In Global
NOCO-NOCOจับมือกับTESNOLOGY ขับเคลื่อนโครงการริเริ่มเมืองอัจฉริยะ
สิงคโปร์-10 พ.ย. 2566noco-noco Pte Ltd. (“noco-noco”) ผู้ให้บริการโซลูชันลดการปล่อยคาร์บอนในเครือ noco-noco Inc. (Nasdaq “NCNC”) ได้ทำข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มบริษัทด้านการวิจัยและพัฒนาผู้บุกเบิกเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะอย่าง Tesnology Co., Ltd. (“TESNOLOGY”) ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเร่งการพัฒนาและนำกลุ่มอุปกรณ์ RCTnm อันก้าวล้ำไปใช้ ซึ่งผสานรวมแบตเตอรี่มูลค่าเพิ่มสูงของ noco-noco เข้ากับเทคโนโลยี X-SEPA™ (แผ่นกั้น) และเทคโนโลยีควบคุมเอดจ์แบบกระจายของ TESNOLOGY ได้อย่างราบรื่น
อุปกรณ์ RCTnm จัดแสดงครั้งแรกในงาน CES2023 และ VivaTech 2023 ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้านการจัดการพลังงาน การกระจายศูนย์ และการสร้างเมืองอัจฉริยะ
ปัจจุบัน โลกกำลังเปลี่ยนจากโซลูชันข้อมูลที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นจำนวนมาก ไปใช้ระบบจัดการพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ความร่วมมือนี้ทำให้ noco-noco และ TESNOLOGY อยู่ในแนวหน้าของการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยสะท้อนให้เห็นอนาคตที่เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืน พึ่งตนเองได้ และสร้างขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลและพลังงานที่ทุกคนเข้าถึงได้ มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมเมืองอัจฉริยะในอุดมคติ โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการคุ้มครอง พร้อมใช้พลังงานอย่างเหมาะสมที่สุด และประชาชนเพลิดเพลินกับชีวิตที่สะดวกสบายโดยใช้พลังงานน้อยที่สุด
นวัตกรรมสำคัญที่ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์นี้คืออุปกรณ์ RCTnm ซึ่งเป็นชุดผลิตภัณฑ์ที่นำเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลแบบกระจายของ TESNOLOGY มารวมเข้ากับแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานและทนต่ออุณหภูมิสูงของ noco-noco โดยพลิกโฉมการจัดการข้อมูลและพลังงานตั้งแต่ในระดับครัวเรือน เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะด้วยเครือข่ายท้องถิ่นที่สื่อสารระหว่างกันแบบตาข่าย
อุปกรณ์เหล่านี้มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ ‘DI-Engine’ ของ TESNOLOGY ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลที่เน้นภาษา เพื่อดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและทำให้ข้อมูลเป็นที่เข้าถึงได้อย่างแพร่หลาย โดยไม่ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตหรือโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ซึ่งมีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับพลังงานราว 1% ทั่วโลก ในความเป็นจริงแล้ว ศูนย์ข้อมูลแห่งเดียวก็ใช้ไฟฟ้าเทียบเท่ากับบ้านได้มากถึง 50,000 หลัง และภายในปี 2573 ศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ คาดว่าจะใช้ไฟฟ้าเป็นสัดส่วน 13% ของทั้งโลก
นอกจากนี้ ปัญหาท้าทายด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอันเป็นผลจากการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์กำลังถูกเพ่งเล็งและกำกับดูแลมากขึ้นทั่วโลก โดยเมื่อข้อมูลและความเป็นส่วนตัวจากการใช้โซลูชันคลาวด์กลายเป็นที่กังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ อุปกรณ์ RCTnm จะเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีจัดเก็บและจัดการข้อมูลที่ไม่ได้อยู่บนคลาวด์ มอบทางเลือกในการจัดการพลังงานและแบตเตอรี่ที่ปลอดคาร์บอน
อุปกรณ์ RCTnm กำหนดนิยามใหม่ให้กับแบตเตอรี่ โดยเปลี่ยนจากหน่วยเก็บพลังงานเพียงอย่างเดียวให้กลายเป็นแหล่งจัดการข้อมูลและพลังงาน อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ อำนวยความสะดวกในการคาดการณ์ความต้องการใช้และปริมาณพลังงานที่มี และช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดคาร์บอนได้อย่างจริงจัง
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เป็นผลจากความร่วมมือนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความซับซ้อนในการส่งเสริมความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนความคิดริเริ่มในการลดคาร์บอนให้กลายเป็นปัจจัยสร้างมูลค่าด้วย เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ เติบโตไปพร้อมกับลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด
คุณ Masataka Matsumura ซีอีโอของ noco-noco กล่าวเกี่ยวกับความสำคัญของความริเริ่มนี้ว่า “noco-noco มองว่า ความร่วมมือนี้ให้ประโยชน์ชัดเจน โดยอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นในแบตเตอรี่สมรรถนะสูงที่ใช้ X-SEPA™ ของเรา ประกอบกับความสามารถในการจัดการข้อมูลแบบใหม่ของ TESNOLOGY ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันที่ก้าวข้ามรูปแบบการทำกำไรแบบเดิม ๆ แบตเตอรี่อัจฉริยะเหล่านี้สร้างระบบนิเวศที่ไม่เพียงแต่ลดต้นทุนการดำเนินงานสำหรับธุรกิจในระยะยาวได้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบพลังงาน ทำให้เป็นสินทรัพย์สำคัญในการเปลี่ยนไปสู่แนวปฏิบัติที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ดร. Katsuhiko Kondo ประธานบริษัท TESNOLOGY กล่าวว่า “การทำข้อตกลงทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์นี้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่ noco-noco และ TESNOLOGY มีร่วมกัน ในการพลิกโฉมระบบกักเก็บพลังงาน ช่วยให้บูรณาการได้อย่างราบรื่น และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะในระดับครัวเรือนไปจนถึงทั้งชุมชน”