In News
นายกฯตรวจเยี่ยมจังหวัดอุดร-หนองคายชูตั้งศูนย์OSSยัน4ปีเกษตรกรเป็นเศรษฐี
หนองคาย-นายกฯ เปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 จ.หนองคาย ยืนยันรัฐบาลสนับสนุนทุกเทศกาลในจังหวัดและเมืองรอง พยายามยกระดับรายได้ ความเป็นอยู่ของประชาชน ก่อนหน้านี้นายกฯได้ย้ำรัฐบาลตั้งใจพัฒนาให้ จ.หนองคายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค หวังให้ด่านศุลกากรหนองคาย เป็นต้นแบบการให้บริการ One Stop Service ขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆ และที่จังหวัดอุดรธานี นายกฯตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการเกษตร เชื่อรายได้เกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ภายในเวลา 4 ปีข้างหน้า
วันนี้ (29 ต.ค. 66) เวลา 16.45 น. ณ ลานนาคาเบิกฟ้า ตำบลจุมพล อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566 (Naga Fire Miracle of Faith) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายคำพัน อั่นลาวัน เอกอัครราชทูต สปป.ลาวประจำประเทศไทย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ประชาชนและนักท่องเที่ยว เข้าร่วมงาน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคในวันนี้ รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนเทศกาลทุก ๆ เทศกาลในจังหวัด รวมถึงจังหวัดหนองคายและเมืองอื่น ๆ ที่เป็นเมืองรอง ให้มีการท่องเที่ยวที่กระจายไปทั่วทุกจังหวัด วันนี้ถือว่าเป็นวันอันมงคลได้นำคณะรัฐมนตรีมาลงพื้นที่กันหลายคน ทั้ง สส. บัญชีรายชื่อ และได้ตื่นตาตื่นใจได้เห็นนางรำชาวโพนพิสัยเกือบพันคนแต่งกายอย่างสวยงาม ร่วมแสดงกันอย่างเต็มที่ เมื่อสักครู่ได้ทักทายกับพี่น้องประชาชนจะเห็นว่ามีปัญหามากมาย ทั้งเรื่องการเปิดด่านชั่วคราว ซึ่งปัญหาเหล่านี้อยู่ฝั่ง สปป.ลาว โดยในวันพรุ่งนี้เช้านายกฯ จะเดินทางไปเจรจากับ สปป.ลาว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประชุมที่ด่านศุลกากรหนองคาย ว่า ได้มีความพยายามพัฒนาด่านค้าขายของไทยให้เป็นมิตรมากยิ่งขึ้น รวมถึงให้มีการดำเนินการการค้าชายแดนและการพัฒนา One Stop Service เพื่อให้การขนส่งสินค้าเข้าออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถค้าขายและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนให้ดีขึ้น
และวันนี้ได้นำคณะรัฐมนตรีมาลงพื้นที่ด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมดูแลเรื่องถนน ทางรถไฟและสนามบิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดูแลเรื่องการท่องเที่ยวอย่างดี ไปไหนไปด้วยกัน รวมถึงผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่มาดูแลเรื่องการสร้างสนามบินที่จังหวัดหนองคาย โดยในเรื่องนี้จะต้องมีการหารือร่วมกัน นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมที่เข้าใจพื้นที่เป็นอย่างดี เพราะเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและในจังหวัดภาคอีสาน และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดูแลเรื่องกรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสนับสนุนทางด้านวัฒนธรรม ศาสนา ทั้งนี้ ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน พยายามยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชน
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ไปร่วมชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค ณ พุทธอุทยานนานาชาติ (ปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์) ตำบลกุดบง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งในการรอชมบั้งไฟพญานาคที่สวยงามตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง โดยมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ปักหลักรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคที่จุดนี้ พร้อมกับที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงในหลายจุดพื้นที่ของจังหวัดหนองคาย
นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลตั้งใจพัฒนาให้ จ.หนองคายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค หวังให้ด่านศุลกากรหนองคาย เป็นต้นแบบการให้บริการ One Stop Service ขยายผลไปยังพื้นที่ต่าง ๆ
นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลตั้งใจพัฒนาให้ จ.หนองคายเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในระดับภูมิภาค หวังให้ด่านศุลกากรหนองคาย เป็นต้นแบบการให้บริการ One Stop Service ขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
เวลา 15.10 น. ณ สำนักงานศุลกากร จังหวัดหนองคาย นายเศรษฐา เป็นประธานการประชุมติดตามประเด็นปัญหาการส่งออก ขั้นตอนพิธีศุลกากร การค้าชายแดนและการพัฒนา One Stop Service ระหว่างราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่เข้าร่วมประชุม โดย นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายที่สำคัญ ดังนี้
ด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อผลักดันศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ (One Stop Service :OSS) ทำให้การบริการภาครัฐรวมอยู่ในระบบเดียว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เป็นพื้นที่สำหรับการเจรจาธุรกิจ และแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างนักลงทุนกับผู้ประกอบการ ทำหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล ตรวจสอบมาตรฐานใบอนุญาตธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว และระบบทะเบียนบุคลากร
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน แต่ต้องอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนในทุกมิติ ให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ลงทุน ต้องเอื้อต่อการขนถ่ายสินค้าให้มีความสะดวกรวดเร็ว โดยมอบหมายให้กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย และให้ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ขอให้บูรณาการการทำงานให้ง่ายขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการค้าขาย โดยหวังให้ด่านศุลกากรจังหวัดหนองคาย เป็นต้นแบบในการให้บริการ One Stop Service และขยายผลออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศรวมทั้ง นายกรัฐมนตรีขอให้อำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดหนองคาย รองรับการขนส่งสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้การดำเนินงานมีความคล่องตัว สามารถช่วยอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนได้อย่างเป็นรูปธรรม ผลักดันให้การส่งออกเติบโตตามนโยบายรัฐบาล
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรีย้ำรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนเมืองรองเพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวสร้างรายได้เข้าสู่พื้นที่เมืองรองมากขึ้น พร้อมกล่าวยอมรับว่าเหตุการณ์ที่สยามพารากอนกระทบต่อการท่องเที่ยว ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ รีบประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความเชื่อมั่นต่อการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงมหาดไทยได้แก้กฎหมายการครอบครองปืนแล้ว ทั้งนี้ อีกสองสัปดาห์จะเป็นช่วงเวลาของการเปิดวีซ่าจีนต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวให้มากขึ้น
ด้านการต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทย-จีนมีความสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งจากการพูดคุยหารือนักลงทุนประเทศจีนมีความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานให้เกิดความร่วมมือ นำนักลงทุนมาลงทุนในประเทศไทยให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานของรัฐขับเคลื่อนการทำงาน มีส่วนร่วมต่อการดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในประเทศประเทศไทยให้มากขึ้น
“นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้พิจารณาการเสริมสร้างความร่วมมือและแก้ไขปัญหาอุปสรรคของการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางบก ราง เรือ และอากาศ พร้อมทั้งปรับปรุงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศให้มีความเป็นสากล รวมทั้งพัฒนากระบวนการโลจิสติกส์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว อย่างไร้รอยต่อ” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกฯ ลงพื้นที่อุดรธานีตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง
ช่วงเวลา 13.00 น. ณ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หมากหญ้า อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสุพร ตรีนรินทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ กปร. ร่วมการตรวจเยี่ยม ซึ่งนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายปริญญา คัชมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ และประชาชน ให้การต้อนรับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้เข้ามาบริหารจัดการเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในช่วงยังไม่ถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ทุกคนคงเห็นว่านายกฯ ได้เดินทางไปต่างประเทศ ไปดูโครงการใหญ่ ๆ รถไฟความเร็วสูง แลนด์บริดจ์ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของประเทศ มามากมาย เรื่องนี้เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ แต่ก็ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่ารัฐบาลนี้มัวแต่ดูแลเรื่องการลงทุน เรื่องไฮเทค เรื่องอุตสาหกรรมใหญ่ พี่น้องประชาชนหลายสิบล้านคนต้องพึ่งภาคเกษตรกรรม เรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง ล้วนเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญสูงสุด การที่รัฐบาลลงพื้นที่มาวันนี้ น่าจะเป็นที่ประจักษ์ดีว่าเราให้ความสำคัญเรื่องนี้ โครงการพระราชดำริ ซึ่งบริหารจัดการเรื่องไม่ท่วมไม่แล้ง ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในแต่ละปี เราสามารถเก็บกักได้แค่ 1 ใน 3 ที่เหลือถูกปล่อยลงไปหมด ตรงนี้ถือว่าเรายังสามารถปรับปรุงได้ โครงการเก็บกักน้ำที่นี่และอีกหลาย ๆ ที่ ถือว่าเป็นโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และอยากให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ โดยไม่มีการล่าช้า ถ้าเราทำให้ไม่ท่วมไม่แล้ง ประกอบกับนโยบายรัฐบาลนี้ เปิดตลาดให้กับเกษตรกรไทย ตนเชื่อว่ารายได้ของเกษตรกรไทยจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวภายในเวลา 4 ปีข้างหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งฯ ถือเป็นโครงการแม่แบบและเป็นโครงการตัวอย่างที่ในหลายพื้นที่จะนำไปปรับปรุงและนำไปใช้ หากติดขัดเรื่องงบประมาณ หรือความช่วยเหลือต่าง ๆ ขอให้แจ้งมายังรัฐบาล โดยรัฐบาลพร้อมยินดีให้การช่วยเหลือ และให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนในขั้นพื้นฐาน ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ และต้องการผลักดันส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทานอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่ง เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภค บริโภค และการเกษตรให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และทรงรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยปากแบ่งพร้อมระบบส่งน้ำ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งพื้นที่รับประโยชน์ 1,600 ไร่ สำรองน้ำอุปโภค-บริโภค 798 ครัวเรือน คิดเป็นประชากร 3,740 คน บรรเทาปัญหาอุทกภัย โดยตัดยอดน้ำได้ 1,594,000 ลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 600 ไร่ โครงการดังกล่าวก่อสร้างตั้งแต่ปี 2565 - 2568 จากผลการดำเนินงาน ณ ปัจจุบันคิดเป็นร้อยละ 24 ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้