In Thailand
คุณพระช่วย!หนุมแรงงานไทย'อิสราเอล' โชว์พระเครื่องทำให้รอดตายสงคราม
กาฬสินธุ์-หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกนายจ้างอิสราเอลทิ้ง รอดชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบใกล้ฉนวนกาซา ทางตอนใต้ของประเทศอิสราเอล กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย เผยซ่อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัย 15 วัน เชื่อมีชีวิตรอดและได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยเพราะพระระลึกถึงพระคุณพ่อพระคุณแม่ สวดมนต์ภาวนาและพุทธคุณหลวงพ่อที่ห้อยคอ 3 องค์ ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุแรงงานไทยกลับถึงบ้านแล้ว 26 คนจากทั้งหมด 230 คน
วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค. เวลา 20.00 น.ที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 บ้านหาดทรายมูล ต.พิมูล อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นายกิติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก พร้อมด้วยนายสุปัน บุญมาพล นายก อบต.พิมูล ว่าที่ร้อยตรีสมานมิตร ญาณบุญ ปลัด อบต.พิมูล นายถาวร โนนทิง ผญบ.หาดทรายมูล ม.4 และนายพิชัย ภูสง่า ผญบ.พิมูล หมู่ 7 ร่วมต้อนรับการกลับบ้านของนายวิไล เทพเหมือนไพร แรงงานไทยที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ ยังมีญาติพี่น้องที่ทราบข่าว และเดินทางมารอรับ เข้าสวมกอดรับขวัญนายวิไลด้วยความดีใจ ท่ามกลางบรรยากาศที่ชื่นมื่น
นายวิไล เทพเหมือนไพร อายุ 40 ปี แรงงานไทยกล่าวว่า ทันทีที่กลับถึงแผ่นดินประเทศไทย ชีวิตเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะช่วงที่เกิดเหตุการณ์สู้รบนั้น ที่พักของตนอยู่ห่างฉนวนกาซาเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ได้ยินเสียงขีปนาวุธถูกยิงสกัดบนท้องฟ้าเหนือหัวทั้งวันทั้งคืน ขณะที่นายจ้างก็ได้หนีไปหลบภัยที่อื่น ปล่อยให้ตนกับเพื่อนแรงงานไทยชาวสกลนครอีก 4 คน เผชิญชะตากรรมตามลำพัง โดยซ่อนตัวอยู่ในหลุมหลบภัย จะออกไปไหนก็ไม่ได้ เพราะกลัวถูกกลุ่มฮามาสยิง และกลัวจะได้รับอันตรายจากสะเก็ดระเบิด พอมีโอกาสก็โทรประสานสถานทูตไทย เพื่อขอความช่วยเหลือกลับบ้าน และส่งข่าวมาให้ทางบ้านทราบว่าตัวเองปลอดภัย ยังดีที่ยังพอมีน้ำ มีอาหารเหลือให้กินประทังชีวิต ตลอด 15 วันที่อยู่ในหลุมหลบภัย จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือจากทหารอิสราเอล
นายวิไลกล่าวอีกว่า สิ่งที่ทำให้ตนแคล้วคลาดปลอดภัย และได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย เชื่อว่าหมั่นรำลึกถึงพระคุณพ่อพระคุณแม่ สวดมนต์ภาวนาบูชาพระรัตนตรัย และพุทธคุณของพระเครื่อง 3 องค์ที่ห้อยคออยู่ตลอดเวลา คือหลวงพ่อรวย หลวงพ่อผ่าน และหลวงพ่อพิมูล ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่พ่อแม่ให้ติดตัวไป ช่วยคุ้มครองป้องกันภัย ตั้งแต่เดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอลเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ตนไปทำงานในสวนเกษตร รายได้เฉลี่ยเดือนละ 50,000 บาท เหลือสัญญากับนายจ้างอีก 1 ปี หากเหตุการณ์สงบก็อยากกลับไปทำงานอีก เพราะรายได้ดี
ด้านนางชาลินี เทพเหมือนไพร อายุ 37 ปี ภรรยานายวิไล กล่าวด้วยความดีใจว่า ได้สามีกลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าเป็นความโชคดีที่สุดแล้ว ใจจริงไม่อยากให้สามีกลับไปอีก เพราะกลัวจะได้รับอันตราย ค่อยทำมาหากินทำนาทำไร่ที่บ้านเราก็พออยู่ได้ อย่างไรก็ตามก็สุดแท้แต่สามีว่าจะกลับไปอีกหรือไม่ ทั้งนี้ ก็ต้องขอขอบคุณหน่วยงานกระทรวงแรงงาน นายอำเภอห้วยเม็ก นายก อบต.พิมูล ผู้นำชุมชน รัฐบาล และกงสุลไทย ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจ และช่วยเหลือสามีให้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยในครั้งนี้
ขณะที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล จ.กาฬสินธุ์ ระบุว่า แรงงานไทยชาว จ.กาฬสินธุ์ ที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลทั้งหมด 230 คน ชาย 226 คน หญิง 4 คน เสียชีวิต 1 คน ขอรับการสงเคราะห์จากกองทุนฯ 7 คน และเดินทางกลับถึงไทยแล้ว 26 คน