In Thailand

เหล่ากาชาดนครปฐมออกเยี่ยมครอบครัว ให้กำลังใจครอบครัวคนไทยอิสราเอล



นครปฐม-เหล่ากาชาดจ.นครปฐมลงพื้นที่เยี่ยม พร้อมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ขณะที่แม่แรงงานชาวไทยในอิสราเอลขอให้ลูกชายกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว

วันที่  31 ตุลาคม 2566 นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย รองนายกเหล่ากาชาด นายอำเภอสามพราน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมพร้อมให้กำลังใจ สอบถามปัญหาและหาแนวทางแก้ไขให้กับครอบครัวแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอล จำนวน 2 ราย พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือเบื้องต้น โดยลงพื้นที่เยี่ยมนางศศิวรี ปานกลาง อายุ 56 ปี อาศัยอยู่ที่ตำบลไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม มีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ อยู่ตลาดเซฟอี พุทธมณฑลสาย 2 เป็นแม่ของนายทวีศักดิ์ ปานกลาง อายุ 35 ปี 

นางศศิวรี เล่าว่า ลูกชายไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 6 เดือน ผ่านบริษัทจัดส่งแรงงาน ประกอบอาชีพทำสวนมีรายได้ประมาณ 40,000-50,000 บาท โดยแม่ได้กู้เงินเพื่อให้ลูกไปทำงานที่อิสราเอล ขณะนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ส่วนนายทวีศักดิ์ มีภรรยา และบุตรชาย อาศัยอยู่ที่จังหวัดสกลนคร มีภาระหนี้สินที่ปัจจุบันอยู่ประมาณ 200,000 บาท รวมถึงภาระส่งบ้าน ส่งรถ ส่งเงินให้แม่ ให้ภรรยา ซึ่งนายทวีศักดิ์ไม่ประสงค์จะกลับมาไทย เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย แต่มีการเตรียมความพร้อมเมื่อเกิดภัยจะอพยพทันที ด้านนางศศิวรี ผู้เป็นแม่เป็นห่วงลูกมาก อยากให้กลับมาอยู่กับครอบครัว

จากนั้น ลงพื้นที่ให้กำลังใจ นายอาคม แสนพรม อาศัยอยู่ที่ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน เป็นแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลผ่านกรมการจัดหางาน และได้เดินทางกลับมาถึงนครปฐม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 นายอาคม เล่าว่า ตนได้เดินทางไปประกอบอาชีพปลูกแตงกวา มะเขือเทศ ได้ประมาณ 2 ปี อาศัยอยู่บริเวณภาคกลางตอนบนของประเทศ ห่างจากจุดสงครามประมาณ 100 กิโลเมตร แต่ก็ยังได้ยินเสียงดังของระเบิด สาเหตที่กลับประเทศไทยคือ เพื่อความปลอดภัยและอยากกลับมาอยู่กับครอบครัว และรู้สึกดีใจที่หน่วยงานราชการเข้ามาดูแล ทั้งนี้ยังรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน พี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอล อยากให้กลับประเทศไทยมาอยู่หาครอบครัว

ทั้งนี้ รัฐบาลเป็นห่วงแรงงานไทยที่ยังทำงานในอิสราเอล  อยากให้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยก่อนสถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้น แต่หากยังคงทำงานอยู่ ก็ขอให้เพิ่มความระมัดระวังคิดถึงความปลอดภัยชีวิตก่อนเป็นอันดับแรก พร้อมอพยพหลบภัย หรือประสานทางราชการเดินทางกลับประเทศไทยทันที