พลัสนี้ จะเริ่มงานในทันที และมีเป้าหมายว่าภายใน 2 เดือน จะเริ่มทยอย “จับคู่” ได้ โดยมีเป้างบประมาณอยู่ที่ 1,300 – 1,500 ล้านบาทต่อ 4 ปี ที่จะหามาสนับสนุนสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยภายใต้โครงการนี้