In News

นายกฯหารือนายกฯลาวชู7ประเด็นสำคัญ พร้อมลงนามในความร่วมมือ4เรื่อง



เวียงจันทน์-นายกฯ หารือ นายกฯ สปป. ลาว โดยได้หารือประเด็นสำคัญใน 7 ประเด็นพร้อมมีการเป็นสักขีพยานลงนามใน4 เรื่องสำคัญ เน้นย้ำการซื้อขายพลังงานสะอาด การขนส่งทางบก ลดอุปสรรค และการอำนวยความสะดวก

วันนี้ (30 ตุลาคม 2566) เวลา 08.35 น. ณ สำนักงานนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ และการหารือเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว โดยภายหลังเสร็จสิ้น นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้ 

นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือให้ใกล้ชิดกัน 

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ดังนี้

การค้า นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนการเชื่อมโยงกันทางเศรษฐกิจระหว่าง สปป. ลาว กับ ภาคอีสานของไทย ให้เป็น Growth Area ที่เกื้อกูลกัน พร้อมเห็นควรร่วมกันหาแนวทางลดอุปสรรคและเร่งอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมจัดการประชุมระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาว ครั้งต่อไป เพื่อกำหนดแนวทางในการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันต่อไป

โครงสร้างพื้นฐานด้านความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีย้ำการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล สปป. ลาว ที่ต้องการเปลี่ยนประเทศจาก Land-locked เป็น Land-linked และพร้อมสานต่อการทำงานร่วมกับฝ่าย สปป. ลาว ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ 

สำหรับความเชื่อมโยงทางระบบราง นายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งรัดการหารือรายละเอียดเพื่อเริ่มก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟข้ามแม่น้ำโขง (หนองคาย-เวียงจันทน์) โดยไทยพร้อมสนับสนุนแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งรัดการจัดทำกรอบความตกลง (Technical Arrangement) เพื่อเริ่มเดินรถไฟระหว่างสถานีท่านาแล้งมาถึงสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ได้ในต้นปีหน้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างกัน

สำหรับความเชื่อมโยงทางถนนและสะพาน นายกรัฐมนตรียินดีที่หลายโครงการมีความคืบหน้า ทั้งโครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ซึ่งก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ โครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการแล้ว รวมถึงโครงการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 12 (นครพนม/ท่าแขก แขวงคำม่วน - นาเพ้า แขวงบอลิคำไซ/ จาลอ จังหวัดกว่างบิงห์ เวียดนาม) เพื่อช่วยส่งเสริมการขนส่งระหว่างไทย - สปป. ลาว - เวียดนาม - จีน ให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนตามแนวเส้นทางนี้ด้วย

การขนส่งและโลจิสติกส์ ในด้านราง นายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมพิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการลดระยะเวลาและต้นทุนการขนส่ง ทั้งนี้ ฝ่ายลาวรับสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาร่วมกัน โดยขอให้มีการกำหนดอัตราค่าบริการ (handling charge) ที่ชัดเจน และแน่นอนในการเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่เวียงจันทน์ (Vientiane Logistic Park -VLP) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนได้ล่วงหน้า การค้าขายทางระบบรางจะเพิ่มขึ้น ในด้านถนน นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายลาวพิจารณาให้รถบรรทุกหัวลากตู้คอนเทนเนอร์ของไทยขนส่งสินค้าเข้าไปใน สปป. ลาว ได้เหมือนช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 

ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ และเห็นพ้องเร่งรัดการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Action Plan) ระหว่าง 3 ประเทศ (ไทย สปป. ลาว และเมียนมา) ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ ไทยมีแผนสนับสนุน สปป. ลาว ในการจัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่า (Fire Risk Map) และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหน่วยงานของทั้งสองฝ่ายจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

พลังงานสะอาด นายกรัฐมนตรีสนใจซื้อพลังงานสะอาดจากลาวเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ขยายตัว

ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารสำคัญ และส่งมอบโครงการต่าง ๆ ดังนี้

1) พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม กับกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป. ลาว

2) พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือสำหรับการให้ความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบการเสริมสร้างขีดความสามารถสำหรับการฝึกพนักงานขับรถไฟและพนักงานจำหน่ายตั๋ว และการจัดทำแผนธุรกิจให้กับรถไฟแห่งชาติลาว (Record of Discussions between NEDA and Lao National Railway for the Technical Assistance for the Capacity Building for Locomotive Driving and Ticketing System and Development of a Business Model for the Lao National Railway)

3) พิธีส่งมอบสวนรุกชชาติมิตรภาพเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตราชอาณาจักรไทย - สปป. ลาว

4) พิธีส่งมอบศูนย์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่โรงเรียนเทคนิควิชาชีพแบบผสม แขวงอัตตะปือ

นายกฯเข้าเยี่ยมคารวะ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป. ลาว และพบหารือ นายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป. ลาว ตามลำดับ

09.45 น. ณ ทำเนียบประธานประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าเยี่ยมคารวะ นายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป. ลาวและเลขาธิการใหญ่คณะบริหารงานศูนย์กลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และต่อมาในเวลา 10.25 น. ณ สภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายกรัฐมนตรีได้ พบหารือกับ นายไซสมพอน พมวิหาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป. ลาว โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้ 

ในการเข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศ สปป. ลาว นายกฯ ได้สรุปผลการหารือกับสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ให้รับทราบ เช่น เรื่องการค้าการลงทุน ความร่วมมือด้านพลังงาน ความเชื่อมโยง ทั้งระบบราง ถนนและสะพาน การขนส่ง Logistics ความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ปัญหาหมอกควัน เป็นต้น 

โดยประธานประเทศฯ แสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับนายกฯ ในการเยือนอย่างเป็นทางการ ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ลาว ที่มีความร่วมมืออย่างแนบแน่นใกล้ชิด ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือที่ได้คุยกันในวันนี้จะก้าวหน้าเป็นโอกาสให้ได้พัฒนา เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ

ในส่วนของการพบหารือประธานสภาแห่งชาติ สปป. ลาว นายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือกับฝ่าย สปป. ลาว ในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้มีความคืบหน้า โดยเฉพาะในประเด็นการเพิ่มปริมาณการค้าชายแดน การส่งเสริมความเชื่อมโยง การคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ ทั้งทางถนนและรถไฟ ตลอดจนความร่วมมือเพื่อการพัฒนา พร้อมหวังว่า ประธานสภาแห่งชาติ สปป. ลาว จะให้การสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างไทยกับ สปป. ลาว อย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งฝ่ายประธานสภาแห่งชาติ สปป. ลาว กล่าวว่าลาวชื่นชมนายกรัฐมนตรี และให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ไทย-ลาวในทุกระดับ ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันเสมอมา และพร้อมกระชับความร่วมมือกับไทยต่อไป

โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานร่วมพิธีเปิดสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) กับนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ซึ่งสถานีรถไฟดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนสองฝ่าย และสนับสนุนการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างรายได้ และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ