EDU Research & ESG

เอ็นไอเอชวนอินแฟชั่นเฟรนด์ลี่'เคียพาส' กระเป๋าหนังมังสวิรัติรายแรกของไทย



กรุงเทพฯ-กระแสความนิยมรักษ์สุขภาพและสิ่งแวดล้อมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากเทรนด์วีแกน (Vegan) ที่กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการงดเว้นการทานอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจเท่านั้น ขณะเดียวกันเทรนด์วีแกนยังมีอิทธิพลต่อการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ เครื่องแต่งกายที่มักหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากสัตว์ แต่เทใจให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ ไม่ฆ่า เบียดเบียน หรือทรมานสัตว์ ซึ่งแน่นอนว่าเทรนด์เหล่านี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้วงการธุรกิจยุคใหม่ไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่วงการแฟชั่นที่มีการผสานแนวคิดรักษ์โลกกับอัตลักษณ์ของธุรกิจ สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและครองใจคนยุคใหม่หัวใจวีแกน

สํานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) จะพาทุกคนไปส่องแบรนด์กระเป๋าสัญชาติไทยอย่าง “KEAPAZ” (เคียพาส) ผลงานของคุณพลัฏฐ์ บุญพลอยเลิศ เจ้าของรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ ประเภทการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งประสบความสำเร็จในฐานะผู้บุกเบิกในการนำวัสดุ จากธรรมชาติอย่าง “วัชพืชและพืช มาผนวกกับนวัตกรรมอันทันสมัยจนสามารถผลิตเป็นหนัง และต่อยอดสร้างสรรค์ออกมาเป็นกระเป๋าหนังมังสวิรัติรายแรกของไทย ช่วยจุดกระแสซอฟต์พาวเวอร์วงการแฟชั่นไทยต่อแบรนด์ระดับโลก ที่หันมาเพิ่มมูลค่าด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ทำให้ปัจจุบันมียอดขายแผ่นหนังทะลุหมื่นผืนต่อเดือน! 

จุดเริ่มต้นไอเดียแปลง วัชพืชเหลือใช้’ สู่กระเป๋าหนังมังสวิรัติ แบรนด์ “KEAPAZ”

ผลงานกระเป๋าหนังจากพืช “KEAPAZ” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำกระดาษสาที่นำวัสดุธรรมชาติ มาอัดแน่นเป็นกระดาษได้ ดังนั้น บรรดาวัชพืชและต้นหญ้า ซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ก็น่าจะนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้เหมือนกระดาษสาเช่นกัน จึงเริ่มมีการทดลองนำวัชพืชและต้นหญ้ามาผลิตเป็นกระเป๋าหนังจากพืชรายแรกของไทย ภายใต้แบรนด์ “KEAPAZ” ได้สำเร็จ โดยดีไซน์ภายนอกจะคล้ายหนังวัวหรือหนังทั่วไป แต่แท้จริงแล้วเป็นหนังที่ทำจากวัชพืชและต้นหญ้าทั้งหมดตอบโจทย์กระแสรักษ์โลก สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ทำให้ได้ใจผู้บริโภคและมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เนรมิต ‘หนัง’ จากพืช คุณสมบัติเทียบหนังสัตว์ด้วย ‘นวัตกรรม’

การนำวัชพืชและต้นหญ้ามาทำเป็นกระเป๋าแบรนด์ไทยอย่าง “KEAPAZ” นั้น แม้จะได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ แต่หากถามความคิดเห็นของผู้บริโภคถึงความเชื่อมั่นในการใช้กระเป๋าที่ทำด้วยวัสดุจากพืช แน่นอนว่าหลายคนยังมีความกังวล รวมถึงตั้งคำถามไม่น้อยว่า กระเป๋าหนังจากพืชจะมีความแข็งแรง คงทน และใช้ได้นานเทียบเท่ากระเป๋าจากหนังสัตว์หรือไม่ ซึ่งหากย้อนดูกรณีศึกษาที่ผ่านมาพบว่ามีหลายประเทศสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่หลีกเลี่ยงการใช้วัตถุดิบจากสัตว์หรือเบียดเบียนทรมานสัตว์ เช่น ‘ลาว’ มีการนำใยบัวมาทำเป็นผ้า ‘ญี่ปุ่น’ มีการนำใยกล้วยมาทำผ้า ขณะที่ประเทศไทยก็มีการนำใยกล้วยมาทำผ้าหรือสินค้าแฟชั่นเช่นกัน ด้วยกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมที่นำลำต้นของกล้วยมาฟาดก่อน จากนั้นจึงดึงใยทีละเส้น และบรรจงทอ ทำให้ได้เนื้อผ้าที่มีลักษณะแข็งกว่าใยทั่วไป

และนี่เองที่จุดประกายให้แบรนด์ “KEAPAZ” มองเห็นโอกาสและสามารถต่อยอดผลิตกระเป๋าหนังจากพืชได้สำเร็จ โดยมีความแข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่ายเทียบเท่ากระเป๋าหนังสัตว์ แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ก็ไม่ง่ายเพราะต้องใช้เงินทุนและแรงสนับสนุนจากหลากหลายฝ่าย เพื่อสร้างสรรค์และต่อยอดขยายผลนวัตกรรมกระเป๋าหนังจากพืชฝีมือคนไทยทั้งเชิงพาณิชย์และเชิงสังคมให้ก้าวไกลสู่ตลาดโลก

ยกระดับวงการแฟชั่นไทย แปลงวัสดุเหลือใช้ ดันแบรนด์ไทยดังไกลสู่ตลาดระดับโลก

การนำวัชพืชและต้นหญ้ามาสร้างสรรค์เป็นแบรนด์กระเป๋าสัญชาติไทย ดีไซน์สวยทันสมัย ไม่เพียงแค่สร้างมูลค่าให้วัสดุเหลือใช้กลายมาเป็นสินค้ามูลค่าสูงที่ใครๆ ต่างต้องการเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ให้คึกคักขึ้นอีกด้วย เพราะในกระบวนการผลิตทำให้เกิดการจ้างงานในชุมชน ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น และทำให้เกิดความภาคภูมิใจในสินค้าแบรนด์ไทย ขณะเดียวกันก็ช่วยปลุกกระแสความนิยมเทรนด์วีแกน (Vegan) ให้แพร่ขยายในวงกว้างมากขึ้นทั้งตลาดในไทยและตลาดระดับโลก ควบคู่กับเทรนด์ความยั่งยืนที่เหล่าผู้ประกอบการและนักการตลาดต่างให้ความสนใจเพื่อพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ด้วยจุดขายที่ชัดเจน กระเป๋าแบรนด์ “KEAPAZ” จึงเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทยที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ถึงขนาดแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง MUJI (มูจิ) ได้ติดต่อสั่งซื้อหนังจาก KEAPAZ ไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าของตนเอง และโอกาสการเติบโตไกลสู่ตลาดนานาชาติก็เปิดกว้างขึ้น เมื่อกระเป๋า “KEAPAZ” ได้ไปร่วมออกบูธในงานสตาร์ทอัพและอินโนเวชันไทยแลนด์เอ็กซ์โป 2023 หรือ SITE 2023 ที่ NIA จัดขึ้น โดยได้รับการติดต่อจาก Yagi group ให้ออกแบบและผลิตตัวอย่างกระเป๋าจากวีชพืชคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อเตรียมส่งออกไปจำหน่ายในตลาดฝั่งอเมริกาและแคนาดา รวมถึงองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ JETRO ที่สนใจ และพร้อมส่งสตาร์ทอัพญี่ปุ่นมาพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัชพืชร่วมกับไทย เรียกได้ว่า ความสำเร็จของ “KEAPAZ” ได้จุดประกายให้เกิดความตื่นตัวในการใช้พืชเป็นวัตถุดิบสำหรับต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะหนังมังสวิรัติ (Vegan Leather) ซึ่งด้วยศักยภาพและความพร้อมด้านวัตถุดิบของไทยในฐานะประเทศเกษตรกรรม หากได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนทั้งด้านองค์ความรู้นวัตกรรม และงบประมาณก็จะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าและยกระดับสินค้าไทยให้โดดเด่นไม่เป็นรองใคร และสร้างพลังแห่งซอฟต์พาวเวอร์ให้กับแบรนด์ไทยในเวทีโลกได้อย่างแน่นอน